ใครๆ ก็อยากมีผิวหน้าที่สวยและสุขภาพดีใช่ไหมเอ่ย.. แต่บางสิ่งบางอย่างที่คุณทำเป็นประจำอาจจะเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวในตอนนี้ก็ได้นะคะ อย่าปล่อยให้มันสายเกินแก้ค่ะ มาดูกันเลยว่าพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัวนั้นมีอะไรบ้าง!
1. ไม่ค่อยทาครีมกันแดด
รู้หรือไม่ว่าครีมกันแดดถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อผิว ไม่เฉพาะกับคนที่อยู่กลางแจ้งเท้านั้น แต่คนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และแสงจากหลอดไฟนานๆ ก็อาจได้รับรังสีจากแสงเหล่าจากเช่นกัน หากคุณไม่ทาครีมกันแดดเลยก็จะประสบกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวแห้ง หยาบกร้าน ผิวไหม้เกรียม หรือมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้เลยนะคะ จากนั้นจึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย เพื่อปกป้องผิวจากปัญหาเหล่านี้
2. ละเลยการบำรุงผิว
หลังจากที่ใบหน้าถ
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่แน่ใจว่าจะแพ้น้ำหอมตัวนั้นตัวนี้หรือไม่ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมเพราะบางครั้งคุณก็ไม่ทราบว่าเป็นน้ำหอมธรรมชาติหรือมีสารเคมี จึงต้องกันไว้ดีกว่าแก้
4. พักผ่อนไม่เพียงพอ
เคยสังเกตหรือไม่ว่าช่วงที่คุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอใบหน้าจะสดใสและผิวจะดูดีกว่าปกติ เพราะร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง แต่การอดหลับอดนอนจะแสดงออกทางหิวหน้าได้อย่างชัดเจน หน้าคุณจะโทรมและซูบซีด ซึ่งปัญหาผิวที่เกิดตามมาคือ สิว และจะทิ้งรอยเอาไว้ด้วย ดังนั้นจึงควรนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงนะคะ
5. ขัดหรือสครับผิวแรงเกินไป
การขัดผิวบ่อยหรือแรงเกินไปถือเป็นการทำร้ายผิวหน้าโดยตรง ความถี่ที่เหมาะสมในการขัดหน้าคือ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และต้องใช้แรงที่พอดี การที่ขัดผิวแรงๆ นั้นไม่ได้ช่วยให้ผิวใสเร็วขึ้นเลยนะคะ นอกจากนี้การทิ้งระยะเวลาในการขัดหน้าจะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทนแทนเซลล์ผิวเก่าที่ถูกขัดออกไป ดังนั้นถ้าหากฝืนทำการขัดหน้าบ่อยๆ แทนที่จะทำให้หน้าใส กลับเป็นการรบกวนผิว ทำให้ใบหน้าแห้งกรัง เกิดสิว แถมริ้วรอยยังมาเยือนอีกต่างหาก
womensok
6. สัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ
ในแต่ละวันเราใช้มือจับนู่นจับนี่เยอะแยะ ทำให้มือมีเชื้อโรคมากมาย ซึ่งการเอามือจับหน้าบ่อยๆ อาจเร่งให้อาการสิวย่ำแย่ลง ทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น เกิดถุงใต้ตา และอาจเป็นสาเหตุของโรคหวัด เพราะเชื้อโรคที่มือสามารถเข้าสู่ระบบหายใจทางจมูกหรือปากได้นั่นเอง
ใครชอบทำข้อไหนบ่อยๆ แนะนำว่าให้เลิกทำเลยนะคะ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีของตัวคุณเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก: sanook
