ครีมกันแดด เป็นสกินแคร์ที่สาวๆ ขาดไม่ได้ และไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่มีผิวหน้ามันและเป็นสิวง่าย มักจะมีข้ออ้างในการไม่ทาครีมกันแดด เนื่องจากปัญหาความเหนียวเหนอะหนะ และการอุดตัน แต่ทั้งนี้ การทาครีมกันแดดนั้นสำคัญมากๆ เพราะช่วยในเรื่องของการปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ให้ผิวหมองคล้ำหรือแก่ก่อนวัยจากการทำร้ายของแสงแดด
แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจไม่น้อย ที่สาวๆ หลายๆ คน ยังคงทาครีมกันแดดกันผิดวิธี และยังคงมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับครีมกันแดดดด้วย ซึ่งในวันนี้พี่อะเครุจะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้ให้กระจ่างค่ะ
5 เรื่องลับ เกี่ยวกับการทาครีมกันแดด
- พวกเราทาครีมกันแดดกันประมาณ 25-50% ของจำนวนที่ควรจะทา นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่นั้น ทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยจนเกินไป และไม่เพียงพอในการปกป้องผิวจากแสงแดด
- เราควรทาครีมกันแดดให้ครอบคลุมบริเวณที่เสื้อผ้าไม่สามารถปกปิดมิดชิดได้ และแน่นอนว่า เราไม่ควรมองข้ามการทาครีมกันแดดที่ผิวกายด้วย และที่สำคัญ ควรใช้ในปริมาณที่มากเพียงพอที่จะช่วยป้องกันผิวไหม้เกรียมจากแสงแดด
- หลายๆ คนมองข้ามการทาครีมกันแดดที่บริเวณเท้า คอด้านหลัง ใบหูด้านหลัง และบริเวณไรผม ซึ่งบริเวณเหล่านี้ มักเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดโดยตรง และมักเกิดอาการไหม้แดดได้ง่าย
- คนส่วนใหญ่มักทาครีมกันแดดแล้วออกจากบ้านเลย วิธีที่ดีที่สุดคือการทาครีมกันแดดบนผิวที่แห้ง แล้วควรรอให้ครีมกันแดดออกฤทธิ์ก่อนอย่างน้อย 15-20 นาที
- มะเร็งผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ริมฝีปากเช่นเดียวกับบริเวณผิวหนังอื่นๆ ดังนั้น ควรทาลิปมันที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด โดยเลือกค่า SPF 30 ขึ้นไป
วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง
ใครๆ ก็ทาครีมกันแดดได้ แต่จะทาถูกต้องไหมนั้น ต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมการทาครีมกันแดดของตัวเองค่ะ วันนี้ พี่อะเครุมีวิธีการทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องตามหลักของแพทย์ผิวหนังมาฝากสาวๆ เพื่อให้สาวๆ สามารถเรียนรู้ และสามารถทาครีมกันแดดได้อย่างถูกต้อง จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ต้องตามมาดูแล้วล่ะ
เลือกค่า SPF ป้องกันแสงแดดอย่างไร?
สารป้องกันแสงแดดที่แนะนำ ขั้นต่ำควรอยู่ที่ SPF15 เป็นอย่างน้อย แต่ค่า SPF15 ดังกล่าวนี้ เป็นค่า SPF สำหรับชีวิตประจำวันที่ทำงานอยู่ในร่ม ไม่ได้ออกไปไหน แต่หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรเลือกค่าป้องกันแสงแดดที่มากกว่านี้ เช่น SPF30 ขึ้นไป และหากต้องออกไปตากแดดหนักๆ สำหรับคนทำงานกลางแจ้ง หรือเมื่อต้องออกไปเที่ยวทะเล ควรเลือก SPF50 จะดีที่สุดนะคะ
ต้องทาในปริมาณมากแค่ไหน ถึงจะเพียงพอ?
คนส่วนใหญ่นั้น มักจะทาครีมกันแดดในปริมาณที่ไม่มากพอที่จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้ หลายๆ คน มักจะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลือง และต้องการประหยัดครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดดีๆ ส่วนมากนั้นมักจะมีราคาแพง แต่การทาครีมกันแดดอย่างเพียงพอนั้น ควรใช้ในปริมาณอย่างน้อย 2-3 ข้อนิ้วมือ สำหรับกันแดดเนื้อครีม และขนาดประมาณเหรียญสิบบาท สำหรับครีมกันแดดเนื้อน้ำ
ทาครีมกันแดดให้ถูกต้อง
หลายๆ คน มักจะสับสนว่าเมื่อทาครีมกันแดดแล้ว เราควรรอก่อน หรือสามารถออกไปข้างนอกได้เลย คำตอบของข้อสงสัยนี้ พี่อะเครุแนะนำให้สาวๆ อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ว่าครีมกันแดดที่สาวๆ มีนั้น เป็นครีมกันแดดประเภทใด
- ครีมกันแดด Chemical เป็นครีมกันแดดที่ดูดซับรังสียูวีไว้กับผิว ต้องรอก่อน 15-20 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ครีมกันแดด Physical เป็นครีมกันแดดที่สะท้อนรังสียูวีออกไปจากผิว ไม่จำเป็นต้องรอ เพราะครีมกันแดดออกฤทธิ์ได้ทันที แต่ต้องเกลี่ยให้ไม่ให้เหลือคราบขาวๆ บนผิว
ไม่มองข้ามจุดเล็กๆ ที่หลายๆ คนละเลย
เช่น บริเวณต้นคอด้านหลัง หลังใบหู เท้า ริมฝีปาก โชคดีที่บริเวณหนังศีรษะนั้นมีผมคอยบดบังเป็นเกราะป้องกันรังสียูวี แต่สาวๆ ที่มีผมบาง อาจจะลองใส่หมวกหรือกางร่ม เพื่อป้องกันรังสียูวีที่จะมาทำร้ายผิวที่บริเวณหนังศีรษะ
ไม่ควรเชื่อใจสารป้องกันแสงแดดในเครื่องสำอาง
สารป้องกันแสงแดดในรองพื้น อาจทำให้สาวๆ หลายๆ คนชะล่าใจ ไม่ยอมทาครีมกันแดด เพราะเชื่อว่า SPF สูงๆ ในรองพื้นนั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด พี่อะเครุขอบอกเลยนะคะว่าความเชื่อนี้ เป็นอะไรที่ผิดมหันต์เป็นอย่างยิ่ง เพราะประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดในรองพื้นนั้น ไม่เพียงพอที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี หากไม่อยากหน้าแก่ อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนลงรองพื้นนะคะ
เราอยากให้สาวๆ เห็นความสำคัญของครีมกันแดดมากๆ เพราะครีมกันแดดนั้น จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ให้ผิวเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย จากการทำร้ายของแสงแดดอีกด้วย เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว และเลือกค่า SPF ที่เหมาะสม รับรองว่าผิวสวยๆ จะอยู่คู่กับสาวๆ ไปอีกนานแสนนาน
ที่มา: goodhousekeeping
ที่มารูปภาพ: weheartit, thetruespoon
