การแต่งหน้าเคียงคู่กับผู้หญิงมาตลอดไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจเพิ่มความเป๊ะให้เราได้ และต่างคนก็มีฝีมือในการแต่งหน้าแตกต่างกันตามสไตล์ของแต่ละคน ซึ่งด้วยฝีมือที่ต่างกันนี่แหละค่ะ ที่อาจทำให้บางคนแต่งแล้วสวย แต่บางคนกลับแต่งแล้วโป๊ะ ดังนั้นเราเลยจะมาแชร์คำตอบของ 6 ปัญหาใหญ่ในการแต่งหน้าที่หลายคนพบเจอ เพื่อให้เข้าใจถูกต้องว่ามันควรทำยังไงกันแน่!
#ปัญหาที่ 1
Q: กรีดอายไลเนอร์แล้วตาดูดุไป เข้มไป ควรทำอย่างไร?
A: หากคุณสาวๆ มีปัญหาเรื่องกรีดอายไลเนอร์เพื่ออยากให้ดวงตากลมโต แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าตาดูเข้ม น่ากลัวจนเกินไป วิธีนี้แก้ได้ง่ายๆ เพียงแค่โบกมือลาอายไลเนอร์สีดำ แล้วหันมาซบอกอายไลเนอร์สีน้ำตาล ซึ่งเป็นโทนสีที่ดูซอฟต์ลงมา ทำให้ตากลมโตละมุน นอกจากนี้หากเป็นคนตาดุก็ควรหลีกเลี่ยงการปัดมาสคาร่าหนาๆ หรือติดขนตาปลอมที่ดูเป็นแพด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นตาจะดูเข้มและดุขึ้นมากๆ
#ปัญหาที่ 2
Q: อยากแต่งหน้าใสๆ แต่พอแต่งแล้วกลายเป็นหน้าแน่นทุกที ทำไงดี?
A: ใครๆ ก็ชอบลุคแต่งหน้าแบบใสๆ เบาๆ ได้ผิวธรรมชาติ แต่บางคนแต่งแล้วหน้ากลับดูแน่นและหนาเกินไปซะนี่ ให้ลองเปลี่ยนวิธีแต่งหน้าค่ะ โดยใช้หลักเน้นจุดสนใจเพียงหนึ่งเดียว เน้นที่จุดสำคัญ เช่น แก้ม ดวงตา และริมฝีปาก เพียงจุดใดจุดหนึ่งให้เด่นไปเลย
และจุดสำคัญของการแต่งหน้าให้ดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติคือ ไม่ควรโบ๊ะสีให้แน่นทั้งตา แก้ม และปากนั่นเอง ตัวอย่างสำหรับการแต่งหน้าเบาๆ เช่น ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูกุหลาบ แล้วทาปากแบบกลอสซี่สีอ่อนกว่าแก้มลงมา หรือหากอยากแต่งดวงตาให้ดูเด่นก็ควรลดโทนสีแก้มให้เป็นโทนสีนู้ดๆ กับปากชมพูอ่อน เพื่อไม่ให้ปากและแก้มแย่งซีนดวงตา เพียงเท่านี้สาวๆ ก็สามารถสร้างความสมดุลให้กับการแต่งหน้าได้แล้ว
และจุดสำคัญของการแต่งหน้าให้ดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติคือ ไม่ควรโบ๊ะสีให้แน่นทั้งตา แก้ม และปากนั่นเอง ตัวอย่างสำหรับการแต่งหน้าเบาๆ เช่น ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูกุหลาบ แล้วทาปากแบบกลอสซี่สีอ่อนกว่าแก้มลงมา หรือหากอยากแต่งดวงตาให้ดูเด่นก็ควรลดโทนสีแก้มให้เป็นโทนสีนู้ดๆ กับปากชมพูอ่อน เพื่อไม่ให้ปากและแก้มแย่งซีนดวงตา เพียงเท่านี้สาวๆ ก็สามารถสร้างความสมดุลให้กับการแต่งหน้าได้แล้ว
#ปัญหาที่ 3
Q: แต่งโทนสีชมพูแล้วไม่เหมาะ ควรเลิกแต่งหน้าโทนนี้ถาวรเลยไหม?
A: ถึงแม้ว่าสีชมพูจะเป็นโทนสีหวานที่สาวๆ ชื่นชอบ แต่ความหวานนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะคะ บางคนแต่งออกมาแล้วอาจจะแปลกจนไม่กล้าแต่งโทนนี้อีกเลย แต่ช้าก่อน.. สีชมพูไม่ได้มีแค่โทนเดียวนะ ถ้าอยากแต่งจริงๆ ก็สามารถเลือกโทนสีใหม่ๆ ที่เข้ากับตัวเองได้ เช่น เปลี่ยนไปใช้สีชมพูโทนส้มปะการังที่ใกล้เคียงกับสีผิวเรา โทนสีนี้จะทำให้ลุคของสาวๆ ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและดูไม่น่าอึดอัด ในส่วนของงานปากก็ลองทาลิปกลอสโดยใช้มือแตะๆ ให้สีดูระเรื่อคล้ายสีปากเดิม เท่านี้ก็ทำให้เมคอัพโดยรวมดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้ว
#ปัญหาที่ 4
Q: มีเวลาแต่งหน้าไม่พอ! ฉันควรทำอย่างไร..?
A: ในสถานการณ์เร่งรีบแทบไม่มีเวลาแต่งหน้า แต่ก็ไม่มั่นใจกับหน้าสดเอาซะเลย ทำไงดีนะ.. ถ้าอยากสวยแบบเร่งด่วน เน้นแค่งานปาก คิ้วปังเป็นพอค่ะ โดยลงครีมบำรุง เขียนคิ้วให้ปัง และยิ่งถ้าเป็นคนที่มีคิ้วอยู่แล้วยิ่งง่ายเลย การมีคิ้วจะช่วยทำให้รูปหน้าดูสวยโดดเด่นมากยิ่งขึ้น จากนั้นเติมลิปกลอสโทนสีสดใสๆ ไปสักนิด เพียงเท่านี้ก็ได้เมคอัพงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ สวยทันเวลาแน่นอน
#ปัญหาที่ 5
Q: ส่วนไหนของใบหน้าที่เปลี่ยนให้เราดูสวยขึ้นได้ในพริบตาเดียว?
A: หากอยากเปลี่ยนให้รูปหน้าของตัวเองดูสวยแปลกตา การเปลี่ยนทรงคิ้วหรือเขียนคิ้วเป็นเส้นสวยสามารถช่วยได้ค่ะ และหากมีคิ้วที่รับกับหน้ายังช่วยทำให้หน้าดูเด็กลงอีกด้วย ยกตัวอย่างเทรนด์คิ้วเกาหลีที่กำลังฮอต ทรงตรงๆ ที่ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น หรือการสักคิ้ว 6 มิติที่ดูเป็นธรรมชาติ เน้นขนคิ้วฟูๆ นี่คือที่มาของคำว่าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้าที่ทรู
#ปัญหาที่ 6
Q: อยากสวยเป๊ะแบบไอดอลดารา ต้องทำยังไง?
A: หากคุณอยากค้นหาสไตล์การแต่งหน้าที่ใช่ให้สวยเป๊ะเหมือนไอดอลหรือดารา ต้องเริ่มจากการรู้จักตัวเองก่อน เช่น รู้ว่ามีโทนสีผิวไหน สภาพผิวเป็นอย่างไร รูปทรงหน้าเป็นแบบไหน สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เราค้นพบการแต่งหน้าที่ใช่ในแบบของตัวเองได้ และควรศึกษาจากคลิปสอนแต่งหน้าต่างๆ แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับเรา เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะค้นพบลุคที่ทำให้สวยไม่แพ้ใคร
ลองนำความรู้จากการแต่งหน้าเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ เรื่องง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามอาจเปลี่ยนผู้หญิงธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสาวสวยเหมือนไอดอลเลยก็ได้นะ
ที่มา: elle
ที่มาภาพ: insideretail, camelliavietnam, beautytap.1, beautytap.2, weheartit, tumblr, bbc, makeuptutorials, dailyvanity, i.pinimg
