
พวกเราคงเคยได้ยินการเตือน, คำแนะนำ และการห้าม เกี่ยวกับข้อจำกัดในการถูกแสงแดดของคุณ แต่ว่าที่จริงแล้ว พวกเราอาศัยอยู่ในแถบประเทศเขตร้อน แสงแดดจึงเป็นเหมือนสิ่งที่ใครหลายๆคนอยากหลีกเลี่ยง ซึ่งต่างจากชาวต่างชาติที่ชื่นชอบแสงแดด และนิยมมาเที่ยวในประเทศเขตร้อน พวกเขาต่างรู้ว่าแสงแดดจากดวงอาทิตย์จะทิ้งร่อยรอยไว้ให้เราที่ผิวของเรา และนี่ยังไม่รวมถึงการเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นคำถามที่ว่า พวกเราจะป้องกันและจัดการอันตรายจากดวงอาทิตย์อย่างปลอดภัยได้อย่างไร
พวกเราจึงได้ทำการสอบถามไปที่Dr. Susan Stuart แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ La Jolla Skin โดยDr. Susan จะเป็นผู้มาตอบคำถามจากเว็บของ La Jolla Skin และนี่คือคำตอบบางส่วนค่ะ
1. อะไรเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับการป้องกันอันตรายจากดวงอาทิตย์?
(image source: herbeauty)
ดร.ซูซานให้คำตอบว่า เริ่มแรกควรให้ความสนใจกับนาฬิกา หากคุณออกไปข้างนอกในช่วงเวลา 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด ดังนั้นพยายามอยู่ในที่ร่มๆเอาไว้ และหากต้องอยู่ข้างนอกเกิน 15 นาทีให้ทาครีมกันแดดป้องกันไว้ นี่เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆเลย
ที่จริงแล้วดร.ซูซานจะแนะนำคนไข้ของเธอให้ทาครีมกันแดดทุกวันในตอนเช้าจนเป็นนิสัย ไม่ว่าวันนั้นพวกเขาวางแผนที่จะทำอะไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีครีมกันแดดดีๆมากมายที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นด้วย การทาหลังอาบน้ำตอนเช้า, ก่อนแต่งหน้า และนี้ก็เป็นขั้นตอนที่ดีในการป้องกันตัวเอง
และยังมีเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจชื่นชอบ ซึ่งก็คือการสวมหมวกนั้นเอง โดยเฉพาะหมวกปีกกว้างที่กำลังอินเทรนอยู่ในตอนนี้
2. อะไรเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการไหม้จากแสงแดด?
ดร.ซูซานตอบว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ดื่มน้ำเพื่อรักษาสมดุลร่างกาย การดื่มน้ำเยอะๆ, การทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นไปทั่วผิวส่วนนั้น และปกป้องส่วนนั้นจากการถูกแดดเพิ่มอย่างแข็งขัน จนกกว่าจะรักษาหาย และทำอะไรก็ได้ในการรักษามัน แต่อย่าไปหยิบหรือลอกมัน หรือการสครับผิวบริเวณนั้น
3. การเลเซอร์สามารถลบรอยจากแสงแดด และอันตรายอื่นๆจากดวงอาทิตย์ได้ ใช่หรือไม่?
ดร.ซูซานตอบว่า ใช่ ที่จริงแล้วในตอนนี้มันมีตัวเลือกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่สำหรับการเลเซอร์เปลี่ยนผิวหนังใหม่ ทั้งการเปลี่ยนผิวทั้งหมดของใบหน้าและหน้าอก หรือแค่เฉพาะจุดที่โดนแดดเผา ที่คลินิกที่ดร.ซูซานทำอยู่ตอนนี้ La Jolla Skin มีการรักษาด้วยเลเซอร์หลากหลายประเภท เพื่อแก้ไขทุกอย่างตั้งแต่ผิวสีคล้ำไปจนถึงใบหน้าที่มีรอยย่น
สำหรับอันตรายจากดวงอาทิตย์ ดร.ซูซานบอกว่า ที่คลินิกก็มีการรักษาด้วยเลเซอร์ที่ชื่อว่า Fraxel® ด้วยเหมือนกัน มันปลอดภัยสำหรับส่วนที่โดนแดดเผาไหม้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า, คอ, หน้าอก และมือ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่พบได้ทั่วไป
4. ถ้าคุณเลือกรักษาอันตรายจากแสงแดดด้วยเลเซอร์ อะไรคือการหยุดทำงาน, และมีอะไรอีกที่คุณควรรู้ไว้?
ดร.ซูซานตอบว่า Fraxel®เลเซอร์รักษาผิวด้วยปลายเข็มของพลังงานที่ดีกว่าลำแสงแข็งๆ และทิ้งผิวจำนวนมากที่แตะไม่ถึงและทำงานได้ปกติ ซึ่งเข้าใกล้ผลลัพธ์ในการหยุดทำงานอย่างน้อยที่สุด ในขณะที่ยังส่งเสริมผิวในการซ่อมแซมและต่ออายุให้ตัวมันเอง คนไข้หลายรายกลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติหลังจากได้รับการรักษา แต่บางคนก็เลือกที่จะพักผ่อนที่บ้าน
เมื่อการรักษาสมบูรณ์ คนไข้จะต้องทำบางอย่างเพิ่มในหนึ่งถึงสองสัปดาห์แรก เช่นการใช้ถุงน้ำแข็ง (เพื่อลดอาการบวม), ดื่มน้ำมากๆ, ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีสารกันแดดในบริเวณที่รักษา และสิ่งที่สำคัญก็คือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะว่าผิวมีความอ่อนโยนมากและไวต่อรังสียูวีขณะมันซ่อมแซมตัวเองอยู่
5. การทำเลเซอร์ Fraxel® เกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังมากแค่ไหน หากทำการรักษาในพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างเช่นทั้งใบหน้า?
ดร.ซูซานตอบว่า เมื่อมีการทำงานกับพื้นที่ขนาดใหญ่เช่น ผิวหน้าทั้งหน้า เซลล์ผิวหนังที่ลอกเป็นสะเก็ดบางส่วนไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่เกิดหลังการรักษาด้วย Fraxel®เลเซอร์ หากมีการหลุดลอกเกิดขึ้น คุณจะเห็นมันหลังผ่านไป48ชั่วโมง และจะหายไปภายใน5-10วัน
6. เมื่อไหร่จะเวลาที่ดีที่สุดในการใช้สารเคมีผลัดเซลล์ผิวหนัง และเมื่อไหร่ที่ควรทำเลเซอร์?
ดร.ซูซานตอบว่า ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดในการรักษาด้วยเลเซอร์ก็คือความแม่นยำ แพทย์ของคุณสามารถปรับเลเซอร์ถึงระดับความลึกที่เฉพาะเจาะจงกับจุดใดบนใบหน้าก็ได้ แม้ว่าเป้าหมายจะเป็นเส้นตรงและสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ข้อได้เปรียบอื่นๆของการรักษาด้วยเลเซอร์ก็คือ มันยังทำงานได้ดีเหมือนกันกับคนเรื่องเม็ดสีผิว และมันยังมีการหยุดทำงานเล็กน้อย เพราะว่าวิธีที่ปลายเข็มเลเซอร์ทำงานดีกว่าการใช้ลำแสงแข็งๆ
การใช้สารเคมีผลัดเซลล์ผิวหนัง หรือในอีกแง่หนึ่งสามารถทำงานได้ดีกับการลบริ้วรอยของคนด้วยเม็ดสีผิวหนังที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงมาก แต่เพราะมันถูกสัมผัสลงบนผิว แพทย์จึงไม่สามารถปรับระดับความลึกในการรักษาส่วนของใบหน้าที่ต่างกันได้ พื้นหน้าของผิวหนังทั้งหมดจะได้รับผล และเป้าหมายของมันก็เพื่อให้ผิวทั้งหมดลอกออกไป ไม่เหมือนกับการเลเซอร์
มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการหาแพทย์ผิวหนังที่มีความสามารถและได้รับการรับรอง เขาหรือเธอสามารถชี้แนะแนวทางการตัดสินใจของคุณได้โดยการตรวจสภาพผิวของคุณ และอธิบายผลที่คุณสามารถคาดหวังได้จากการรักษาแต่ละวิธี
7. อะไรคือครีมกันแดดสำหรับหน้าและตัวที่คุณชอบที่สุด?
(image source: herbeauty)
ดร.ซูซานให้คำตอบว่า ครีมกันแดดที่เธอชอบที่สุดคืออันหนึ่งที่ผู้ป่วยจะใช้ได้อย่างวางใจ พูดง่ายๆก็คือยี่ห้ออะไรจะสำคัญไปกว่าการหาครีมกันแดดที่คุณชอบ เพราะว่าคุณต้องลองใช้มันก่อนที่คุณจะออกไปข้างนอกและใช้มันอีกครั้งในภายหลัง แลคุณจะต้องพูดว่า พวกเราเป็นแฟนตัวยงของครีม MDSolarSciences™ line ที่ทำโดย La Jolla Skin
มันเป็นเรื่องสำคัญในการเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA (ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย) และ UVB (ที่เผาไหม้ผิวของคุณ) สิ่งหนึ่งที่คุณควรระวังก็คือ หากคุณมีผิวแห้ง ทางที่ดีที่สุดให้เลือกใช้ครีมหรือโลชั่นจะดีกว่าใช้สเปรย์
8. การมีรอยย่นบ่อยครั้งก็มีสาเหตุมาจากอันตรายจากดวงอาทิตย์ การใช้เครื่องสำอางค์ BOTOX® จะมีความปลอดภัยอย่างไร มันเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้บ่อยๆในโอกาสพิเศษใช่หรือไม่? หรือว่ามันเป็นพันธสัญญาในระยะยาวใช่หรือไม่?
ดร.ซูซานตอบว่า BOTOX เป็นสิ่งที่ปลอดภัยมากๆในการลดการปรากฏของริ้วรอย มันถูกอนุมัติครั้งแรกโดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี2002 เพื่อการปรับปรุงริ้วรอยระหว่างคิ้ว และมันค่อยถูกใช้กับบริเวณบนใบหน้าในเวลาต่อมา อาทิเช่น รอยตีนกา และรอยที่เกิดจากการหัวเราะ
ดร.ซูซานบอกอีกว่า บรรดาแพทย์มักจะอธิบายกับคนไข้เกี่ยวกับผลลัพธ์จากการรักษาเพียงครั้งเดียวจะเห็นผลภายใน3-5วัน และสามารถอยู่ได้นานถึง3เดือน หากคุณกำลังอยากจะให้ผลลัพธ์ยังคงอยู่ต่อไป คุณคงต้องรักการรักษาเพิ่ม แต่ละคนก็จะมีการใช้มันในวิธีที่ต่างกัน ซึ่งเหมากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บางคนรับการรักษาวิธีนี้บ่อยๆเพื่องานบางอย่างที่สำคัญ และบางคนได้ทำการนัดหมายเพื่อทำการรักษาบ่อยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นริ้วรอยเหล่านั้นกลับมาเลยระหว่างรับการรักษา
9. มีอาหารเสริมที่สามารถช่วยให้ผิวกลับมาต่อต้านแสงอาทิตย์ได้มากขึ้นใช่หรือไม่? แล้วอาหารที่พวกเราทานล่ะ?
ดร.ซูซานตอบว่า มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมออกมาไม่กี่ชนิดที่ได้รับการแสดงให้เห็นว่าเพิ่มการป้องกันรังสีUV ในการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้พบว่า สารสกัดจากพืชตระกูลส้มและสารสกัดจากโรสแมรี่ ทำให้การดูดกลืนของรังสีUV ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการไหม้แดดลดลงถึง 56%
แม้ว่าคำเตือนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจะสำคัญมากๆที่จะศึกษาให้ดี และต้องมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ในขวดเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตบอกไว้จริงๆ จากการเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีคำชี้เเจงที่ยังเป็นข้อกังขาอยู่ เพราะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไม่ค่อยได้รับการกำกับดูแลจาก FDA
มาถึงเรื่องอาหารของคุณกันบ้าง ดร.ซูซานให้คำตอบว่า อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเป็นกุญแจสำคัญ ผลไม้และผักที่มีสีสันสดใสเป็นการเดิมพันที่ปลอดภัยเสมอ
แม้ว่ามันเป็นเรื่องดีในการบำรุงผิวของคุณด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอาหารเสริมบางอย่าง แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ใส่ใจในการทาครีมกันแดดนะ
10. คุณเป็นแฟนของครีมชะลอความแก่ใช่หรือไม่? อันไหนที่คุณใช้?
ดร.ซูซานตอบว่า ครีมชะลอความแก่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการต่อต้านริ้วรอย เมื่อใช้อย่างถูกวิธีนะ อะไรก็ตามที่คุณทาลงบนผิวของคุณ ที่มีส่วนประกอบของครีมชะลอความแก่ ควรใช้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้น นั้นก็เพราะว่า ครีมชะลอความแก่ (ที่มีชื่อทางเคมีว่า วิตามินA) จะเสื่อมตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเจอแสงแดด และสามารถพัฒนาการเพิ่มขึ้นของอายุผิวมากขึ้น เพราะมันจะทำให้ผิวของคุณมีความรู้สึกไวต่ออันตรายของดวงอาทิตย์
การใช้ผลิตภัณฑ์ตอนกลางคืนให้ตรงเวลาจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ตรงกับที่นำเสนอ ดร.ซูซานแนะนำให้ใช้ SkinMedica® ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในการทดลองของคลีนิกนี้ และ ดร.ซูซานยังบอกอีกว่า เธอดีใจที่ได้แนะนำแบรนด์อื่นๆที่ได้รับการสนับสนุนโดยนักวิทยาศาสตร์จริงๆ แต่สิ่งสำคัญก็คือ การศึกษาให้ดีก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับคนที่ชอบอ่านความคิดเห็นตามเว็บไซต์ ควรจะสอบถามข้อมูลเพิ่มจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย
(image source: herbeauty)
ข้อมูลเพิ่มเติม:
Dr. Susan M. Stuart ( www.lajollaskin.com ) เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ได้รับการรับรองเรื่องการทำเลเซอร์ดูแลผิวหนัง, การดูแลรักษาโรคมะเร็งผิวหนัง, เลเซอร์กำจัดขน, และขั้นตอนการฟื้นฟูผิวอื่น ๆ ดร.ซูซานเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงในฐานะสมาชิกของศูนย์การแพทย์ UCSD และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแพทย์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญในรักษาโรคผิวหนังของอเมริกา
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )