
นอกจากการบำรุงรักษาผิวด้วยครีมดีๆ อีกสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพราะผิวที่ทำความสะอาดไม่ดีมักเกิดปัญหาผิวแย่ๆ ตามมาหลอกหลอนไม่หยุดหย่อน วันนี้เราจึงนำทริคทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งลบคราบสกปรกกำจัดเมคอัพแบบหมดจดโดยไม่ทำร้ายผิวหน้ามาแชร์ ใครอยากมีผิวดีแบบยาวๆ ลองมาเริ่มเรียนรู้การทำความสะอาดผิวหน้าที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กันเลยจ้า
1. อย่าลืมใช้ Eye and Lip Makeup Remover
ผิวรอบดวงตาและริมฝีปากนั้นแตกต่างจากผิวหน้า เพราะเป็นจุดที่บอบบางมากและมักแต่งด้วยเครื่องสำอางกันน้ำ จึงจำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางสำหรับดวงตาและริมฝีปากโดยเฉพาะ นอกจากนี้วิธีที่ถูกต้องในการกำจัดเมคอัพคือ ค่อยๆ เช็ดเบาๆ ไม่ถูแรง และควรหมั่นสครับผิวปากสัปดาห์ละครั้งเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า วิธีนี้จะช่วยถนอมผิวรอบดวงตาและริมฝีปากให้แข็งแรงสดใสได้อย่างยาวนาน
2. ทำความสะอาดโดยเริ่มจากตา ริมฝีปาก และใบหน้า
หลายคนอาจจะงงว่าขั้นตอนการเช็ดทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งจะมีอะไรให้ยุ่งยาก เช็ดๆ ไป จะส่วนไหนก่อนเดี๋ยวคราบสกปรกก็หมดไปเอง แต่รู้ไหมว่านี่คือการทำร้ายผิวทางอ้อมอยู่ แถมสิ่งสกปรกยังตกค้างบนผิวหน้าอีกด้วย แนะนำให้เรียงลำดับขั้นตอนการลบเมคอัพที่ถูกต้อง โดยเริ่มจากการทำความสะอาดผิวรอบดวงตา ตามด้วยริมฝีปาก จากนั้นตามด้วยใบหน้าเป็นลำดับสุดท้าย ในแต่ละขั้นตอนตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสีใดๆ ของเมคอัพตกค้างบนแผ่นสำลีด้วยนะ
3. เลือกคลีนซิ่งให้เหมาะสม
โดยทั่วไปน้ำยาล้างเครื่องสำอางในท้องตลาดมีอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งมีพลังในการทำความสะอาดที่ต่างกันออกไป ชนิดน้ำอาจเหมาะสำหรับการแต่งหน้าแบบเบาๆ หากเป็นการแต่งหน้าที่หนักหนาแนะนำให้ใช้ออยล์ทำความสะอาดเข้าช่วย เพราะหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สิ่งสกปรกตกค้างสะสมบนผิวหน้า จนเกิดปัญหาผิวเสียหมองคล้ำตามมาในระยะยาว
4. คลีนซิ่งออยล์ควรผสมน้ำให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นตอนที่ถูกต้องในการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ คือการใช้น้ำผสมกับออยล์ให้เป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นค่อยๆ นวดลงบนใบหน้าเพื่อละลายเครื่องสำอาง ทำการเช็ดจากผิวด้านในสู่ด้านนอกเป็นวงกลม เมื่อนวดทำความสะอาดเรียบร้อยให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดตามอีกครั้ง หากใครกังวลว่าใช้ออยล์แล้วจะทำให้หน้าเกิดสิวเพราะความมันโปรดลืมไปได้เลย หากเราเลือกออยล์ที่เหมาะกับผิว ออยล์จะดึงคราบสกปรกออกจากผิว ไม่อุดตันรูขุมขนอย่างแน่นอน
5. เทคลีนซิ่งใส่สำลีแผ่นให้ชุ่ม
โดยทั่วไปการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า เรามักใช้สำลีแผ่นช่วยทำความสะอาด เพราะการใช้สำลีแห้งเดี่ยวๆ อาจทำให้ผิวได้รับความเสียหายได้ แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งเทลงไปบนสำลีให้ชุ่ม เพื่อลดแรงเสียดทานกับผิวในขณะเช็ดทำความสะอาด และเมื่อเช็ดบริเวณหนึ่งแล้วก็ไม่ควรใช้สำลีแผ่นเดิมเช็ดซ้ำที่ตำแหน่งใหม่ เพราะจะทำให้สิ่งสกปรกกระจายตัวไปยังส่วนอื่นๆ ยิ่งลบเครื่องสำอางออกมากเท่าไหร่ ใบหน้าก็ยิ่งสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวแย่ไปกว่าเดิม
6. การใช้คลีนซิ่งบาล์มผิดวิธีจะทำให้เกิดริ้วรอย
นอกเหนือจากการทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งแบบน้ำและออยล์แล้ว กระแสคลีนซิ่งครีมหรือบาล์มก็กำลังมาแรงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะแค่ทาบาล์มแล้วนวดให้ทั่ว จากนั้นล้างออก ผิวก็สะอาดแถมยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวรู้สึกเฟรชด้วย แต่สาวๆ อย่ามองข้ามปริมาณของบาล์มที่ใช้และวิธีการนวดทำความสะอาดนะคะ เพราะบางจุดคลีนซิ่งบาล์มอาจเข้าไปทำความสะอาดได้ยาก ทำให้เราเผลอใช้มือนวดแรงๆ ซึ่งการถูผิวหนักแบบนี้อาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าตามมาได้
ใบหน้าสวยด้วยเมคอัพไปแล้วก็อย่าลืมดูแลผิวหน้าหลังโนเมคอัพด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและเรียนรู้วิธีที่ถูกต้องในการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยนะสาวๆ เพื่อยืดอายุผิวให้สวยสุขภาพดีอย่างยาวนาน
ที่มา:beauty321
ที่มาภาพ:cheeek,maogo,xuehua,styleme,kknews,yidianzixun,onlylady,aili
Hi!! I'm Coojii อยากผ่อนคลายติดตามเรื่องราวไลฟสไตล์ชิคคูล คลิก Akerufeed โหลดความสุขสิ่งดีดี พร้อมรอส่งต่อกับทุกคนอยู่ที่นี่นะจ๊ะคนดี