
เราได้ยินข่าวความรุนแรงของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 บางทีการที่เราได้อ่านได้เสพข่าวมากๆ หรือได้ยินข่าวลือว่าคนนู้น คนนี้ใกล้บ้าน หรือมีคนที่ติดโควิดไปสถานที่เดียวกันกับเรา ก็อาจจะทำให้เราเป็นกังวล เครียด กลัวว่าเราจะติดโควิดแล้วหรือยัง วันนี้พี่อะเครุได้นำ 7 วิธีที่จะช่วยรับมือกับอาการวิตกกังวล เครียดช่วงที่มีโควิดระบาดแบบนี้มาฝากกัน เผื่อจะช่วยคลายกังวลเราได้บ้างนะ
สารบัญ
เลือกรับข้อมูลที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ
ที่มา : Freepik
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินทั้งข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวจริงปะปนกันมาในแต่ละวัน จนทำให้เกิดความเครียด เพราะฉะนั้นเราควรเลือกรับข่าวจากสื่อที่มีคุณภาพ โดยสามารถติตตามข่าวสารไวรัสโควิด-19 จาก กรมควบคุมโรค และเว็ปไซต์ข่าวต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความกลัวและความตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ผิดพลาด หรือเกินจริง ถึงแม้ว่าอาจจะช้ากว่าการอัปเดตข่าวตามสื่อโซเชียลของเราๆ ทั่วไป แต่จะสามารถเชื่อถือได้มากที่สุด
ตั้งลิมิตในการรับรู้ข่าว
ที่มา : Freepik
ถ้ารู้ตัวเองว่าเราเป็นคนที่เครียดง่าย เมื่อได้รับข่าวสารเยอะๆ แนะนำว่าให้ลิมิตการได้รับข่าวของเราเอาไว้ อาจจะฟังการแถลงข่าวจากโทรทัศน์หรืออ่านข่าวสรุปในช่วงเช้า กับช่วงเย็น ส่วนช่วงอื่นๆ อาจจะเลี่ยงการเข้าไปรับรู้เรื่องใน #Covid_19 เพื่อให้เราได้รับรู้เรื่องราวอื่นๆ จะได้ไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของไวรัสโควิดมากเกินไป ยิ่งใครๆ ก็สามารถเป็นสื่อเองได้อาจจะมีข่าวปลอม สร้างความเป็นกังวลให้เรามากขึ้นอีก
พยายามพูดคุยกับเพื่อนๆ อยู่เสมอ
ที่มา : Freepik
ช่วงที่ทุกคนเครียดๆ แบบนี้ การที่เราต้องกักตัวอยู่บ้าน ไม่ออกเพราะอาจจะเสี่ยงกับการติดโควิด-19 จะทำให้เราสามารถเกิดภาวะเศร้า ซึมได้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะพูดคุยกับเพื่อนๆ คนที่เรารัก โดยเลือกการติดต่อผ่านการโทรศัพท์, หรือแอปต่างๆ ออนไลน์ที่จะติดต่อกับใครได้ อาจจะคุยกับว่าทำอะไรอยู่ เมื่อเราได้รับความรักความห่วงใยจากทุกๆ คน จะช่วยให้เราสามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกันได้
ป้องกันตัวเอง จากความเสี่ยงโควิด
ที่มา : Freepik
การระบาดของโควิด-19 นี้ เราควรดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากไวรัส โดยวิธีที่จะสามารถดูแลตัวเอง และคนใกล้ชิดได้ อย่างเช่น การล้างมือให้บ่อยๆ (อย่างน้อย 20 วินาที), หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วย, ไม่จับใบหน้า ขยี้ตา แคะจมูกหากยังไม่ล้างมือให้สะอาด, และเมื่อมีอาการป่วยก็ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเรา และคนอื่นนะ
ทำตามกิจวัตรประจำวันของเรา
ที่มา : pakutaso
แม้จะมีการระบาดของโรค เราก็ยังคงต้องทำตามกิจวัตรประจำวันก่อนวันกักตัว ใครที่ต้องทำงานจากที่บ้านก็ควรตื่นในช่วงเวลาก่อนทำงาน ทานอาหาร และทำงานตามปกติ หรือหากต้องออกไปทำงานข้างนอก ก็ต้องป้องกันตัวเองก่อนที่จะออกไปข้างนอก การที่เราทำตามกิจวัตรปกติจะทำให้เราตื่นตัว และช่วยให้ปรับตัวกลับเข้าสู่ชีวิตประจำวันปกติได้หลังจากพ้นช่วงเวลากักตัว และยังช่วยให้เราไม่จมอยู่กับเรื่องของไวรัสโควิดอีกด้วย ส่วนใครที่ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือมีงานประจำ ก็อาจจะทำสิ่งที่อยากทำเช่น ทำอาหาร, DIY, ดูซีรีส์ หรือเรียนออนไลน์ เพื่อลดความเครียดลงก็ได้นะ
ทานอาหาร รักษาสุขภาพและไม่ควรสูบบุหรี่
ที่มา : Pakutaso
อีกข้อที่สำคัญก็คือ การได้รับสารอาหารที่ดี ได้ออกกำลังกายขยับตัว จะช่วยให้ดีกับทั้งร่างกายและจิตใจ WHO แนะนำให้ทานอาหารที่ดีต่อภูมิคุ้มกันของเรา และงดเว้น หรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีน้ำตาลเยอะ และไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะช่วยเพิ่มความเสี่ยงหากติดเชื้อโควิด 19 ได้ และอย่าลืมออกกำลังกายสักประมาณ 30 นาทีต่อวันก็ได้ เดี๋ยวนี้มีคลิปออกกำลังกายฟรีๆ ใน Youtube เพียบเลย
หากเครียด สอบถามวิธีการดูแลตัวเองจากผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา : สถานบันสุขภาพจิตเเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถรับมือกับความเครียดได้ไหม แนะนำให้ไปปรึกษาผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านช่องทางของสายด่วนสุขภาพจิต โทร 089-3256160 หรือ 089-3256158 Facebook : สายด่วนสุขภาพจิต1323 หรือผ่านแอปพลิเคชั่น OOCA ที่มีให้บริการปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาการทางไกล หรือเพื่อที่จะได้รับคำแนะนำสำหรับการปฏิบัติตัวหากมีความเครียดสะสมในช่วงนี้
ในช่วงที่มีภาวะการระบาดของโควิดแบบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสุขภาพร่างกาย จิตใจของตัวเราและคนในครอบครัว คนที่เรารัก หากใครที่รู้สึกว่าเครียด จมอยู่กับความกังวลแนะนำให้ลองทำตามทั้ง 7 ข้อที่ว่ามานี้น่าจะช่วยได้อยู่นะคะ อย่าลืมล้างมือเป็นประจำ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกจากบ้าน และดูแลสุขภาพด้วยนะ
Beauty Product Analyzer/Writer เป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับครื่องสำอางถูกและดี ราคา คอยอัพเดทเทรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ชอบลองของใหม่ๆ เลยอยากแนะนำให้คนอื่น จึงเริ่มเขียนรีวิวแนะนำเครื่องสำอางที่ดีและคุ้มค่ามากว่า 7 ปีแล้ว ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับทริคที่ช่วยให้สาวๆ มีสุขภาพดี และชื่นชอบนักร้องและวงการเพลง K-pop กว่า 10 ปี