
มะเร็งช่องคลอดเป็นชนิดมะเร็งที่พบได้น้อยมาก ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดมะเร็งช่องคลอดส่วนใหญ่แล้วยังไม่เป็นที่รู้จัก มีหลายประเด็นที่อาจทำให้เซลล์ของช่องคลอดกลายเป็นมะเร็งได้ มีนักวิทยาศาสตร์ได้มีศูนย์วิจัยมะเร็งในช่องคลอดนี้ขึ้นมาด้วย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งช่องคลอด?
มะเร็งช่องคลอดมีปัจจัยเสี่ยงหลายประเภทที่แตกต่างกัน อย่างเช่น อายุ เชื้อชาติ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ปัจจัยอื่น ๆ อย่างการสูบบุหรี่ การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน บางครั้งคนอย่างน้อยหนึ่งคนอาจไม่เคยเป็นมะเร็งช่องคลอด แต่ในทางตรงกันข้าม การไม่มีปัจจัยเสี่ยงก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เป็นโรคมะเร็งในช่องคลอด เรามาดูกันค่ะว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งช่องคลอด
1. อายุ
ที่มา curejoy
เซลล์มะเร็งช่องคลอดส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับหญิงสูงวัย มีเพียง 15% ของผู้ป่วยเท่านั้นที่พบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 40 ปี ซี่งมีประมาณ 50% ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 70 ปี
2. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน DES (Diethylstilbestrol)
เป็นยาฮอร์โมนที่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ปี พ. ศ. 2483 ถึง 2514 เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงเกิดการแท้งบุตร ยานี้สามารถถ่ายทอดจากคุณแม่ตั้งครรภ์ไปยังเด็กผู้หญิงที่อยู่ในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ที่ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน DES ในขณะตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในช่องคลอดหรือปากมดลูกได้ การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน DES ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ถูกสั่งให้ยุติโดยองค์การอาหารและยาในปี ค.ศ. 1971
3. การฉายรังสีในอุ้งเชิงกราน
การทำรังสีรักษากระดูกเชิงกรานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องคลอดเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะว่าภาวะแทรกซ้อนนี้หาได้ยากมาก
4.ความผิดปกติของเยื่อเมือกด้านในของช่องคลอด
ช่องคลอดที่เรียงรายไปด้วยเซลล์ที่เรียกว่า Squamous cells ประมาณ 40% ของผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือนก็อาจจะมี glandular cells เรียงรายอยู่ก็เป็นได้ บริเวณเหล่านี้ของต่อมเซลล์เรียกว่า adenosis ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเกือบทั้งหมดที่ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน DES ในระหว่างการตั้งครรภ์ แม้ว่าความผิดปกติของต่อมน้ำนม หรือ adenosis จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลล์มะเร็งที่ชัดเจน แต่มะเร็งชนิดนี้ก็หายากมาก
5.Human Papilloma Virus (HPV)
Human papilloma virus (HPV) เป็นกลุ่มของไวรัสที่มีความเกี่ยวข้องมากกว่า 150 ชนิด นี่เป็นบางส่วนที่ทำให้เกิดการเจริญเติบโตที่เรียกว่า ไวรัส papilloma ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าคือ หูด ไม่ใช่โรคมะเร็ง ในขณะที่ HPV บางประเภทที่ทำให้เกิดหูดมักพบได้ตามมือ เท้า ริมฝีปาก หรือลิ้น HPV บางชนิดสามารถติดเชื้อที่ส่วนนอกของอวัยวะเพศทั้งในชายและหญิง นอกจากนี้ยังอาจจะเกิดขึ้นในบริเวณทวารหนัก โดยปกติ HPV 6 และ HPV 11 เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหูดที่อวัยวะเพศ ซึ่งแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง ด้วยเหตุนี้จึงขอเรียกว่าเป็น HPV ชนิดที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยติดต่อกันผ่านทางการสัมผัสผ่านผิวหนัง อีกวิธีหนึ่งที่ HPV จะแพร่กระจายคือการมีเพศสัมพันธ์ เกือบเก้าในสิบของมะเร็งช่องคลอดและก่อนการเกิดมะเร็งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ HPV
6. มะเร็งปากมดลูก
การเกิดมะเร็งปากมดลูกทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในเซลล์มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องคลอดมีปัจจัยเสี่ยงที่คล้ายคลึงกัน เช่นการติดเชื้อ HPV และการสูบบุหรี่ บางครั้งการรักษามะเร็งปากมดลูกด้วยการฉายรังสี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องคลอด แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมจากทฤษฎีนี้
7. สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่มีความเป็นไปได้ ที่ผู้หญิงจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในช่องคลอดมากกว่าสองเท่า!!
8. แอลกอฮอล์
การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในช่องคลอด การศึกษาเกี่ยวกับผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์พบว่ามีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งช่องคลอดมากกว่าที่คาดไว้ จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งช่องคลอดน้อยกว่า
9.HIV
HIV (human immunodeficiency virus) คือ ไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ ซึ่งมีผลการวิจัยแล้วว่า ) การติดเชื้อ HIV เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องคลอด
10.การระคายเคืองในช่องคลอด
แม้ว่าการเกิดโรคมะเร็งดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่คุณก็ควรที่จะต้องมีความรู้ในการดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเหล่านี้
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )