
ช่วงต้นปีเป็นโอกาสดีที่หลายคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ เพื่อสร้างความสุขให้กับชีวิต แต่เหนือสิ่งอื่นใด..การจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุขนั้นต้องเริ่มต้นมาจากจิตใจที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดี วันนี้เราจึงชวนทุกคนมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ตลอดปี 2020 ด้วยการบอกลานิสัยแย่ ๆ ที่เราชอบทำกัน
1. ทานข้าวนอกบ้านน้อยลง
หันมาทำอาหารเพื่อสุขภาพเอง
การทานข้าวนอกบ้านบ่อย ๆ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเราได้รับปริมาณโซเดียมและไขมันสูง เพราะน้อยมากที่จะเจอร้านอาหารเพื่อสุขภาพคลีน ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคไขมันในเลือดสูง, ความดันโลหิตสูง และน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย หากคุณเป็นคนรักสุขภาพจริง ๆ ลองเปลี่ยนจากการทานข้าวนอกบ้า มาทำอาหารทานเอง เน้นเมนูสุขภาพคลีน ๆ และเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานผักและผลไม้ให้เยอะขึ้นกันเถอะ
2. ยืดเส้นยืดสายระหว่างวันบ้าง
การนั่งทำงานในออฟฟิศนาน ๆ กลายเป็นภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพของคนยุคใหม่ เนื่องด้วยพฤติกรรมการนั่งท่าเดียวเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตึงและไม่ได้ผ่อนคลาย หลายคนจึงเกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลัง อีกทั้งการนั่งนาน ๆ แบบนี้ยังสัมพันธ์กับการไม่ออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานอีกด้วย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ ดังนั้นในระหว่างทำงานลองปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ และนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง โรคออฟฟิศซินโดรมจะได้ไม่มาเยือน
3. อย่าเพิกเฉยกับมลภาวะในร่ม
อย่าคิดว่าการนั่งทำงานในห้องแอร์ปลอดภัยกับสุขภาพเราเสมอไป เพราะในร่มก็มีมลพิษ อากาศเสีย พร้อมแบคทีเรียปะปนในอากาศเช่นกัน การหาตัวช่วยอย่างการนำต้นไม้สีเขียวมาวางที่โต๊ะทำงานหรือตัวอาคารจะสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ต่อร่างกายเราได้ เพราะพืชเหล่านี้เป็นตัวช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษ และลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ดีต่อคนที่เป็นโรคหอบหรือภูมิแพ้ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด บรรเทาความวิตกกังวลและความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้ดี
4. เล่นมือถือก่อนนอนให้น้อยลง
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่กลับมีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าแสงสีฟ้าส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดของหนูทดลองเพศผู้เพิ่มขึ้น จากการศึกษายังพบอีกว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้สมาร์ทโฟนอ่านบทความหรือเว็บเพจตลอดเวลา มากกว่าการอ่านหนังสือมีอัตราเกิดความเมื่อยล้าของดวงตาที่สูงขึ้น และการเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนอาจทำให้เราปวดศีรษะและสายตาล้าได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับตามมาอีกด้วย
5. เลิกขี้เกียจออกกำลังกาย
เลิกขี้เกียจเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย แล้วหันมาบริหารร่างกาย ฝึกทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่างกายออกแรงเคลื่อนไหวให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ลองฝึกเดินให้เยอะขึ้น หาเวลาว่างออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน หรือเพิ่มความขยันด้วยการทำงานบ้าน แค่นี้ก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว
ลองลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่สุขภาพกายและจิตใจดีกว่านี้กันดีกว่า อย่ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้แล้วนะ
ที่ม่า: urbanlifehk
ที่มาภาพ: yoou.ch,pstatic,flickr,heyclaire,giftformen,lanaferson,soompi,bimonbm,i.pinimg.1,i.pinimg.2,i.pinimg.3
Hi!! I'm Coojii อยากผ่อนคลายติดตามเรื่องราวไลฟสไตล์ชิคคูล คลิก Akerufeed โหลดความสุขสิ่งดีดี พร้อมรอส่งต่อกับทุกคนอยู่ที่นี่นะจ๊ะคนดี