
ผู้หญิงส่วนใหญ่ถูกสอนให้สลัดหรือตัดบางสิ่งออกไป และทำสิ่งที่ต้องทำต่อไป นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับคนที่เป็นแม่ พวกเธอไม่มีเวลาที่จะพิจารณาทุกสิ่งที่มาเปลี่ยนแปลงร่างกายของพวกเธอ บางทีอาจอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงก็ได้
เวลาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สบาย พวกเธอควรต้องทายาและพักผ่อน แต่ในความจริงพวกเธอกลับใช้ชีวิตแบบปกติ และนอนพักให้เร็วขึ้นเท่านั้น ตรงข้ามกับผู้ชายบางคนต้องใช้เวลานอนพักทั้งวัน เมื่อพวกเขาป่วย
ผู้หญิงหลายคนจะไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่เกิดกับร่างกายของพวกเธอ หรือคิดว่าเป็นเพราะอายุ, ความเครียด หรือเป็นแค่ภูมิแพ้ธรรมดา…ซึ่งที่ผ่านมาตลอดทั้งปี อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ในร่างกายของเรามีต่อมอยู่ต่อมหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อระบบต่างๆในร่างกาย นั้นก็คือ ต่อมไทรอยด์นั้นเอง ต่อมไทรอยด์(Thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ด้านหน้าของลำคอ มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการทำงานต่างๆในร่างกาย
หน้าหลักของต่อมไทรอยด์คือการหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ ทีมีส่วนรับผิดชอบต่อการควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย ฮอร์โมนหลักๆ มี 2 ชนิดคือ Tetraiodothyronine(thyroxin หรือ T4) และ Triiodothyronine(T3)….ฮอร์โมนไทรอยด์มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบต่างๆในร่างกายของคุณ เช่น อัตราการเต้นหัวใจของคุณ, การเผาผลาญพลังงานและการย่อยของคุณรวดเร็วแค่ไหน (ที่มา)
สิ่งที่สามารถทำให้เกิดโรคได้มาจาก hyperthyroidism หรือ hypothyroidism โดยถ้ามีการหลั่งของฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไปจะเรียกว่า hyperthyroidism ส่วนการหลั่งของฮอร์โมนที่น้อยเกินไปจะเกิดภาวะที่เรียกว่า hypothyroidism
และทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้คือสัญญาณเล็กๆของการเกิด hyperthyroidism and hypothyroidism
1. การเปลี่ยนแปลงอารมณ์
สภาพของต่อมไทรอยด์สามารถส่งผลต่ออารมณ์ของคนได้ ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำ (hypothyroidism) อาจจะเกิดความเหนื่อยล้าหรือความหดหู่ และการหลั่งไทรอยด์ที่มากเกินไปหรือ hyperthyroidism จะส่งผลต่อการสร้างความรู้สึกวิตกกังวล, กระสับกระส่าย, ประหม่า, และหงุดหงิด (ที่มา) มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่ยังสามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดมาจากความเครียด และนั้นก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดกัน
2. อาการท้องผูก
หากบางคนมีความทุกข์มาจากอาการท้องผูกเรื้อรังที่พวกเขาไม่สามารถทำให้มันหายไปได้ มันอาจจะเป็นสัญญาณของhypothyroidismหรือภาวะไทรอยด์ต่ำก็ได้นะ บางทีมันอาจจะมีฮอร์โมนในร่างกายไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นระบบทางเดินอาหารให้ทำงานด้วยความเร็วที่เหมาะสม ดังนั้นจึงเกิดอาการท้องผูก (ที่มา)
ในทางกลับกับ ผู้ที่มีภาวะhyperthyroidismหรือหลั่งไทรอยด์มากเกินไปจะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้เพิ่มขึ้น (ที่มา)
3. การเปลี่ยนแปลงในการนอนหลับ
ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) ทำให้คนมีความรู้สึกเฉื่อยชาหรือขี้เกียจ และนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า การตื่นนอนในตอนเช้าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับทุกคน (ยกเว้นเด็กเล็กๆ) แต่ถ้าใครสักคนต้องมีความพยายามหรือดิ้นร้นทุกวันเพียงเพื่อให้ลุกออกจากเตียงได้ บางทีพวกเขาอาจอยากไปตรวจสอบภาวะขาดไทรอยด์
ส่วนทางด้านภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) นั้น คนที่มีอาการที่เกิดจากภาวะนี้จะพบว่ามักจะนอนหลับยาก หรือนอนไปได้แค่แปบเดียวในตอนกลางคืน นี่อาจเป็นเพราะต่อมไทรอยด์ที่ไปกระตุ้นระบบประสาท (ที่มา)
4. ผมร่วงและผิวแห้ง
ผมร่วงและผิวแห้งก็สามารถเป็นสัญญาณของทั้งภาวะขาดและเกินของฮอร์โมนไทรอยด์ได้ ไทรอยด์ควบคุมการเกิดเหงื่อและการเติบโตของเส้นผม เมื่อฮอร์โมนถูกปล่อยออกมาอย่างไม่สมดุล ก็จะส่งผลกระทบต่อเส้นผมและผิวของพวกเรา (ที่มา)
ความจริงที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือช่างทำผมจะสังเกตอาการผมร่วงได้ก่อนที่ลูกค้าจะพบซะอีก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนคุณหมอของพวกเขา ดังนั้นเราควรไปตัดผมทุกๆ3เดือน ซึ่งจะทำให้ช่างทำผมของคุณ ผู้รอบรู้อันดับหนึ่งเรื่องเส้นผมได้ดูแลสุขภาพเส้นผมของคุณ
ดร.โรบิน มิลเลอร์ นักเขียนร่วมของหนังสือThe Smart Woman’s Guide to MidLife & Beyond กล่าวว่า คนไข้ส่วนใหญ่ของเธอที่มาหาและบอกกับเธอว่าช่างทำผมของพวกเธอส่งพวกเธอมา พวกเธอยังบอกกับดร.โรบินอีกว่า ช่างทำผมเป็นคนบอกับคนไข้เหล่านี้ว่าเส้นผมของพวกเธอกำลังร่วง และพวกเธอเลยต้องการมาพบแพทย์เพื่อตรวจเกี่ยวกับไทรอยด์ ดร.โรบินกล่าวทิ้งท้ายว่า “ช่างทำผมรับรู้ถึงปัญหาของไทรอยด์ได้มากกว่าคุณหมอบางคนอีกนะ”
5. การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
นี่คืออีกหนึ่งอาการที่อยู่ตรงข้ามจุดสิ้นสุดของความคิดเกี่ยวกับภาวะไทรอยด์ทั้งสอง ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม และพบว่ามันยากที่จะลดมัน ในขณะที่ภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะไทรอยด์ควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญ ภาวะไทรอยด์ทำงานเกินเท่าการเผาผลาญเร็วขึ้น และภาวะขาดไทรอยด์หมายถึงการเผาผลาญช้าลง (ที่มา)
6. ความต้องการทางเพศลดลง
ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสนใจเรื่องเพศในผู้หญิงลดลง อย่างไรก็ตามการวิจัยในส่วนนี้ยังไม่เพียงพอ
ตามข้อมูลของ WebMD, ลินน์ โมเยอร์ พยาบาลเวชปฏิบัติที่คลินิกศูนย์สุขภาพทางเพศ Marshfield กล่าวว่า เธอเห็นว่าไม่มีการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์เกี่ยวกับการประเมินความถี่ของโรคไทรอยด์ในผู้หญิงกับเรื่องปัญหาทางเพศ(sexual dysfunction) ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าเพิ่งจะมีการศึกษาเรื่องนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น
7. กล้ามเนื้อตึง หรือ ปวดกล้ามเนื้อ
หนึ่งในอาการของภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) คือการปวดของกล้ามเนื้อหรือตะคิวอย่างไม่มีสาเหตุ มันไม่ใช่ความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่งเริ่มออกกำลังกายหรืออุบัติเหตุเล็กๆ แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถอธิบายได้ ทั้งหมดนี้เป็นการทำงานร่วมกันของไทรอยด์และระบบประสาท การขาดฮอร์โมนไทรอยด์สามารถเป็นสาเหตุที่ทำลายระบบประสาท ซึ่งอาจนำไปสู่การปวดกล้ามเนื้อแบบไม่มีสาเหตุ (ที่มา)
8. ปัญหาหัวใจ (สุขภาพ)
ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) อาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็วได้ ในที่นี้หมายถึงคนๆนั้นอาจกำลังผ่อนคลายอยู่ แต่หัวใจกลับเต้นเหมือนว่าเขาหรือเธอคนเพิ่งไปวิ่งมาราธอนมา ซึ่งตรงกันข้ามกับภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) การเต้นของหัวใจโดยทั่วไปของคนที่มีภาวะนี้จะเต้นช้าลงกว่าปกติ (ที่มา)
9. สมองตื้อ
คนที่มีอาการของภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) อาจพบว่ามีเป็นเรื่องยากที่จะมีสมาธิ ในขณะที่คนที่มีภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) จะพบว่าพวกเขาขี้ลืมมากขึ้น (ที่มา) และอีกครั้งที่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะปริมาณของฮอร์โมนไทรอยด์ส่งผลต่อสมอง
10. ความดันเลือด
คนที่เป็นขั้นแรกของภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism จะมีความดันเลือดต่ำ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยไว้ไม่รักษา ของเสียจะถูกสร้างขึ้นในเลือด และความดันเลือดจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่อันตราย (ที่มา) ความดันโลหิตสูงควรจะถูกตรวจดูโดยไม่คำนึงถึงอย่างรอบคอบ
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการทำงานของไทรอยด์ที่ผิดปกติ ซึ่งถ้าใครมีอาการเหล่านี้ก็ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นดีกว่าค่ะ
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )