
จากการรายงานใหม่ล่าสุดที่หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานว่า พวกเราควรลองเปลี่ยนจากการว่ายน้ำในสระและหันไปเล่นน้ำทะเลแทน
source: weheartit
จากการตรวจสอบสระว่ายน้ำของประชาชนในปี 2013 (ใช่! มันนานมากกว่าจะรวบรวมผลการตรวจสอบได้ทั้งหมด) เปิดเผยว่าร้อยละ 79 ของสระว่ายน้ำไม่ได้มีการทดสอบความปลอดภัย และสิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ มีประมาณหนึ่งในแปดของสระว่ายน้ำที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ทำให้ต้องมีการปิดตัวลงทันที
แล้วอะไรคือประเภทของการฝ่าฝืนที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ล่ะ? อันดับแรกก็คือ ระดับค่า pH ตามมาด้วยอันดับที่สองคือ ปัญหาด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ (ที่เพิ่มความเสี่ยงของการจมน้ำ) และอันดับสุดท้ายคือ ความเข้มข้นของยาฆ่าเชื้อที่ยากจะแก้ปัญหาได้ จากสถิติเหล่านี้สอดคล้องกับ CDC พบว่าสระว่ายน้ำที่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานสาธารณสุขเป็นประจำหรือได้รับใบอนุญาตสระว่ายน้ำสาธารณะมีเพียงร้อยละ 68 เท่านั้น
source: popsugar
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสระน้ำที่เรากำลังจะลงไปว่ายน้ำนั้นมีความปลอดภัย ดังนั้นนี่คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณสามารถทำได้ก่อนที่ลงจะแช่ตัว: หากระดาษวัดค่า pH ที่ซื้อมาจากร้านขายอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบระดับของน้ำด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย (ให้มีค่า pH ระหว่าง 7.2 – 7.8)
นอกจากนี้การว่ายน้ำในสระยังก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา อย่างที่ได้เคยเขียนบอกเล่าไปในบทความก่อนหน้านี้แล้วในหัวข้อที่มีชื่อว่าทำไมตาแดงเมื่อว่ายน้ำในสระ อันตรายแค่ไหนกัน?!
จึงขอแนะนำให้ทุกคนสวมแว่นตาว่ายน้ำเมื่อลงไปอยู่ใต้น้ำและชำระล้างร่ายกายอีกครั้งหลังจากการว่ายน้ำเสร็จเพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นกับผิวของคุณ
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )