
ด้วยอายุที่มากขึ้นมักส่งผลทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ช้าลง ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย อย่างเช่นการเกิดริ้วรอย โรคอ้วน น้ำหนักลดยาก กินนิดหน่อยไขมันก็สะสมเป็นน้ำหนักส่วนเกิน ซึ่งล้วนมาจากการที่ระบบเผาผลาญทำงานเปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเตือนจากร่างกายบางอย่างที่บ่งบอกว่าระบบเผาผลาญเราเริ่มแย่ ควรเริ่มหันมาดูแลใส่ใจตัวเองจะมีอะไรบ้างเรา
ตามไปเช็คดูเพื่อสุขภาพที่ดีกันค่ะ
#6 สัญญาณบ่งบอกระบบเผาผลาญเริ่มพัง
1.มักจะเหนื่อย
หากเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกเหนื่อยบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบการเผาผลาญของเรากำลังทำงานช้าลง เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการเมตาบอลิซึมก็จะส่งผลทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารช้าลงและสร้างพลังงานในร่างกายได้ไม่เร็วเพียงพอจนทำให้เกิดปัญหาความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย วิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญของเรากลับมาเป็นปกติคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้เซลล์ในร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง ระบบเผาผลาญก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ทานอาหารได้น้อยลง
อาการเบื่ออาหาร ทานอาหารได้น้อยลงเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่เกิดจากการทำงานของระบบเผาผลาญที่ช้าลง เมื่อเราทานอาหารได้น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ร่างกายก็จะสั่งการให้ระบบเผาผลาญชะลอการทำงานให้ช้าลงไปอีกเพื่อกักตุนพลังงานป้องกันอาการหิวโหย ดังนั้นการกินที่น้อยเกินไปไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานช้าลง แต่ยังมีโอกาสส่งผลต่ออารมณ์ด้านลบ ทำให้เราหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสีย ฉุนเฉียวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
3.ความผิดปกติของประจำเดือน
ต่อมไทรอยด์เกี่ยวข้องกับกระบวนการเมแทบอลิซึมหรือระบบเผาผลาญของร่างกายโดยตรง เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์จะส่งผลทำให้ร่างกายชะลอการเผาผลาญทำให้เกิดปัญหาการมีประจำเดือนผิดปกติเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันวิถีชีวิตบางอย่าง เช่น การออกกำลังกายที่หนักและมากเกินไปหรือความเครียดอาจส่งผลต่อการมีประจำเดือนและการเผาผลาญที่แย่ลง ซึ่งนี่ก็คือสัญญาณแปรปรวนของระบบเผาผลาญที่ทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติเปลี่ยนแปลง
4.อารมณ์ซึมเศร้า
ความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจมักจะเชื่อมโยงโดยตรงกับสุขภาพ ปัญหาการทำงานของระบบเผาผลาญที่ช้าลงจึงมักส่งผลต่ออารมณ์ภาวะซึมเศร้าได้ง่ายๆ เมื่อระบบเผาผลาญเริ่มทำงานช้าลงก็จะส่งผลต่อระบบควบคุมอารมณ์จิตใจ ทำให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้าคิดมากได้อย่างง่ายๆ
5.ผมร่วงเยอะ
ระบบการเผาผลาญเป็นตัวการควบคุมการทำงานของร่างกายเกือบทั้งหมดรวมไปถึงการเจริญเติบโตของเส้นผม การศึกษาพบว่าคนที่มีภาวะ metabolic syndrome (ความดันโลหิตสูง, น้ำตาลในเลือดสูงและโรคอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจหรือโรคเบาหวานประเภท 2) หรือระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติช้าลงกว่าคนปกติมักจะเกิดภาวะผมร่วงมากขึ้นซึ่งชี้ให้เห็นว่าฮอร์โมนที่ควบคุมการหลุดร่วงของเส้นผมนี้สัมพันธ์กับระบบการเผาผลาญอาหารที่ช้าลงนั่นเอง
6.อาการท้องผูก
เมื่อระบบเผาผลาญเริ่มทำงานช้าลง มักจะส่งผลทำให้ระบบการย่อยอาหารกระบวนการต่างๆในลำไส้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลทำให้อาหารย่อยยากระบบลำไส้แปรปรวนส่งผลทำให้เราเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายๆ หากเมื่อไหร่ที่ร่างกายเริ่มมีอาการท้องผูกบ่อยๆแบบไม่ทราบสาเหตุทั้งที่ทานอาหารที่มีกากใยสูงอยู่แล้วโปรดจงรู้ไว้ว่าสัญญาณระบบเผาผลาญที่แย่กำลังมาเยือนสู่ร่างกายของเรากันแล้ว
4 วิธีในการเพิ่มระบบการเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น
1.ออกกำลังกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้ดี และช่วยชะลอประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญในอนาคตที่ช้าลง เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ กำจัดไขมันและสร้างมวลกล้ามเนื้อมาทดแทนในร่างกาย ทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงระบบเผาผลาญก็ทำงานได้ดีขึ้น
2.ดื่มน้ำให้มากขึ้น
รู้หรือไหมว่าร่างกายต้องการน้ำเพื่อการเผาผลาญแคลอรี่และการขาดน้ำเล็กน้อยทำให้เมแทบอลิซึมในร่างกายทำงานได้ช้าลง หมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นประจำก็จะช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญที่ดีขึ้นได้
3.อย่าอดอาหาร
การอดอาหารอาจช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ แต่ในขณะเดียวกันร่างกายก็ขาดการได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามไปด้วย ทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อส่งผลทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ไม่อยากให้ระบบพังอย่าอดอาหารเป็นเด็ดขาดเลยค่ะ
4.ทานพริก
การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนจะช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น เน้นการทาน พริกไทย พริกชนิดต่างๆ ขิง และเครื่องเทศบางชนิด ให้มากขึ้นเพื่อปรับปรุงระบบเผาผลาญ แต่อย่ารับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปเพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อลำไส้เป็นอันตรายได้
ที่มา:urbanlifehk
ที่มา:weheartit,mlnhe,haru2,ivefreya,G_I_DLE,c-coii,chuu,mlnhe,wgsnsdfx,sinaimg,shiyongshu,i.pinimg,,
Hi!! I'm Coojii อยากผ่อนคลายติดตามเรื่องราวไลฟสไตล์ชิคคูล คลิก Akerufeed โหลดความสุขสิ่งดีดี พร้อมรอส่งต่อกับทุกคนอยู่ที่นี่นะจ๊ะคนดี