ครีมกันแดดกำลังทำสิ่งนี้กับร่างกายของคุณ!!

ตามการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน The Independent ระบุว่า นักวิจัยพบว่าผู้หญิงที่หลีกเลี่ยงการอาบแดดในช่วงฤดูร้อนมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตเป็นสองเท่าของคนที่อาบแดดทุกวัน การศึกษาได้ติดตามผู้หญิง 30,000 คนนานกว่า 20 ปี และพบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงที่หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดสูงเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีการสัมผัสแดดในปริมาณมาก สิ่งนี้นำไปสู่ผลสรุปการวิจัยที่ว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดในทุกกรณีและการทาครีมกันแดดเพื่อลดการสัมผัสกับแสงแดดอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

คุณอาจจะกำลังสงสัยว่า “วิธีนี้มันเข้าท่ายังไง?” เอาล่ะ มาฟังคำอธิบายกัน การหลีกเลี่ยงแสงแดดและการทาครีมกันแดดนั้นปิดกั้นความสามารถของร่างกายในการผลิตวิตามินดี 3 จากรังสีของดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์เป็นแหล่งสร้างวิตามินดีที่ดีที่สุดที่ร่างกายสามารถรับได้ และการขาดวิตามินดีก็สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

มีการคาดการว่าประมาณ 85% ของชาวอเมริกันมีภาวะขาดวิตามิน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, ภาวะกระดูกพรุน, โรคไขข้ออักเสบ, โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และภาวะสุขภาพอื่นๆ ร่างกายต้องการวิตามินดี เพื่อดูดซึมแคลเซียม วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในเรื่องต่างๆ ดังนี้:

– การรักษาสภาพของกระดูกและฟัน

– ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน, สมองและระบบประสาท

– การควบคุมระดับอินซูลินและให้การช่วยเหลือในการจัดการโรคเบาหวาน

– ส่งเสริมการทำงานของปอดและสุขภาพหลอดเลือดหัวใจ

– มีอิทธิพลในการแสดงออกของยีนที่มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนามะเร็ง

source: wallcoo.net

ขณะที่การสัมผัสกับแสงแดดมากอาจเป็นผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แต่การขาดวิตามินดีก็สามารถนำไปสู่มะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน การศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Cancer Prevention Research ชี้ให้เห็นว่า ระดับวิตามินดีในเลือดที่เหมาะสมนั้นเป็นการป้องกันอาการไหม้แดดและมะเร็งผิวหนัง

นายแพทย์ Bernard Ackerman ผู้เขียนบทความให้กับ The New York Times ในปี 2004 ในชื่อเรื่อง “I BEG TO DIFFER; A Dermatologist Who’s Not Afraid to Sit on the Beach.” เขาได้เขียนถึงการเชื่อมโยงกับระหว่างเนื้องอกเมลาโนมา (Melanoma) และการสัมผัสแสงแดดนั้นเป็นแค่สมมติฐานเฉยๆ ยังไม่มีการพิสูจน์ เขารู้ว่าการที่คนอื่นๆ อยู่ห่างจากแสงแดด ก็เพราะพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และสำหรับคนที่มีผิวขาว เขาได้กล่าวว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดจะช่วยป้องกันมะเร็งเซลล์สความัส (Squamous Cell Carcinoma *เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งผิวหนังทั้งหมด) แต่การอยู่ห่างจากแสงอาทิตย์ หรือใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันเมลาโนมาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาด เขาได้บันทึกว่าพื้นที่ที่มีเมลาโนมาปรากฏในหลายๆ คนนั้นแทบจะไม่ใช่ส่วนของร่างกายที่ถูกแสงแดดมากที่สุดเลย

source: wallcoo.net

ในหนังสือของดร. Elizabeth Plourde ปี 2011 ที่ชื่อ “Sunscreens – Biohazard: Treat as Hazardous Waste,” นั้นได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของครีมกันแดดที่คุกคามชีวิต ทั้งต่อคนและสิ่งแวดล้อม เธอได้ให้ข้อพิสูจน์ว่า เมลาโนมาที่เป็นอันตรายและมะเร็งผิวหนังอื่นๆทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยกับการใช้ครีมกันแดดมากกว่า 30 ปี และเน้นย้ำว่าครีมกันแดดจำนวนมากประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าคือ สารก่อมะเร็งและสารที่มีคุณสมบัติทำลายต่อมไร้ท่อ

ที่มา: davidwolfe

ดร. Plourde ได้ดำเนินการต่อไปที่รายละเอียดของวิธีการที่สารเคมีในครีมกันแดดซึ่งเป็นมลพิษต่อแหล่งน้ำ ทั้งมหาสมุทร, แม่น้ำ, และน้ำที่ใช้ดื่ม โดยเธอยังได้ตีพิมพ์ผลการทดสอบที่แสดงให้เห็นว่า 97% ของคนอเมริกันมีสารเคมีจากครีมกันแดดตกค้างอยู่ในเลือด! ดร. Plourde ยังได้รวมบทความที่เกี่ยวกับความสำคัญของวิตามินดี 3 ที่มีต่อสุขภาพ ที่เขียนว่า ภาวะขาดวิตามินดี 3 ที่เกิดอย่างแพร่หลายนั้น มีการเชื่อมโยงกับการใช้ครีมกันแดดมากเกินไป บวกกับการหลีกเลี่ยงแสงแดด

พร้อมกับประโยชน์ต่อสุขภาพของวิตามินดี แสงอาทิตย์ยังช่วยให้ระดับเซโรโทนิน (Serotonin *เป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่เป็นสุข) อยู่ในระดับสูงเป็นการกระตุ้นอารมณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าที่เกิดจกผลกระทบของฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder) และภาวะซึมเศร้า เป็นเวลาหลายปีที่พวกเราถูกบอกให้อยู่ห่างจากแสงแดด และถ้าเราต้องการจะอยู่ในแสงแดด เราควรทาครีมกันแดดซ้ำๆทุกชั่วโมง ขณะที่ผิวที่ไหม้จากแสงแดดแน่นอนว่ายังถูกกังวล ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังมองหาด้านอื่นๆ อย่างเช่น การอยู่ท่ามกลางแสงแดดและใช้ครีมกันแดดมากเกินไปสามารถยับยั้งร่างกายของเราจากการผลิตวิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นในการทำให้เรามีสุขภาพที่ดีได้อย่างไร

ขณะที่การสัมผัสแสงแดดมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายมากมายต่อร่างกายของคุณ แต่คุณรู้ไหมว่ายังมีกระบวนการที่เรียกว่า การจ้องดวงอาทิตย์ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายได้