Now Reading
5 เหตุผล ทำไมเราถึงเป็นตะคริว!!

5 เหตุผล ทำไมเราถึงเป็นตะคริว!!

ไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่ออกกำลังกายหนักๆ หรือนักวิ่งมาราธอนเท่านั้น ที่จะเป็นตะคริวบ่อยๆ ทั้งวัยรุ่น คนสูงอายุ คนที่เดินบ่อยๆ หรือบางคนนั่งอยู่เฉยๆ ยังเป็นตะคริวได้ และตะคริวก็มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่เราคลาดไม่ถึง ทั้งในตอนกลางวัน หรือช่วงที่เรากำลังนอนหลับฝันดี!!

ตะคริวมักเกิดจากการทำงานเกินขนาด หรือการหดตัวอย่างกระทันของกล้ามเนื้อ ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้กับกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย แต่กล้ามเนื้อที่พบว่าเป็นตะคริวมากที่สุด คือกล้ามเนื้อบริเวณน่องขา เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้พลังงาน และขยับเคลื่อนไหวมากที่สุดในร่างกาย และนี้คือสาเหตุของการเกิดตะคริว 5 ข้อที่มักจะพบบ่อยๆค่ะ

crampdefense

1.เกิดจากภาวะขาดน้ำ

อาการที่กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไปนั้น สาเหตุอาจจะมาจากการเสียสมดุลของกระแสประสาทในร่างกาย ภาวะขาดน้ำจะส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท และทำให้การส่งกระแสประมาทจากสมองไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายเกิดความปรกพร่อง กล้ามเนื้อจะแยกไม่ออกว่ากระแสประสาทที่ส่งมานั้นมาจากสมอง หรือความผิดปรกติในร่างกาย กล้ามเนื้อก็จะทำงานตามที่ถูกกระตุ้นอย่างหนัก จนเกิดเป็นตะคริวขึ้นมาได้ค่ะ

repubblica

เพราะฉะนั้นคนที่ดื่มน้ำน้อย ก็จะมีโอกาสเป็นตะคริวได้ง่ายกว่าปรกติ ดื่มน้ำเยอะๆอย่างน้อย 8 แก้วในหนึ่งวัน นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังป้องกันการเป็นตะคริวได้ด้วยค่ะ

dripdrop

2. นั่ง นอน หรือยืนอยู่ในท่าเดิมนานๆ

การนั่ง นอน หรือยืนในท่าเดิมนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งตัวมากกว่าปรกติ ลองนึกภาพเวลาเราถือของหนักๆในท่าเดิมนานๆ เราก็จะรู้สึกเกร็ง และปวดเมื่อย กล้ามเนื้อที่รับน้ำหนักร่างกายของเราก็จะเป็นแบบเดียวกันค่ะ เมื่อกล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตกรดแล็คทิค (Lactic acid) ขึ้นมาช่วยคลายกล้ามเนื้อ ยิ่งเกร็งมาก กรดชนิดนี้ก็ยิ่งเกิดขึ้นมาก ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อกระตุกคลายตัวอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นตะคริวขึ้นค่ะ

pinterest

โชคดีที่ตะคริวรูปแบบนี้จะหายไปได้ง่าย แต่มันก็มีอันตรายด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเรานอนหลับด้วยท่าเดิมนานๆ แล้วกล้ามเนื้อเกิดเป็นตะคริวขึ้นมา ก็เป็นภาวะเสี่ยงที่จะทำให้เราหายใจไม่ออกระหว่างนอนหลับได้ค่ะ การเลือกท่านอน นั่ง หรือยืน ให้สบาย และผ่อนคลายกล้ามเนื้อของเรา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันตะคริวได้

pinterest

3.เส้นประสาททำงานผิดปรกติ!!

ถ้าร่างกายของคุณเป็นตะคริวบ่อยๆ มักเกิดอาการที่ปลายนิ้วเท้า หรือปลายนิ้วมือ นี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาใหญ่ เกี่ยวกับเส้นประสาทที่เชื่อมต่อมาจากสมองถึงข้อต่อไขสันหลังค่ะ ซึ่งโรคที่มักจะพบบ่อยๆ ก็คือ ไขสันหลังเคลื่อนไปทับเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทที่เชื่อมไปยังกล้ามเนื้อ ทำงานผิดปรกติ

lifewithincenter

ถึงแม้ร่างกายของเราจะมีระบบจัดการ เยี่ยวยากับความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อเวลาเป็นตะคริว เมื่อยืดเส้นยืดสายคลายตัว ตะคริวก็จะหายไป แต่สำหรับคนที่เป็นตะคริวบ่อยๆ ก็อาจจะเกิดจากภาวะเส้นประสาททำงานผิดปรกติได้ ดั้งนั้น ควรไปพบคุณหมอ ตรวจเช็คร่างกายสักหน่อยจะดีกว่านะคะ

fanpop

4. การตั้งครรภ์

เวลาตั้งครรภ์ร่างกายทั้งหมดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากค่ะ และอาการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในตัวคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะคริวขึ้นมาได้ และเวลาที่ท้องแก่มากขึ้น น้ำหนักของลูกในท้องที่คุณแม่ต้องแบกไว้ ก็มักจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง ทำให้เกิดตะคริวที่กล้ามเนื้อน่องขา และข้อเท้า ขึ้นได้บ่อยๆค่ะ

americanpregnancy

การเปลี่ยนท่ายืน ท่านั่ง เลือกท่าน้องที่ทำให้กล้ามเนื้อขาไม่เกร็งตัว ดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีธาตุเหล็กเพื่อช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ก็จะช่วยให้การเป็นตะคริวในผู้หญิงตั้งครรภ์ลดลงได้ค่ะ

See Also

xtend-life

5. การไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอ

สาเหตุที่สำคัญ อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเป็นตะคริวก็คือ การไหลเวียนของเลือดไปล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุก็อาจจะมาจาก คลอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดดัน หรือตีบลง จนเลือดไหลไปล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของร่างกายได้ไม่เพียงพอ หรืออาจจะมาจากสาเหตุที่ร้ายแรงมากกว่านั้น อย่างเช่น เนื้องอก ที่เติบโตขึ้นมาขวางเส้นทางไหลเวียนของเลือด ถ้าเป็นตะคริวในจุดเดิมๆบ่อยๆ แนะนำให้ไปตรวจหาสาเหตุกับคุณหมอจะดีทีสุดค่ะ

sciencenewsjournal

ตะคริวเป็นเพียงแค่ปลายเหตุของภาวะเส้นเลือดอุดตัน ถ้าเรายังไม่หยุดกินอาหารที่มี ไขมัน มีคอเลสเตอรอลสูงๆ ไม่ใช่จะเป็นแค่ตะคริวเท่านั้น แต่โรคร้ายหลายอย่างก็จะตามมาค่ะ

weheartit

การเกิดตะคริวเป็นสิ่งที่บอกเราได้ว่า ร่างกายของเรากำลังเกิดความผิดปรกติขึ้น  เมื่อรู้สาเหตุของการเกิดตะคริว ที่อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆอย่างที่เราเคยคิดกันแล้ว ก็หันมาดูแลร่างกายของเราให้ห่างไกลจากการเป็นตะคริวกันนะคะ ดื่มน้ำเยอะๆ เปลี่ยนท่านั่ง ท่ายืนบ่อยๆ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย กินอาหารที่ไม่มีคลอเลสเตอรอล เท่านี้ก็ช่วยได้แล้วค่ะ

 

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top