Now Reading
6 วิธีประคับประคองจิตใจให้ผ่านพ้นความเครียดช่วงวิกฤติโควิดได้

6 วิธีประคับประคองจิตใจให้ผ่านพ้นความเครียดช่วงวิกฤติโควิดได้

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าตอนนี้จิตใจอ่อนแอ อ่อนไหวมาก มีแต่เรื่องร้ายๆ ข่าวสะเทือนใจเข้ามาให้พบเจอไม่เว้นแต่ละวันเลย รวมถึงความลำบาก ฝืดเคืองที่ต้องทนใจชีวิตอยู่ในช่วงล็อกดาวน์แบบนี้ด้วย บางทีก็เศร้าบางทีก็เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจเอาเสียเลย มาค่ะ~ วันนี้พี่อะเครุมี 6 วิธีประคับประคองจิตใจให้ผ่านพ้นความเครียดช่วงวิกฤติโควิดได้ มาทำให้คุณรักษาสภาพจิตใจไม่ให้ย่ำแย่ไปมากกว่านี้ในสภาวะแบบนี้กันค่ะ!

6 วิธีประคับประคองจิตใจให้ผ่านพ้นความเครียด

1. ลดการใช้โซเชียลมีเดียให้น้อยลง


เป็นเรื่องยากมากสำหรับยุคนี้ที่จะหักห้ามไม่ให้ใช้โซเชียลได้ ยิ่งถ้าเราต้องติดแหง็กอยู่กับบ้านด้วยแล้ว การที่จะรับรู้ข่าวสารความเป็นไปของผู้คนก็ต้องใช้โซเชียลอยู่ดี แต่ตอนนี้มีแต่ข่าวร้าย ข่าวแย่ๆ รวมถึงพลังงานด้านลบจากเพื่อนฝูงคนรู้จักที่จะทำให้บั่นทอนจิตใจให้ห่อเหี่ยว ยิ่งเริ่มอ่านข่าวตั้งแต่เช้าก็ยิ่งมีแต่จะทำให้หม่นหมองไปทั้งวันเลยด้วย ดังนั้นแล้วลดการเสพสื่อโซเชียลไปสักพักดีกว่า หรือถ้าจัดหมวดหมู่ไว้เฉพาะเราเสพแล้วสบายใจอย่างสาระความรู้ สัตวเลี้ยง อาหาร จะดูหรืออ่านเฉพาะพวกนี้ก็ได้นะ หรือจะเข้ามาอ่าน Akeru ก็ยิ่งดี เพราะไม่มีเรื่องราวลบๆ กวนหัวใจอย่างแน่นอน~


2. ระบายออกกับคนที่ไว้ใจได้


มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อย่างไรก็ตามก็ต้องการคนที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนด้วยอยู่แล้ว อย่างน้อยให้โทรคุยกันเฟซไทม์คุยกันให้ใกล้เคียงกับการที่ได้ออกไปพูดคุยพบเจอผู้คนให้ได้ดู แม้จะพูดคุยเรื่องจิปาถะ ไม่ได้เป็นสาระอะไรมาก แต่ก็จะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นมาได้บ้าง อย่าเก็บไว้คนเดียวไม่งั้นจะยิ่งเป็นการสะสมความเครียดไปเรื่อยๆ จนแบกรับไม่ไหวเอาได้นะ


3. แบ่งเวลางานกับพักผ่อนให้ได้

สภาพตอนนี้ก็เครียดพออยู่แล้ว การที่จะต้องทำงานที่บ้านสำหรับหลายๆ คน ก็ยิ่งเพิ่มความเครียดที่มีอยู่ให้หนักเพิ่มขึ้นไปอีก อยากให้มองในแง่ดีที่ว่า การไม่ตกงานในตอนนี้ถึงว่าเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว ทำให้ไม่ขัดสนเรื่องค่าใช้จ่าย รวมถึงการโฟกัสไปกับเรื่องงานก็ทำให้เราลืมความเหงาความเศร้าที่ต้องพบเจอในแต่ละวันไปได้ด้วย แต่ต้องแบ่งเวลาให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกว่าการทำงานที่บ้านเป็นเรื่องลำบากและฝืนทนจนเกินไป เวลาทำงานก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ แบ่งเวลาพักทุกชั่วโมง ไม่นั่งนานจนเกินไป เลิกงานแล้วก็ควรพัก ไม่ทำต่อหรือสนใจกับเรื่องงานอีก ยิ่งช่วงกลางคืนแม้ว่าจะเงียบสงบดี แต่การทำงานตอนกลางคืนไม่เป็นผลดีต่อสมองเลย อาจทำให้นอนไม่หลับ เกิดความเครียดสะสมได้ ดังนั้นอย่าทำงานมากไป และแบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอด้วย


4. หากิจกรรมที่ทำให้ใจสงบนิ่งทำ


หยุดใช้ชีวิตหน้าคอม วางมือถือ และลองหันไปทำกิจกรรมอื่นบ้าง อาจจะเป็นการปลูกต้นไม้ เย็บปักถักร้อย ตกแต่งของจิ๋ว ต่อจิ๊กซอว์ การลงมือทำอาหาร หรือการออกกำลังกาย จะช่วยให้สายตาและสมองผ่อนคลาย อยู่นิ่งๆ เงียบๆ ใช้สมาธิไปกับการทำสิ่งต่างๆ ตรงหน้าให้สำเร็จ ช่วยลดความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ ค่ะ


5. บันทึกหรือเขียนระบาย


หากว่ามีอะไรที่ค้างคาอยู่ในใจ หรือในหัวมากเกินจนลำดับไม่ถูกว่าควรจะรู้สึกอะไรยังไงดี ให้ลองพิมพ์บันทึก หรือว่าจดลงในสมุดดู การเขียนระบายออกมาให้หมดจะทำให้เรารู้สึกว่าได้สะสางสิ่งที่คั่งค้างออกไป ไม่เก็บมันเอามาคิดรกสมองรกจิตใจอยู่แบบนั้น เหมือนเป็นการถ่ายโอนข้อมูลเก่าๆ ไปไว้ที่อื่น เพื่อที่จะได้ทำให้จิตใจได้โล่งว่าง ไม่สับสนวุ่นวายมากจนเกินไปนั่นเอง

See Also


6. เสพความบันเทิงให้ลืมเรื่องร้ายๆ ชั่วคราว


อนุญาตให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้างไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือว่าการดูหนัง ดูซีรีส์ ติดตามไอดอลคนโปรด เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราปลอบประโลมหัวใจของเราในยามนี้ได้ดีที่สุด ทำให้เราเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ให้ลืมเรื่องราวเลวร้ายต่างๆ ที่ต้องเผชิญอยู่แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยังดี ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่ รู้สึกผิด หากว่าจะหาความสุขใส่ตัวเองเสียบ้าง เพราะนี่คือส่วนหนึ่งในการดูแลจิตใจของตัวเองค่ะ


คนที่จะเข้าใจจิตใจของตัวคุณเองได้ดีที่สุด ก็คือตัวของเราค่ะ การขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาคนอื่นก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่คงจะดีกว่าถ้าหากเราปรับสมดุลชีวิต รู้เท่าทันจิตใจของตัวเอง สามารถจัดระเบียบชีวิตและอารมณ์ของตัวเองได้ ถ้าผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้แล้ว เราจะเข้มแข็งและสามารถผ่านพ้นอุปสรรคทุกรูปแบบไปได้อย่างแน่นอนค่ะ

ที่มาภาพ: xframe

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top