มันจะเลวร้ายมากๆ ถ้าหากภรรยาพูดกับสามีว่า “คุณน่ารังเกียจ” หรือ “คุณตัวเหม็น”
ในการพูดคุยกับคนญี่ปุ่น เป็นเรื่องปกติที่เราจะหลีกเลี่ยงคำพูดที่ไม่ดีออกไปตรงๆ แต่เมื่อทั้งทั้งสองคนแต่งงานกัน ภรรยาจะต้องเคารพ เชื่อฟัง และคอยอำนวยความสะดวกสบายให้สามีอีกด้วย
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตการแต่งงานในญี่ปุ่นจะเป็นแบบนั้นไปซะหมด มันก็ต้องมีบางครั้งที่เหล่าภรรยาแสดงอาการไม่พอใจและโกรธสามีของตัวเอง
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เกิดผลสำรวจในผู้ชายญี่ปุ่นอายุ 20 – 39 จำนวน 200 คน ถึงสิ่งที่ภรรยาของพวกเขาผิดหวังและพวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยิน เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าใน 10 อันดับนี้มีอะไรบ้าง เรามาไล่ดูจากอันดับสุดท้ายกันเลย
10. หยุดใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น (26 คะแนน)
(image source: weheartit)
ครอบครัวในญี่ปุ่นจำนวนมากสามีมักจะให้เงินค่าจ้างกับภรรยา เพื่อให้ภรรยาจัดการเงินภายในครอบครัวและแบ่งเงินให้สามีเอาไว้ใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้ทำให้สามีส่วนใหญ่รู้สึกกดดันและไม่อยากได้ยินคำพูดนี้
9. หยุดกลายเป็นเจ้าอ้วนแสนขี้เกียจ! (28 คะแนน)
(image source: japanbase.net)
ก็ไม่ผิดหรอกนะที่สามีจะอ้วนขึ้นเมื่อแก่ลง และทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพราะว่าเหล่าสามีในญี่ปุ่นชอบนั่งดื่มตลอดเวลา ในบางครั้งเหล่าสามีจะนั่งดื่มกับหัวหน้าหรือลูกน้องหลังเลิกการประชุม แน่นอนว่ามันไม่มีเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เหล่าภรรยาบ่นถึงน้ำหนักของสามีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้สายตาของผู้ตอบแบบสบถามช่างดูเย็นชาจริงๆ
8. ฉันไม่ต้องการใช้หลุมฝังศพร่วมกับคุณหรอก (33 คะแนน)
(image source: hauntedauckland.com)
เมื่อถึงจุดสุดท้ายของชีวิตครอบครัวคนญี่ปุ่นจะฝังขี้เถ้าของผู้เสียชีวิตไว้ในสุสาน คู่สามีภรรยาเมื่อเสียชีวิตก็จะต้องอยู่ในหลุมศพเดียวกันซึ่งหมายถึงการอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ ด้วยทัศนคติที่แตกต่างกันทำให้ต่างฝ่ายต่างพูดคำที่ไม่ดีออกไปโดยไม่ได้คิด และทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเสียใจ
7. อย่างน้อยก็ช่วยกันล้างจานหลังทานข้าวเย็นด้วย (39 คะแนน)
(image source: mamiverse.com)
ภรรยาชาวญี่ปุ่นมักจะเป็นคนทำอาหารเย็นเตรียมไว้ เพื่อรอสามีกลับบ้านมารับประทานพร้อมกัน ในบางครั้งสามีที่ดีก็ควรจะแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ อย่างการล้างงจาน เหล่าภรรยาทั้งหลายคิดว่ามันคงจะดูเอาเปรียบกันเกินไปหน่อยถ้าปล่อยหน้าที่นี้ให้เป็นของภรรยาเพียงคนเดียว
6. ใส่ใจในการปรุงอาหารด้วย (43 คะแนน)
(image source: weheartit)
เหล่าสามีทั้งหลายก็ไม่ค่อยจะเข้าใจความรู้สึกของภรรยาเท่าไหร่นัก ตั้งแต่ที่พวกเธอรู้ว่าเหล่าสามีไม่สามารถปรุงอาหารได้ หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามแก้ตัวว่ามันก็ไม่ได้ยากถ้าจะต้มเส้นพาสต้าและเปิดขวดซอสสปาเก็ตตี้
5. ชื่นชมในสิ่งที่ทำมากเกินไปจนดูเว่อร์ (85 คะแนน)
(image source: www.lovelypandas.com)
เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าการจัดอันดับในสถานการณ์แบบนี้ทำให้ภรรยาดูน่ากลัวมากๆ แต่คนที่เลือกให้คะแนนในข้อนี้ตอบว่า ในความเป็นจริงเขาก็อาจจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าสิ่งที่พวกเขาพูดมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่การประชดประชัน
4. ถ้าไม่มีลูก เราก็ควรหย่าขาดกันไปเลยตั้งแต่ตอนนี้ (97 คะแนน)
(image source: talent.linkedin.com)
หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าเพราะเขาคิดว่าเขาควรจะแยกออกมา ถ้าเป็นไปได้หนึ่งสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์สงบลง ทั้งสองคนก็อยากจะทำเช่นนี้
3. ฉันพลาดมากที่มาแต่งงานกับคุณ! (166 คะแนน)
(image source: www.ipnews.kr)
ใช่ค่ะ คำพูดนี้ทำให้ผู้ฝั่งรู้สึกเจ็บปวด ผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า เขาไม่คิดว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคำนี้ใส่กันได้โดยไม่รู้สึกอะไร
2. คุณตัวเหม็น (201 คะแนน)
(image source: en.rocketnews24)
ไม่มีใครบอกไว้ว่าสามีที่ไม่ดีคือสามีที่ตัวเหม็น โชคดีที่ข้อร้องเรียนนี้สามีสามารถแก้ไขได้โดยการใช้สบู่หอมๆ และโรลออนระงับกลิ่นกาย ที่ภรรยาต้องพูดเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลในแง่ลบกับคนรอบข้าง สำหรับผู้ที่มีปัญหาต้องทำงานในอุตสาหกรรมที่มักจะต้องเจอกลิ่นติดเสื้อผ้าหน้าผมอยู่บ่อยๆ ก็ยากหน่อยนะที่จะไม่ได้ยินภรรยาพูดคำนี้
1. ควรหาเงินให้ได้มากขึ้น! (230 คะแนน)
(image source: en.rocketnews24)
แม้ว่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นยุคใหม่จะออกไปทำงานนอกบ้านมากกว่าผู้หญิงญี่ปุ่นในอดีต แต่สำหรับคนที่แต่งงานแล้วสามีมักจะมีหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว เราอาจจะเคยเห็นภาพภรรยาลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกๆ เต็มเวลา สาเหตุนี้จึงทำให้ภรรยาค่อยข้างกังวลเรื่องรายได้ที่สามีต้องหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แม้ว่าในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นสังคมที่ทำงานหนัก แต่สิ่งที่ได้รับมันก็ยังไม่มากพอ
แม้ว่ามันจะเป็นคำพูดที่สามีชาวญี่ปุ่นไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก แต่ก็เชื่อว่าสามีคนไทยก็คงรู้สึกไม่ชอบหากภรรยาตัวเองพูดแบบนี้เช่นกัน ถ้าทั้งสองคนไม่ทำในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ชอบ สามีก็จะไม่หวาดระแวง ภรรยาก็จะบ่นน้อยลง และบ้านก็จะน่าอยู่มากยิ่งขึ้นจ้า
ที่มา: en.rocketnews24
