
ตั้งแต่เล็กจนโตเรามักจะเกิดข้อสงสัยและเกิดคำถามว่าทำไมมากมายในชีวิต ทำไมเราต้องทำตามแบบแผน ประเพณี ซึ่งเราก็มักจะได้คำตอบว่า บรรพบุรุษทำสืบต่อกันมา เราเป็นคนรุ่นหลังจึงต้องสืบต่อกันไป ประเทศอื่น ๆก็ไม่ต่างอะไรกับเรา อย่างในญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวในแต่ละปีก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น และสงสัยกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวญี่ปุ่น ซึ่งชาวญี่ปุ่นเอง 90% ของคำถามไม่สามารถหาคำตอบได้
ทำไมชาวญี่ปุ่นจึงต้องหมอบคลานและโค้งคำนับอยู่เสมอ
เมื่อชาวญี่ปุ่นโค้งคำนับให้คุณ คุณจะโค้งคำนับกลับหรือไม่? สำหรับชาวญี่ปุ่นการโค้งคำนับใน
หลาย ๆสถานการณ์ เช่น การทักทาย การแสดงความขอบคุณ การแสดงความเสียใจ
พวกเขามักจะโค้งคำนับให้อีกฝ่ายเสมอ
สมัยก่อนเมื่อคนที่มีฐานันดรต่ำกว่าจะต้องทำการโค้งคำนับผู้ที่มีฐานันดรสูงกว่าด้วยการวางหัวเข่าบนพื้นแล้วโค้งคำนับโดยให้ศีรษะโค้งต่ำลง แต่ในปัจจุบันการโค้งคำนับคือการแสดงถึงความเสมอภาค และการเคาพรซึ่งกันและกัน
บางครั้งชาวญี่ปุ่นมักจะโค้งคำนับซ้ำ ๆยิ่งทำซ้ำศีรษะก็จะยิ่งโค้งต่ำลงเรื่อย ๆ นั้นคือ มารยาทของชาวญี่ปุ่น
ทำไมนักซูโม่ถึงส่วมเสื้อผ้าน้อยชิ้น
ในสมัยโบราณการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นพันธสัญญาที่นักกีฬาจะไม่ทุจริต ดังนั้นนักกีฬาจึงต้องแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการโป๊เปลือย
ซึ่งกีฬาซูโม่ก็คือหนึ่งในกีฬาที่ส่วมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น และยิ่งไปกว่านั้นกีฬาซูโม่ไม่ใช่เป็นเพียงกีฬา แต่คือพิธีกรรมที่จะอุทิศตนแสดงความกตัญญูต่อพระเจ้าในเทศกาลต่างที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น
นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็มีประเทศอื่น ๆที่มีกีฬาคล้ายซูโม่ เช่น ประเทศตุรกี ประเทศมองโกเลีย เป็นต้น
ทำไมชาวญี่ปุ่นถึงมีตะเกียบเป็นของตนเอง
new.uniquejapan.com
หลาย ๆประเทศมีวัฒนธรรมใช้ตะเกียบทานอาหาร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศญี่ปุ่นที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ ในประเทศจีน และเกาหลีใต้มีวิธีการใช้ตะเกียบแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทอาหาร แต่ญี่ปุ่นแตกต่างคือ ใช้ตะเกียบแบบเดียวทุกเมนูอาหาร และทุกคนมีตะเกียบเป็นของตนเอง ไม่ใช้ร่วมกัน
วิธีการทำอาหารและการรับประทานในประเทศจีนจะทำอาหารและเสิร์ฟในจานใหญ่ ๆ ในทางตรงกันข้ามพ่อครัวชาวญี่ปุ่นจะเสิร์ฟอาหารเป็นจานใครจานมัน ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจึงมีตะเกียบไว้ทานอาหารเป็นของตนเอง
“ซาชิมิ” และ “ซาชิมิ” แตกต่างกันอย่างไร
ที่มา: tabi-labo
คำตอบคือ ไม่แตกต่างกัน ทั้ง 2 คำ หมายถึงอาหาร “Sashimi” ในคันโต และในคันไซ “Sashimi” คือชื่อทั่ว ๆไป
“Sashimi” คือกรรมวิธีในการทำอาหาร ด้วยการรับประทานอาหารทะเลแบบดิบ ๆกลายเป็นอาหารที่แพร่หลายในเขตคันโตตั้งแต่สมัยเอะโดะ ในเขตคันโตจะเป็นเมืองแห่งซามูไร จนเกิดคำว่า “ตัด” ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ซาชิมิ
และต่อมาซาชิมิก็แพร่หลายไปในเขตคันไซ แต่ชาวคันไซเรียกว่า “กัด” ซึ่งออกเสียงเหมือนคำว่า “ทำ” เมื่อเรียกซ้ำ ๆเสียงก็เพี้ยนจนกลายเป็น “ซาชิมิ”
ทำไมศาล Shrine torii ถึงเป็นสีแดง?
เพราะสีแดงเป็นสีที่แสดงถึงไฟและดวงอาทิตย์ ซึ่งจะขับไล่วิญญาณชั่วร้าย นอกจากความเชื่อแล้ว สมัยก่อนการดูแลรักษาไม้ที่นำมาทำเสาต้องทาด้วยสารสีแดง ช่วยให้ไม้มีอายุยืนยาวขึ้น
พอจะช่วยคลายข้อสงสัยให้กับหลาย ๆคนได้บ้าง ว่าวัฒนธรรมและประเพณีมีเหตุและผลที่สืบเนื่องจากอดีตจนมาถึงปัจจุบัน
Enjoy life today yesterday is gone and tomorrow may never come.