ทำความรู้จัก แพรี่ด็อกหรือกระรอกหมา สัตว์เลี้ยงยอดฮิตใน Tiktok

วันนี้มาในหัวข้อที่อาจจะไม่ใช่ความสวยความงาม แต่ว่าเป็นเรื่องที่อินเทรนด์ไม่แพ้กัน ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นตัวที่พบเจอบ่อยมากใน Tiktok ก็คือ ‘แพรี่ด็อก’ (Prairie dogs) ฟังชื่อแล้วอาจจะสงสัยว่าคือตัวอะไร กระรอกหรือว่าสุนัข ถ้าอย่างนั้นเราไปทำความรู้จักกับแพรี่ด็อกพร้อมกับข้อแนะนำในการเลี้ยงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อตามเทรนด์ในโลกโซเชียลกันเลยดีกว่า

‘แพรี่ด็อก’ สัตว์เลี้ยงเจนใหม่ใน Tiktok

ทุกวันนี้เวลาเลื่อนดูคลิปใน Tiktok อย่างหนึ่งที่มักเจอก็คือคลิปสัตว์เลี้ยง ดูไปก็ยิ้มตามไป ช่วยฮีลใจได้ค่อนข้างดีเหมือนกัน นอกจากจะคลิปน้องหมา น้องแมว กระรอก ฯลฯ พี่อะเครุได้เห็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งน่าสนใจและแปลกตามาก นั่นก็คือ แพรี่ด็อก ตอนเห็นครั้งแรกก็งงนิดหน่อยว่าน้องเป็นกระรอก หรือ หนู หรือสุนัข วันนี้จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกันว่าน้องคือตัวอะไรกันแน่

แพรี่ด็อก (Prairie Dog) กระรอกดิน หรือ กระรอกหมา เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกระรอก ทั้งหน้าตา จมูก หรือฟัน แต่มีขนาดตัวใหญ่กว่า จุดสังเกตคือจะไม่มีหางที่ยาวแบบกระรอก สามารถยืนสองขาได้ เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนัก 1-2 กิโลกรัม โดยปกติแล้วจะอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตร้อนหรือที่ที่มีดินเนื่องจากชอบขุดโพรงเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย ความน่ารักของแพรี่ด็อกคือ เมื่อเจอพรรคพวกจะยิงฟันใส่กันพร้อมส่งเสียงร้องที่มีลักษณะคล้ายกับเสียงสุนัขเห่า นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อแพรี่ด็อกนั่นเอง

ข้อแนะนำการเลี้ยงแพรี่ด็อก

1. ควรนำของมีค่าออกห่างจากแพรี่ด็อก

เนื่องจากแพรี่ด็อกเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่ในดินหรือขุดดิน จึงทำให้มีนิสัยที่ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นหรือดื้ออยู่พอสมควร และที่สำคัญน้องเป็นสัตว์ที่ชอบแทะ เพราะว่ามีฟันหน้าที่แข็งแรงกว่ากระรอกเยอะมาก น้องจึงแทะทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของกิน สายไฟ หรือเฟอร์นิเจอร์ ถ้าหากใครที่จะเลี้ยงต้องมีสถานที่หรือกรงที่มีขนาดใหญ่เพื่อเทียบกับสถานที่ธรรมชาติและที่สำคัญต้องจัดวางตำแหน่งให้อยู่ไกลจากของมีค่าอื่นๆ ด้วยค่ะ เพราะว่าน้องจะแทะไม่เลือกจริงๆ

2. ควรมีอาหารสำหรับแพรี่ด็อกโดยเฉพาะ

นอกจากจะเป็นนักแทะมืออาชีพแล้ว ก็ยังเป็นนักกินตัวยงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ทุกชนิด เมล็ดพันธุ์พืช เปลือกไม้ หรือแม้กระทั่งอาหารของคน เช่น ซีเรียล ไอศกรีม ฯลฯ น้องก็กินหมด แต่ว่าการกินทุกอย่างแบบไม่เลือกนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพรวมถึงอายุไขด้วย ดังนั้นควรให้อาหารที่เป็นอาหารเฉพาะ เช่น หญ้าทีโมธี เป็นอาหารหลัก 90% สลับกับอาหารเม็ดของแพรี่ด็อกหรืออาหารเม็ดของกระต่าย เมื่อถึงเวลาป้อนอาหาร ต้องค่อยๆ ป้อน อย่าปล่อยให้กินเยอะ ไม่งั้นก็กินไม่หยุดและทำให้อายุไขสั้นลงเนื่องจากมีโรคตามมา

3. ต้องระมัดระวังเรื่องความสูง

เชื่อว่าในสมัยนี้หลายๆ คนที่มีสัตว์เลี้ยงมักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์หรือคอนโดเป็นส่วนใหญ่ อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่อยู่บ้างเล็กน้อย ในการเลี้ยงแพรี่ด็อกนั้นมีบริเวณที่ควรระมัดระวัง เช่น บริเวณระเบียง หรือ บริเวณที่สูง เพราะว่าแพรี่ด็อกเป็นสัตว์ที่ไม่กลัวความสูง ไม่เหมือนกับสัตว์อื่นๆ ที่กลัวแล้วจะหยุดอยู่กับที่ ไม่ขยับตัว จนกว่าจะมีคนมาอุ้มลงไป แต่แพรี่ด็อกไม่เป็นอย่างนั้น คือสามารถกระโดดลงมาได้เลย ดังนั้นถ้าหากอยากเลี้ยงต้องนำกรงหรือคอกที่มีขนาดใหญ่พอดีไปวางในบริเวณที่ไกลระเบียงเพื่อป้องกันการตกจากที่สูง

4. เตรียมใจเรื่องความสะอาดเพราะขนร่วงเยอะมาก

เรื่องของความสะอาดในชีวิตประจำวันต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ยิ่งถ้าหากว่าเรามีสัตว์เลี้ยงด้วย ความสะอาดและสุขอนามัยก็ต้องคูณสอง สำหรับแพรี่ด็อกแล้วหลายๆ คนอาจจะเห็นรูปร่างภายนอกว่าขนสั้นคล้ายกระรอก อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนที่ร่วงหล่นหรือติดเสื้อผ้ามากนัก แต่จริงๆ แล้วจะมีฤดูผลัดขน ซึ่งช่วงนั้นขนจะร่วงเยอะมากๆ แทบจะทั้งตัวเลย โดยจะผลัดขนประมาณปีละ 2 ครั้ง

5. มีแพรี่ด็อก ต้องคอยเอาใจ

แพรี่ด็อกเป็นสัตว์ที่คลุกคลีกับมนุษย์ได้ค่อนข้างดี ไม่ขี้กลัว และที่สำคัญขี้อ้อนมากๆ แถมยังมีความฉลาดคล้ายๆกับสุนัขเลย ดังนั้นถ้าหากใครที่คิดจะเลี้ยงต้องเอาใจใส่มากเป็นพิเศษหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหรือพูดคุย และสิ่งที่ชอบที่สุดคือการเกานั่นเอง น้องจะนอนให้เราเกาและเล่นกับน้องอย่างเต็มที่ หรือในบางครั้งถ้าเราไม่เล่นด้วยก็จะเข้ามาอ้อนแบบน่ารัก ดังนั้นใครที่อยากเลี้ยงเชิงปล่อยแบบกระรอกหรือให้อยู่แค่ในกรงอาจจะต้องพิจารณานิดนึงน้าาา

แพรี่ด็อกถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยุคใหม่ที่สร้างความน่ารักผ่านโลกโซเชียลและเป็นกระแสอย่างมาก เนื่องจากวิธีการเลี้ยงไม่ได้ยากแต่ก็มีบางอย่างที่ผู้เลี้ยงจะต้องคอยเอาใจใส่เป็นพิเศษ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นจะต้องหาข้อมูลต่างๆ และเตรียมความพร้อมในทุกด้านก่อนที่จะตัดสินใจ พี่อะเครุหวังว่าทุกคนคงได้รับข้อแนะนำเล็กน้อยที่สามารถนำไปเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจน้าาา