Now Reading
7 เรื่องเล่าของญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณหนาวสั่นไปถึงกระดูก

7 เรื่องเล่าของญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณหนาวสั่นไปถึงกระดูก

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีไคดัน (怪談) หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่สยองสุดยอดที่สุด (แต่ดันเป็นที่รู้จักน้อยที่สุด) ในสมัยก่อนเหล่าซามูไรนิยมเล่นเกมที่มีชื่อว่า The Hyakumonogatari Kaidan โดยซามูไรทุกคนจะนั่งอยู่ในวงล้อมของเทียนที่ต่อกันเป็นวงกลมจนบรรจบกันพอดี 100 แท่ง เมื่อใดก็ตามที่มีคนเล่าเรื่องลี้ลับจบไปหนึ่งเรื่องก็จะเป่าเทียนให้ดับตามไปหนึ่งแท่ง และเมื่อเทียนแท่งสุดท้ายดับลง ห้องที่ทุกคนนั่งอยู่ก็จะดำดิ่งไปสู่ความมืดอย่างรวดเร็ว จากนั้นบางสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับสิ่งลี้ลับจะปรากฏตัวขึ้นมา บทความนี้จึงได้คัดสรรเรื่องราวของสิ่งลี้ลับจากการละเล่นที่โด่งดังนี้มาแบ่งปันกันทั้งหมด 7 เรื่อง ประกอบไปด้วยเรื่องของ yurei (ผีญี่ปุ่น) ที่เป็นผู้หญิง และ yokai (ปีศาจและวิญญาณญี่ปุ่น) ให้ทุกคนมาขนหัวลุกไปพร้อมๆ กัน

1. ความลับของ Yamamba / Yama-Uba 

ยามัมบะหรือยามาอุบะ คือ ปีศาจยายแก่ที่อาศัยอยู่ในภูเขาที่ดูไม่มีพิษภัย แต่แท้จริงแล้วเป็นปีศาจที่กินเนื้อมนุษย์ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณยายตนนี้มากมาย แต่หนึ่งในเรื่องเล่าที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นเรื่องจะที่มาเล่าในวันนี้คือเรื่องเล่าจาก Konjaku Monogatari ที่เล่าไว้ว่า..

กาลครั้งหนึ่งกลางภูเขาในวันที่พายุโหมกระหน่ำ พระสงฆ์รูปหนึ่งที่กำลังเดินทางอย่างยากลำบาก และเหมือนจะโชคดีได้ไปพบกับกระท่อมหลังหนึ่งของคุณยายที่ดูใจดี เพราะช่วยพระให้เข้าไปหลบพายุด้านในพร้อมกับให้การต้อนรับอย่างดีด้วยอาหารและเตาผิงอุ่นๆ แต่กลับให้คำเตือนที่แปลกประหลาดไว้ว่า “ไม่ว่าอย่างไรห้ามมองเข้าไปในห้องด้านหลังเด็ดขาด”

แต่สุดท้ายแล้วพระสงฆ์รูปนั้นก็ไม่สามารถเก็บความสงสัยไว้ได้ ทันทีที่คุณยายออกไปข้างนอกเพื่อหาไม้ฟืนเพิ่ม ท่านจึงรีบลอบมองเข้าไปในห้องด้านหลังผ่านช่องรอยแตกของประตู แล้วความสยองก็บังเกิดขึ้นเมื่อเขาได้พบว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยร่างมนุษย์ที่ถูกกินไปแล้วบางส่วน เห็นดังนั้นแล้วพระรูปนั้นจึงคิดได้ว่าคุณยายแก่คนนั้นคือยามัมบะหรือปีศาจยายแก่ที่คอยหลอกล่อนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ผ่านมาขอความช่วยเหลือโดยไม่คิดสงสัยในตัวคุณยายให้เข้ามาภายในบ้าน เพียงเพื่อจุดประสงค์ที่จะฉีกคนพวกนั้นเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้สำหรับมื้อต่อๆ ไป เมื่อรู้แบบนั้นแล้วพระสงฆ์รูปนั้นจึงรีบวิ่งออกจากบ้านอย่างเร็วที่สุดและไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย 

2. ตำนานของ Jorogumo

Jorogumo คือ ปีศาจแมงมุมมีร่างครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์และอีกครึ่งหนึ่งเป็นแมงมุม ปีศาจตนนี้จะสามารถแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นหญิงสาวผู้เลอโฉมแสนงดงามเพื่อล่อเหยื่ออย่างผู้ชายที่ผ่านไปผ่านมาให้ติดกับ แล้วนำไปเป็นอาหารมื้อต่อไป 

เรื่องเล่าของปีศาจแมงมุมได้ถูกเล่าไว้ว่า ชายหนุ่มซามูไรผู้หนึ่งถูกสาวผู้งดงามไร้ที่ติเรียกให้หยุดกลางถนนที่ไร้ผู้คนเขาหยุดมองเธออย่างพินิจพิจารณาเพราะแม้ว่าเธอจะดูสวยงาม แต่ซามูไรคนนั้นก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติและมองออกว่าเธอกำลังพรางตัวอยู่ภายใต้หน้ากากที่สวยงามนั้น เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ใช่มนุษย์แต่ต้องเป็นหนึ่งในจำพวก yokai หรือปีศาจ เขาก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีเธอด้วยดาบข้างกายของเขา แต่ยังไม่ทันจัดการให้จบสิ้น หญิงสาวตนนั้นก็หนีไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสจากดาบของซามูไรทำให้มีรอยเลือดหยดไปตามทางที่เธอหนีไป ซามูไรจึงวิ่งตามรอยเลือดนั้นจนไปถึงบ้านร้างที่แสนเก่าแก่หลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปด้านในเขาก็พบกับร่างมนุษย์ที่ถูกพันไว้ด้วยใยแมงมุมเป็นสิบๆ ชีวิต พร้อมกับร่างของเจ้าปีศาจแมงมุม Joro ที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและสิ้นลมไปในที่สุด

3. เรื่องเล่าของ Oiwa

เรื่องลี้ลับบางเรื่องก็ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ถูกแต่งขึ้นมา อย่างเรื่องเล่าของ Oiwa นี้ก็เป็นเรื่องที่มีที่มาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในยุค Edo สมัยศตวรรษที่ 17 โดยกล่าวไว้ว่า

Oiwa เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สุดแสนจะงดงามไร้ที่ติ เธอได้แต่งงานกับซามูไร Iemon ชายใจแคบที่รักเธอเพียงเพราะหน้าตาอันสะสวยและรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งชื่อว่า Oume ที่หลงรัก Iemon อย่างบ้าคลั่งหมดหัวใจและด้วยความอิจฉาริษยาที่เธอมีต่อ Oiwa ทำให้เธอตัดสินใจหลอกล่อ Oiwa ให้ทาครีมผสมยาพิษที่เธอทำไว้ ส่งผลให้หน้าของ Oiwa เกิดอาการผิดรูปขึ้น ทำให้ตาข้างหนึ่งบวมและย้อยลงมาต่ำกว่าปกติ แล้วก็ยังทำให้ผมของเธอร่วงไปครึ่งหัวโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย 

เมื่อ Iemon ได้เห็นรูปโฉมที่เปลี่ยนไปของ Oiwa แล้วก็รู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก จึงต้องการหย่ากับเธออแล้วไปแต่งงานกับ Oume แทน เขาจึงจ้างเพื่อนซามูไรของเขานามว่า Takuetsu ให้ไปข่มขืน Oiwa เขาจะได้มีเหตุผลไปขอหย่ากับเธอ แต่เมื่อ Takuetsu ได้เห็นหน้าตาที่อัปลักษณ์ของ Oiwa ก็ตกใจมากจนเขาไม่สามารถทำตามคำสั่งที่ได้รับมาได้ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเล่าแผนของ Iemon ให้เธอฟัง แล้วก็ให้เธอได้เห็นหน้าตาตัวเองในกระจกว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทันทีที่เธอเห็นใบหน้าที่ผิดรูปของตัวเองเธอก็หวาดกลัวตัวเองเป็นอย่างมากจนตัดสินใจใช้ดาบของ Takuetsu ดับชีวิตตัวเองทันที และด้วยลมหายใจสุดท้ายเธอได้สาปชื่อของ Iemon เอาไว้ 

หลังจากนั้นในคืนวิวาห์ของ Iemon กับ Oume วิญญาณของ Oiwa หน้าผิดรูปก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา Iemon ที่มีความผิดติดตัวรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากจึงหนีไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งหนีไปไกลแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการหลอกหลอนของ Oiwa ได้เลย และหลังจากคืนนั้นไม่ว่าเขาจะมองไปทางไหนแม้แต่ในแสงสว่างเพียงน้อยนิดจากตะเกียงไฟที่เขาใช้นำทางก็ยังทำให้เขามองเห็นแต่หน้าของ Oiwa จ้องมองมาที่เขาเสมอ

4. หญิงสาวแห่งหิมะ (Yuki-onna)

Yuki-onna เป็นอีกหนึ่งสิ่งลี้ลับสาวในตระกูลวิญญาณปีศาจหิมะ เธอผู้นี้มักจะพรากชีวิตมนุษย์ทุกคนที่ย่างกรายเข้าไปในดินแดนน้ำแข็งของเธอและในบางครั้งก็ทำให้ชายหนุ่มตกหลุมรักเธอ 

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางผ่านภูเขาน้ำแข็งและเผชิญเข้ากับพายุหิมะที่โหมกระหน่ำแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตัวเขาปลิวหลงทางไปไกล จนสุดท้ายก็ล้มลงนอนตัวแข็งทื่อใกล้หมดลมเต็มที เขากำลังจะสิ้นหวังและถอดใจคิดว่าอย่างไรก็คงไม่รอดแล้ว แต่ทันใดนั้นกลับมีผู้หญิงลักษณะท่าทางแปลกๆ มีใบหน้าขาวซีดราวกับหิมะและทั้งตัวก็เต็มไปด้วยเกร็ดน้ำแข็งปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา หญิงตนนั้นก็คือ Yuki-onna ที่ปกติก็คงเอาชีวิตเขาไปแล้วแต่ด้วยความสงสารเพราะเห็นว่าชายหนุ่มผู้นี้ยังอ่อนวัยนัก เธอจึงตัดสินใจช่วยชีวิตชายหนุ่มคนนี้และพาเขาไปยังกระท่อมอุ่นๆ กลางป่า แต่มีข้อแม้ในการช่วยชีวิตครั้งนี้โดยเขาจะต้องสัญญาว่าจะไม่มีวันบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด 

หลายปีผ่านไปชายหนุ่มคนนั้นก็ได้พบรักและแต่งงานกับหญิงสาวแสนงดงามคนหนึ่งชื่อว่า Yuki แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันตลอดหลายปีหลังจากนั้น แต่แล้ววันหนึ่งชายคนนั้นก็ได้บอกเรื่องราวที่สิ่งลี้ลับ Yuki-onna เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาผิดคำสัญญา เมื่อเขาได้เปิดเผยเรื่องราวในอดีตให้ภรรยาของเขาฟังแล้วใบหน้าของเธอก็เริ่มขาวซีดลงและเกร็ดน้ำแข็งก็เริ่มก่อตัวขึ้นจนเต็มร่าง ตัวจริงของภรรยาเขาก็คือ Yuki-onna และเมื่อเขาผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ เธอจึงหายตัวไปทันทีภายใต้ค่ำคืนแสนหนาวเหน็บ

5. ผีนับจาน Okiku

เรื่องเล่าของโอคิคุจะทำให้คุณตาสว่างทั้งคืนได้เป็นแน่ แต่ถ้าไม่วิญญาณของเธออาจทำได้…

ครั้งหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Okiku อาศัยอยู่ในปราสาท Himeji ในฐานะสาวใช้ของซามูไร Aoyama และหนึ่งในหน้าที่ของเธอก็คือการคอยนับชุดจาน 10 ใบที่แสนมีค่าของเจ้านายให้มั่นใจว่ายังอยู่ครบในทุกๆ วัน แต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังล้างจานอยู่นั้น เธอก็เพิ่งสังเกตได้ว่ามีจานหายไปหนึ่งใบ ไม่ว่าจะนับอีกกี่ครั้งผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เมื่อเจ้านายของเธอรับรู้ก็โกรธเกรี้ยวเป็นที่สุด จนถึงกับโยนตัวเธอลงบ่อน้ำแล้วปล่อยให้สิ้นลมไปแบบนั้น

เมื่อถูกฆาตกรรมด้วยวิธีที่โหดร้ายเลือดเย็น วิญญาณของเธอจึงอยู่ไม่สุข ไม่สามารถไปสู้สุคติได้ ในทุกๆ คืนหลังจากนั้น วิญญาณของเธอจึงมักจะคลานออกมาจากบ่อน้ำเพื่อมานั่งนับจานของเจ้านายต่อไปเรื่อยๆ จนเมื่อนับถึง 9 แล้วเธอรู้ตัวว่าจานที่ 10 ยังคงหายไปดังเดิม เธอก็จะส่งเสียงกรีดร้องอย่างหัวใจแตกสลายออกมา เสียงหวยโหนชวนขนลุกในทุกๆ คืนของเธอทำให้ทุกคนในปราสาทไม่สามารถหลับตานอนได้เลยหลายอาทิตย์ติดต่อกัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีพระสงฆ์รูปหนึ่งเข้ามาช่วยจัดการวิญญาณของเธอให้ไปสู้สุคติได้ 

6. เส้นผมสีดำ

ตำนานที่มีมานานราวหนึ่งพันปี เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องขนหัวลุกแรกๆ ของ Kaidan หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเลยก็ว่าได้ 

See Also

ตำนานเรื่องนี้ได้ถูกเล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งมีซามูไรอาศัยอยู่กับภรรยาในเมือง Kyoto อย่างยากไร้ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีขุนนางผู้ร่ำรวยจากแดนไกลมาเชิญชวนให้เขาไปเป็นข้าราชบริพาร ด้วยคำเชิญอันทรงเกียรตินี้ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงน้อมรับคำเชิญและตกลงออกเดินทางไปกับขุนนางและปล่อยให้ภรรยารออยู่ที่บ้านในสภาพยากไร้จนกว่าเขาจะกลับมา 

หลายปีต่อมาหลังจากซามูไรผู้ยากไร้ได้รับใช้ขุนนางอย่างเต็มที่แล้ว เขาก็ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่ Kyoto แม้ว่าสภาพบ้านเมื่อกลับไปจะเก่าและแก่เต็มที แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่นและต้อนรับเขากลับบ้านด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เมื่อได้กลับบ้านมาอยู่ด้วยกันในที่สุดเขากับภรรยาก็ใช้เวลาพูดคุยและหัวเราะมีความสุขกันทั้งคืนก่อนจะเผลอหลับกันไป 

แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นเมื่อซามูไรรู้สึกตัวความอบอุ่นที่รู้สึกได้จากการนอนกอดภรรยาอันเป็นที่รักในคืนที่เพิ่งผ่านพ้นไปกลับไม่มีอยู่แล้ว เขาจึงลืมตาขึ้นมาแล้วก็พบว่าไม่มีภรรยาของเขาในอ้อมกอดอีกแล้ว มีเพียงโครงกระดูกที่ถูกพันไว้รอบตัวด้วยผมดำยาวเท่านั้น

หลังจากนั้นซามูไรก็ได้รู้ว่าภรรยาของเขานั้นตรอมใจจากไปด้วยความเศร้าโศกเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา เหลือไว้เพียงแต่กระดูกที่ยังคงอยู่ในบ้านหลังนั้นเพื่อคอยนับวันรอการกลับมาของสามีที่เธอรัก

7. ตะเกียงโบตั๋น

ร่วมกันกับ Oiwa และ Okiku แล้วเรื่องของ Otsuyu ก็เป็นหนึ่งใน 3 ผีผู้หญิงที่ถูกยกให้เป็น “Nihon san dai kaidan”  หรือก็คือ “3 เรื่องผีที่ยิ่งใหญ่เป็นที่สุดของญี่ปุ่น” 

เรื่องของ Otsuyu มีอยู่ว่า ในคืนมืดคืนหนึ่งซามูไรนามว่า Ogiwara ได้พบกับ Otsuyu หญิงสาวผู้เลอโฉมที่กำลังถือตะเกียงโบตั๋นเดินไปเรื่อยๆ อยู่บนถนน Edo และคืนนั้นเองที่ Ogiwara รู้สึกว่าได้เจอรักแรกพบ เขาจึงเข้าไปชวนเธอให้เดินกลับบ้านด้วยกันกับเขา ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยความสุขจากการคุยและหัวเราะกัน ทั้งสองต่างสนุกและมีความสุขกับการมีอีกฝ่ายเดินไปด้วยกัน แต่ในคืนนั้นระหว่างทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อเนื่องที่สวนหน้าบ้านของเขา เพื่อนบ้านของ Ogiwara กลับได้ยินเพียงเสียงหัวเราะที่หลอนชวนขนลุกมาจากสวนหน้าบ้านของเขา เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วเพื่อนบ้านจึงตัดสินใจลอบมองเข้าไปผ่านกำแพงบ้านแล้วก็พบว่า Ogiwara ไม่ได้กำลังประคองผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่เป็นโครงกระดูกที่กำลังหัวเราะ 

เช้าวันต่อมาเพื่อนบ้านเลยนำเรื่องที่ได้เห็นและได้ยินในคืนที่ผ่านมาไปบอก Ogiwara เขาตกใจและหวาดกลัวจึงรีบไปวัดที่อยู่ในระแวกนั้นเพื่อขอคำปรึกษาจากพระ แต่นอกจากจะไปหาพระแล้วเขายังได้เจอหลุมฝังศพของ Otsuyu อีกด้วย เขาจึงได้รับรู้และเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักในคืนก่อนได้จากไปนานมากแล้ว ก่อนที่เขาจะได้พบกันเสียอีกและในตอนนี้ที่ Ogiwara รับรู้ความจริงแล้ววิญญาณของ Otsuyu ก็ไม่มาปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะค้นพบความจริงแล้วก็ไม่สามารถทำให้เขาหยุดคิดถึงเธอได้เลย และเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ Ogiwara ก็ไม่สามารถอดทนต่อความโศกเศร้าที่เอาแต่คิดถึงเธอได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจกลับไปที่วัดเดิมแห่งนั้นที่มีร่างของ Otsuyu ฝังเอาไว้ แล้วเขาก็ได้เจอเธออีกครั้งเมื่อ Otsuyu ปรากฏตัวขึ้นมาที่ทางเข้าวัดพร้อมกับยื่นมือออกมาแล้วขอให้เขาพาเธอกลับบ้าน Ogiwara ยื่นมือออกไปจับมือของเธออย่างไม่ลังเลแล้วเดินเข้าไปในความมืดด้วยกัน

Ogiwara หายตัวไปตั้งแต่วันนั้นด้วยความกังวลพระจึงไปเปิดดูโรงศพของ Otsuyu แล้วก็พบว่ามีสองร่างนอนอยู่ข้างกันในนั้น Ogiwara และ Otsuyu ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้ว

 

จบไปแล้วกับ 7 ไคดันหรือ 7 เรื่องเล่าชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับจากญี่ปุ่นแดนไกล มีเรื่องไหนพอจะทำให้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ หรือขนหัวลุกได้บ้างก็ลองนำไปเล่าต่อเพื่อสร้างบรรยากาศยามค่ำคืนกับเพื่อนๆ พี่น้อง หรือครอบครัวกันนะ 

ที่มา: savvytokyo
ที่มาภาพ: yokai.fandomgoshseikoartsydeviantarttheunexplainedmysteriesdeviantartoldbookillustrations
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top