Now Reading
5 นิสัยแย่ของสาวๆ ที่อาจทำรักพัง {โดยไม่รู้ตัว}

5 นิสัยแย่ของสาวๆ ที่อาจทำรักพัง {โดยไม่รู้ตัว}

“ความรักและความเข้าใจ” เป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ของคู่รัก ว่าในอนาคตจะเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่…ไม่มีคู่รักคู่ไหนหรอกค่ะที่ไม่เคยทะเลาะกันเลย ยิ่งความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนแน่นแฟ้น ยาวนานมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการทะเลาะกันก็จะมีมากขึ้น ดังนั้นสาวๆ ลองมาวิเคราะห์คู่ของตัวเองดูซิคะว่า เหตุผลที่ทำให้เรากับแฟนทะเลาะกันบ่อยๆ เป็นเพราะเหตุผลอะไรกันแน่? หรือเหตุผลนั้นเป็นเพราะตัวเราเองหรือเปล่า?  เช็ค 5 นิสัยนี้ก่อน ถ้าคุณไม่อยากให้ความรักเป็นไปอย่างติดๆ ขัดๆ  จนถึงขั้นต้องเลิกรากันไปในที่สุดเพราะนิสัยของคุณเอง

 

1. คุณเช็คคอมฯ และโทรศัพท์ของแฟนบ่อยๆ?

ยอมรับค่ะว่า “ความอยากรู้อยากเห็น” เป็นเรื่องธรรมชาติ สาวๆ หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่าแฟนของคุณกำลังติดต่อกับใครหรือโทรหาใครเป็นพิเศษหรือเปล่า ยิ่งถ้าเขาทำตัวลับๆ ล่อๆ กับโทรศัพท์แล้วล่ะก็…ยิ่งทำให้คุณอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นกว่าเดิม แต่การที่คุณแก้ปัญหาด้วยหยิบโทรศัพท์ของเขามาเช็คโน่นนี่นั่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และถ้าคุณมีความรู้สึกว่าคุณจำเป็นจะต้องเช็คมันบ่อยๆ ตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะคุณกลัวว่าแฟนของคุณจะมีคนอื่น หรือมันอาจจะเป็นนิสัยที่ชอบสอดส่องของคุณที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว…จงรู้ไว้เลยว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่กำลังเข้าสู่ช่วงอันตรายแล้ว

       การแก้นิสัยนี้ : เรียนรู้ที่จะเชื่อใจในตัวคนรักและต่อต้านความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองให้ได้ เพราะถ้าวันไหนแฟนของคุณรู้สึกว่าเขากำลังถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป นั่นจะทำให้มีผลต่อความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ในอนาคตแน่ ดังนั้นหลีกเลี่ยงได้ หลีกเลี่ยงนะคะสาวๆ

 

tumblr_inline_moal49Tpx41qz4rgp@Tumblr

 

2. คุณแอบเล่น Facebook ของเขา?

อย่าพยายามเข้าไปวุ่นวายกับ Facebook ของเขาถ้าไม่จำเป็น ไม่ใช่หมายความว่าคุณไม่มีสิทธ์นะคะ แต่ทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาดราม่าตามมาอย่างแน่นอน

       การแก้นิสัยนี้ : ถ้าคุณเป็นคนที่ขาดโลกโซเชียลมีเดียไม่ได้ เราไม่ว่า…แต่พยายามอย่าเข้าไปค้นหาข้อมูลใน Facebook ของแฟนคุณเป็นอันขาด สาวๆ พึงระลึกไว้นะคะว่า แฟนของคุณจะบอกคุณแน่ ถ้านั่นคือเรื่องสำคัญ และอีกอย่าง คุณต้องไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับโลกออนไลน์ของเขา ให้เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทหรือบาดหมางใจกันเป็นอันขาด

 

3. คุณยังตัดแฟนเก่าไม่ขาด?

“มันเป็นเรื่องธรรมดาที่บางคนจะจบความสัมพันธ์ลงได้ด้วยดีกับแฟนเก่า แต่ถ้าคุณมีแฟนใหม่แล้ว การติดต่อกับแฟนเก่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก”

       การแก้นิสัยนี้ : ถ้าคุณยังจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับแฟนเก่า เช่นมีลูกด้วยกันแล้วหย่า คุณควรจะต้องคุยกับแฟนใหม่ให้แน่ใจว่าเขายอมรับกับความสัมพันธ์แบบนี้ได้ แต่ถ้าจะให้แนะนำนะคะ ความสัมพันธ์ที่มันจบลงไปแล้ว มันก็ควรจะจบจริง ๆ ไม่ใช่ค้างๆ คาๆ จนทำให้กลายเป็นปัญหาของคุณกับแฟนคนใหม่ตามมา ดังนั้นเคลียร์ตัวเอง และเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากๆ คิดง่ายๆ ว่า ถ้าแฟนของคุณทำแบบนี้บ้าง คุณจะรู้สึกอย่างไร?

1@dramafever

 

4. คุณสูญเสียความเป็นตัวเอง?

การสูญเสียความเป็นตัวเองอาจจะดูไม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายมากๆ ถ้าคุณใช้ชีวิตกับแฟนเป็นระยะเวลานาน
– คุณจะเริ่มห่างเหินจาก เพื่อนและครอบครัวของคุณ และพวกเขาจะแทบบ้า ถ้าคุณไม่โทรหาหรือไปเยี่ยมเยียนพวกเขาบ้าง
– คุณจะละทิ้งกิจกรรมที่คุณเคยทำกับแฟน ตอนคบกันใหม่ ๆ เช่น การดูหนัง ทานข้าว หรือออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกัน

       การแก้นิสัยนี้ : จัดสรรตารางชีวิตของตัวเองใหม่ ใส่ใจและให้เวลาทั้งเพื่อน, แฟนและครอบครัวไปพร้อมๆ กัน แล้วอย่าลืมทำกิจกรรมเติมความหวาน อย่างเช่น การออกไปทานอาหารมื้อเย็น ในสถานที่ใหม่ๆ แค่นี้ก็จะทำให้ชีวิตรักของคุณดูตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้แล้ว อีกอย่างทุกคนก็จะได้เห็นว่าคุณยังเป็นคนเดิมที่สดใส ไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนเลย

2
@goldgirlbomb

 

5. คุณชอบเอาแฟนของตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น?

ไม่ว่าคุณจะคบกับแฟนมานานแค่ไหน แต่อย่าทำให้เรื่อง การหมั้น การแต่งงาน หรือเรื่องมีลูก ของคนอื่นมาเป็นเรื่องบาดหมางใจตัวเองเป็นอันขาด เพราะถ้าคู่ของคุณคบกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง คุณและแฟนจะรู้ทันทีว่าตอนไหนควรจะมานั่งคุยกันถึงเรื่องแต่งงานที่จริงจังสักที

ดังนั้นสาวๆ ที่ชอบพูดถึงเรื่องงานแต่งงานบ่อยๆ เพราะเห็นคู่นั้น คู่นี้เขาแต่งกัน จงพึงระวังไว้นะคะว่าบางทีแฟนหนุ่มของคุณอาจจะรู้สึกว่าเขากำลังถูกกดดัน ในขณะที่ยังไม่พร้อม จนทำให้กลายเป็นความอึดอัดและไม่มีความสุขไปเลยก็ได้

       การแก้นิสัยนี้ : อย่าคาดหวังและเร่งรัดแฟนของคุณมากนัก เพราะนั่นจะทำให้เขาไม่มีความสุข สาวๆ จงพึงระลึกไว้ว่า ความรักไม่ใช่การแข่งขัน คนที่แต่งงานหรือมีครอบครัวก่อน ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาชนะหรือประสบความสำเร็จ ดังนั้นใส่ใจคนใกล้ตัวของเราให้มากๆ ก่อนดีกว่านะคะ อย่าทำให้เรื่องของคนอื่นเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคู่ของคุณมากนักเลย เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าผู้ชายเขาพร้อมเมื่อไหร่ การคุกเข่าขอแต่งงานสุดหวานซึ้งอาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวคุณเองก็ยังคาดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ

5

       หวังว่าเรื่องราวนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ AkeruFeed ทุกคน ที่มีความรักและอยากจะอยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆ ดังนั้นมาใช้ทุกเวลา ทุกนาทีไปกับการดูแลและประคองความรักให้ยังดีแบบนี้ไปในทุกๆ วันกันดีกว่าค่ะ ^^

 

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top