
วัย 20s คือ หนุ่มสาววัย 20-29 ปี คนวัยนี้มักถูกเรียกว่า วัยรุ่นตอนปลาย, วัยเริ่มเป็นผู้ใหญ่ หรือคำเก๋ๆ อย่าง Millennial โดยวัย 20s ถือเป็นวัยที่สามารถสนุกกับชีวิตได้เต็มที่แบบสุดเหวี่ยง เพราะเป็นวัยที่ผสมทั้งความสนุกสนานของวัย teen และความจริงจัง บ้าคลั่ง บางอารมณ์ก็เหมือนกับผู้ใหญ่ พวกเรามักมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เพราะความคิดของเราเตลิดไปไกลเกินกว่าจะหยุดอยู่กับที่
พวกเราซุกซนราวกับลิงในสวนสัตว์ แต่บางทีก็สงบเสงี่ยมนิ่งเฉยแบบสุดๆ ราวกับน้ำนิ่งในสระใหญ่และลึกกลางป่า วัย 20s เป็นวัยที่ผู้ใหญ่หลายคนใฝ่หา แต่พอรู้สึกตัว เวลานั้นก็ล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งหลายคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าเลือกได้ พวกเขาอยากกลับไปอยู่ในวัย 20s อีกครั้ง และจะทำทุกวันให้สุดเหวี่ยง บ้าคลั่งสุดๆ!”
และนี่คือ 9 ข้อคิดที่พวกเขาอยากบอกกับหนุ่มสาววัย 20s ทุกคน
1 อย่ากลัวเลย ที่จะกระโดดไปขว้าโอกาสต่างๆ
ในวัย 20S เป็นวัยเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพหรือชีวิต แต่ขออย่างหนึ่ง อย่าไปจริงจังมากนักเลยว่าคุณจะยิ่งใหญ่ในเร็ววัน แต่สิ่งที่พวกคุณควรจำไว้ก็คือไม่ว่าโอกาสมันจะเล็กน้อยหรือใหญ่เกินตัวขนาดไหน คว้ามันเลย! เหมือนอย่างคนดังในอเมริกาบางคน งานแรกของเขาคือการเป็นนักบัญชี (ฟังดูเป็นเด็กเนิร์ดมากเลย แถมงานก็คงน่าเบื่อและจำเจ) แต่ไม่นานเขาก็ผันตัวมาเป็นนักลงทุนซะงั้น และปัจจุบันก็กลายเป็นคนสำคัญในทีมแฟชั่นแมกกาซีน (โคตรจะไม่ใช่เส้นทางที่นักบัญชีทั่วไปเดินมาถึง ถูกไหม) คุณไม่รู้หรอกว่า ทุกๆ ประสบการณ์จากการคว้าหลายๆ โอกาสมันสอนคุณหมด สุดท้ายคุณจะค้นพบว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำมากที่สุดในชีวิต ผ่านวิธีการสอนจากโอกาสต่างๆ ที่คุณขว้ามาได้
2 อย่าทนทำงานที่คุณเกลียด
ลาออก นั่นคือคำแนะนำแรก แล้วหางานที่ใช่สำหรับคุณ งานที่คุณอยากตื่นเช้าและไปทำงานทุกวัน! อ๋อ และงานนั้นควรให้ค่าตอบแทนมากพอที่คุณสามารถมีเงินเก็บ เพราะถ้าคุณมีเงินเก็บ ถือเป็นการดีที่จะเอาเงินนั้นไปลงทุนกับสิ่งที่หลงใหล อย่างเล่นดนตรี, ทำอาหาร หรือท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ สุดยอดเลยใช่ไหมล่ะ
3 ทำในสิ่งที่กลัว ฟังแล้วตลก แต่ก็ต้องทำ
ถ้าคุณกลัวความสูง, กลัวการพูดต่อหน้าคนเยอะๆ, ไม่ก็เหตุผลโง่ๆ อย่างกลัวการกินผัก ก็แค่ทำในสิ่งที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่ามันทำให้กลัว จนใจคุณสั่นแรงยิ่งกว่าจูบแรกซะอีก! ฉันมีเรื่องเล่าหนึ่งอยากจะแชร์ (เรียกว่า “อวด” เลยก็ได้นะ)
ฉันไม่เคยเรียน Graphic มาเลย แค่โปรแกม Photoshop ก็ยังไม่เคยเปิดเข้าไปใช้งาน แล้วฉันจะทำ Graphic ให้กับเจ้านายของฉันได้ยังไง ก่อนเริ่มงาน 2 อาทิตย์ ฉันกลัวว่าจะทำไม่ได้จนเก็บไปคิดทุกคืน ฉันสมัครเป็น Marketing นะ ให้ตายเถอะ! ฉันกลัวและประหม่าสุดๆ แต่พอได้เริ่มลองทำ ฉันพูดสั้นๆ เลยนะว่าฉันทำมันออกมาสุดยอดและดีมาก แถมดีกว่าพวกที่เรียนมาด้วยซ้ำ และตอนนี้ก็ควบ 2 ตำแหน่ง ทั้ง Creative Marketing และ Graphic Designer เอาล่ะ…ถึงตาคุณแล้ว บอกแม่คุณว่าเย็นนี้คุณอยากกินผัดผัก ไม่ก็ชวนเพื่อนไปกระโดดบันจีจัมพ์ซะ
4 อย่าจริงจังมากเกินไป
คุณป้าคุณลุงหลายๆ คนชอบพูดให้ลูกหลานตัวเองฟังบ่อยครั้ง ว่าอย่าจริงจังมากไปนักเลยหลานเอ๋ย…อย่าเอาเวลามีค่าของตัวเองไปกระวนกระวายมากนัก แค่สนุกไปกับทุกอย่างที่เข้ามา เพราะแต่ละประสบการณ์ที่เราจะได้เจอมันซับซ้อนและต่างแตกกันมากมายเลยล่ะ ไหนจะเจอเจ้านายจอมขี้บ่น หรือเพื่อนรวมงานไม่เอาไหน ไม่ก็เงินเดือนที่น้อยนิด แถมงานเร่งด่วนจนแทบทำไม่ทันอยู่แล้วในแต่ละวัน อย่าจริงจังกับมันมากและลดความกระวนกระวายใจลงบ้าง ปล่อยไปตามธรรมชาติ อย่าคิดเองเออเอง Just take it easy.
5 หาให้เจอว่าคุณต้องการอะไรในชีวิต
ถ้าคุณเชื่อในเรื่องความคิดสร้างสรรค์เหมือนกับที่เด็กอนุบาลเชื่อว่า ไม้บรรทัดกับดินสอคือเครื่องบินลำใหญ่ที่พวกเขาสร้างขึ้นให้ผู้โดยสารทั่วโลก ลองคิดด้วยวิธีง่ายๆ เหมือนพวกเขาดูบ้าง บางทีคุญอาจจะเจอสิ่งที่คุณต้องการ อยากจะเป็น และอยากทำผ่านไม้บรรทัดและดินสออันนั้นก็ได้
6 ซื่อสัตย์ต่อทุกอย่าง
ซื่อสัตย์ คือหนึ่งในคำปฏิญาณตนของเหล่าลูกเสือ ซึ่งพวกคุณคงเคยท่องกัน พ่อและแม่ของฉันชอบบอกให้ฉันซื่อสัตย์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะกับตัวฉันเอง กับพวกเขา กับน้องชาย หรือกับใครก็ตาม แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ต้องซื่อสัตย์กับมัน เพราะการซื่อสัตย์จะสะท้อนถึงผลสำเร็จของเราในอนาคต ถ้าคุณซื่อสัตย์กับสุนัขตัวหนึ่งได้ว่าคุณจะเอาอาหารให้มันกินหลังเลิกเรียนทุกเย็น คุณก็จะซื่อสัตย์ต่อฝันของคุณเช่นกัน
7 เลิกบ่น บ่น และบ่น
อย่าบ่นว่าคุณไม่สวย แต่ให้พัฒนาความสวยนั้น
อย่าบ่นว่าคุณโง่ แต่ให้บำรุงสมองด้วยทักษะที่สำคัญ
อย่าบ่นว่าคุณไม่รวย แต่ให้ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า
อย่าเอาแต่บ่นจนติดเป็นนิสัย มันเสียเวลาและมื่อยปากเปล่าๆ แถมไร้สาระมากด้วย เอาเวลาไปพัฒนา บำรุง และปรับปรุงจะดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่เสียเวลาแล้ว ยังไม่ทำให้คุณหงุดหงิดใจและคนอื่นก็ไม่ต้องมารำคาญเสียงของคุณด้วย
8 อย่ารีบร้อนเกินไป
มีวัยรุ่นหลายคนในวัย 20s ที่กระหายอยากจะเป็นในแบบที่พวกเขาต้องการ ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะ เพราะฉันก็คือ 1 ในนั้นเหมือนกัน พวกเรากระหายราวกับสิงโตที่อดอาหารมาหลายวัน พวกเราจะดูดุดันและหงุดหงิดง่ายเกินไปเพียงเพราะเรายังหาเนื้อกวางตัวใหญ่ๆ ไม่ได้ จดลืมนึกไปว่าเราเพิ่งจะก้าวออกจากถ้ำเพียงแค่ไม่กี่ก้าว มันไม่ใกล้ฝูงกวางเนื้อหวานเลยสักนิด พวกเราหวังว่าจะรวยเร็วๆ หวังจะประสบความสำเร็จเร็วๆ นี้ แม้ว่าพวกเราเพิ่งจะเรียนจบ อย่ารีบร้อนจนเกินไปเพราะระหว่างทางมันสนุกมากกว่าปลายทางที่อิ่มเอม
9 เวลามันผ่านไปเร็ว เร็วจนลืมนึกไปว่ามันสำคัญ
เวลาเดินปกติ แต่คนเราต่างหากที่หลงลืม เพราะคิดว่าเรายังมีเวลามากและนานพอควรจนสามารถเล่นๆ กับเวลาได้อีกนาน แต่พอถึงจุดๆ หนึ่ง จุดที่คุณรู้ว่าพรุ่งนี้คือวันเกิดของคุณ แต่ครั้งนี้คุณไม่ได้ฉลองให้กับความเด็กอีกต่อไป เพราะมันคือปีที่ครบรอบ 30 ปี นั่นจะเป็นเครื่องหมายเตือนคุณและกากบาทไว้บนหน้าผากว่าคุณไม่ใช่เด็กอีกแล้ว ถ้าคุณพลาดท่าเข้า นั่นคือความผิดของผู้ใหญ่โง่ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีการขอโทษและเริ่มใหม่เหมือนวัย 20s อีกต่อไป ทุกก้าวที่คุณเดินออกมา คือก้าวที่คุณต้องแน่ใจมากพอแล้วว่ามันคือทางเลือกที่ดีที่สุด
อย่าปล่อยเวลามีค่าของเราในวัย 20s ไปโดยเปล่าประโยชน์ และต้องมานั่งเสียดายทีหลัง…เหมือนผู้ใหญ่บางคน (ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะมากกว่า 50% เลยล่ะ “ที่รู้สึกเสียดาย”)