อะไรที่ทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่ต้องการในชีวิตได้บ้างคะ. . .ขยันทำงาน? ฝึกฝนฝีมือบ่อยๆ ? วิธีที่ว่านี้คงไม่นำพาอะไรทั้งนั้นหากเราไม่เริ่มจากการ “มองโลกในแง่ดี” เพราะหากสาวๆ มัวแต่คิดว่า “ฉันทำไม่ได้หรอก” หรือ “มันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ” ก็เท่ากับเป็นการตัดโอกาสตัวเองที่จะลองลงมือทำจริงๆ แล้วอย่างนี้มันจะไปสำเร็จได้ยังไงกัน
ลองนึกถึงการทดลองที่เรียกว่า ‘The Placebo Effect” ดูนะคะ นักวิจัยนำผู้ป่วยจริงกลุ่มหนึ่งมาทดลอง โดยให้รับประทานยาที่เคลมว่าเป็นยารักษาโรค ซึ่งจริงๆ แล้วในแคปซูลนั้นมีแค่น้ำตาลธรรมดา แต่ใครจะเชื่อว่าผู้ป่วยกลับดีขึ้นเพียงเพราะเชื่อว่ายาปลอมนั้นรักษาอาการป่วยได้จริง การทดลองนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า “เมื่อเราเชื่อและลงมือทำ สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริง”
วันนี้ AkeruFeed ชวนสาวๆ มาลองเปลี่ยนมุมมองเดิมๆ เพื่อสร้างความคิดที่ดีให้นำไปสู่ความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้ค่ะ
มองมุมกลับ
หากมีใครถามเราว่า “เป้าหมายสูงสุดคืออะไร” สาวๆ มักตอบไปอย่างหนักแน่นจริงจังหรือออกตัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าคำตอบส่วนใหญ่มักเป็นแบบหลัง เราลองมาสร้างภูมิคุ้มกันการมองโลกแบบ ‘Growth Mindset’ ดีกว่า จากที่เคยมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกินความสามารถตัวเองจนทำให้เราไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ เพียงเพราะกลัวผิดหวัง ลองมองมุมกลับ มองให้ “ไกล” กว่าอุปสรรคที่มันขวางทางเราอยู่ ความคิดแง่ลบจะตีกรอบแคบๆ ให้เรามองเห็นแค่จุดที่เรายืนอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าทุกเส้นทางรายล้อมไปด้วยปัญหา เมื่อพูดถึงเป้าหมาย มันจึงเกิดคำถามว่า “แล้วถ้ามันล้มเหลวล่ะ” กลับกันกับคนที่มี ‘Growth Mindset’ ที่มักมองหาทางออกจากปัญหาที่เจอเพื่อไปสู่ความสำเร็จ เขามักคิดเสมอว่า “ล้มเหลวก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นไอ้ขี้แพ้ตลอดไปหนิ”
มุ่งสู่เป้าหมาย
สิ่งเดียวที่ต้องโฟกัสคือ “ความสำเร็จ” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราต้องเอาแต่มองโลกในแง่ดีคิดว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างต้องจบลงอย่างสวยงาม การมุ่งสู่เป้าหมายคือการถีบตัวเองให้พยายามมากขึ้น เพราะแน่นอนว่าเมื่อเริ่มลงมือปัญหาก็ต้องตามมาอยู่แล้ว หาแรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัวหรือคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนคติ จะช่วยให้เรามองเห็นโลกในมุมที่ต่างออกไป เข้าใจวิธีแก้ปัญหาที่เจออยู่ให้ผ่านไปได้
ยิ้มสู้เข้าไว้
เป็นธรรมดาที่เมื่อเราเริ่มทำอะไรก็มักมีคนหรือความคิดของตัวเราเองคอยแย้งอยู่เสมอ (นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาในการไปสู่เป้าหมาย) อคติแง่ลบต่างๆ จำพวก “เธอทำไม่ได้หรอก” “เธอไม่ทำอย่างนั้นแน่ๆ” หรือ “เธอไม่ควรจะทำอย่างนี้นะ” เกิดจากความกลัว ที่สำคัญมันยังคอยสกัดกั้นเราไม่ให้ไปถึงเป้าหมาย วิธีกำจัดอคติเหล่านี้ก็ให้ยิ้มสู้เข้าไว้ค่ะ จงหนักแน่นกับความคิดและสิ่งที่เราทำอยู่ต่อไป เพราะไม่มีอะไรมาทำให้เราล้มเหลวได้นอกจากตัวเองที่ล้มเลิกไปกลางทาง
วาดฝันความสำเร็จ
เราไม่ได้บอกให้ตัวเองฝันเฟื่องไปวันๆ ถึงอนาคตสวยหรูที่สาวๆ อยากมีอยากเป็นแบบเลื่อนลอยไร้จุดหมายนะคะ แต่การจินตนาการถึงความสำเร็จเป็นเหมือนยาชูกำลังที่ทำให้เรามีพลังใจในการขับเคลื่อนสิ่งที่ทำอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งสมองของเรารับรู้ภาพแห่งความสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งผลักดันให้เราขยันและพยายามทำสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น
AkeruFeed ขอปิดท้ายด้วยเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นพลังของ “ความคิด” ที่มีผลต่อความสำเร็จ หลายร้อยกว่าปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เคยบอกว่ามนุษย์ไม่สามารถวิ่งได้ 1 ไมล์ ภายในเวลา 4 นาที แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1954 Rodger Bannister ก็เปลี่ยนความจริงข้อนี้ เขาสามารถวิ่งได้ 1 ไมล์ ภายใน 4 นาที ซึ่งทำให้ผู้คนอีกมากมายลุกขึ้นมาทำแบบเขาได้สำเร็จ และอีกสิบห้าปีต่อมา เขาก็ทุบสถิติตัวเองด้วยการวิ่ง 1 ไมล์ภายใน 17 วินาที ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำทุกสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง. . .และนี่ก็คือผลจากพลังความเชื่อ
ที่มา : Lifehack
