คอนแทคเลนส์เป็นตัวช่วยสำคัญที่นำไปสู่การมองเห็นที่ชัดเจน เสริมดวงตาให้ดูสวยงาม สร้างความสะดวกสบายทดแทนการใส่แว่นตา และด้วยสีสันลวดลายหลากแบบ คอนแทคเลนส์จึงกลายเป็นไอเทมยอดนิยมของคนหนุ่มสาวสมัยนี้ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะใส่แล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป คนที่ใส่แล้วมีปัญหาตามมาก็มี เพราะฉะนั้นมาเรียนรู้ถึงกลุ่มบุคคล 6 ประเภทที่ไม่เหมาะสำหรับการใส่คอนแทคเลนส์กันเถอะ.. เพื่อจะได้รู้เท่าทันและป้องกันการเกิดปัญหาได้!
1. กลุ่มคนที่เป็นโรคตา
หากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับดวงตาไม่ว่าจะในระยะยาวหรือระยะสั้นควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิด ทุกแบบ แล้วเลือกสวมแว่นตาแทน เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคตา dacryocystitis ซึ่งมีการอักเสบของกระจกตา, ตาแห้ง หรือโรคต้อหิน โดยคนที่เป็นโรคเหล่านี้แต่ยังใส่คอนแทคเลนส์อีกอาจส่งผลให้ดวงตาติดเชื้อรุนแรงยิ่งขึ้น ถ้าไม่อยากสูญเสียดวงตา แนะนำให้โบกมือลาคอนแทคเลนส์ไปได้เลยค่ะ
2. กลุ่มคนที่เป็นไข้หวัด
โดยปกติคนที่เป็นหวัดมีแนวโน้มและปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคตาแดงอย่างรุนแรง หรือโรคไขสันหลังอักเสบ ส่งผลให้หลอดเลือดดำในดวงตาขยายตัวและเป็นก้อนใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการจาม ไอ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียหลายล้านตัวแพร่กระจายไปทั่ว ลองคิดภาพว่าแบคทีเรียติดอยู่ที่มือ แล้วนำมือนี้ไปแตะคอนแทคเลนส์ที่ใส่อยู่ดูสิคะ เชื้อโรคทั้งหลายเป็นได้วิ่งเข้าสู่ดวงตาคู่สวยจนติดเชื้อและอักเสบแน่ ทางที่ดีช่วงเป็นหวัดควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อนชั่วคราว เพียงเท่านี้ก็ลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับดวงตาได้แล้ว
3. กลุ่มหญิงมีครรภ์หรือมีประจำเดือน และผู้ที่ให้นมบุตร
ในช่วงมีประจำเดือนร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ดวงตาบอบบางและอ่อนแอกว่าปกติ ส่งผลให้เยื่อตาฉีกขาดและติดเชื้อได้ หากเยื่อตาได้สัมผัสกับคอนแทคเลนส์ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้สารที่ผลิตจากเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ระหว่างกระจกตาและคอนแทคเลนส์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นแผลที่เกิดจากเชื้อโรคในกระจกตา
นอกจากนี้ความดันลูกตาในช่วงมีประจำเดือนจะสูงกว่าปกติ ทำให้เนื้อเยื่อผิวกระจกตาทำงานหนัก ส่งผลให้สวมใส่คอนแทคเลนส์แล้วเคืองตา ตาแห้ง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อดวงตาสูง
ส่วนหญิงช่วงให้นมบุตรและช่วงการตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ส่งผลทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ลามไปถึงความผิดปกติของกระจกตา การใส่คอนแทคเลนส์ในช่วงนี้จึงเป็นสาเหตุหลักที่เสี่ยงทำให้ดวงตาเกิดอาการติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติเป็นเท่าตัว
4. กลุ่มนักเรียนระดับประถมจนถึงมัธยมต้น
เด็กวัยใสช่วงประถมและมัธยมที่อายุไม่เกิน 15 ปี การใส่คอนแทคเลนส์เป็นสิ่งที่ยังไม่เหมาะไม่ควร สำหรับคนที่มีปัญหาทางสายตาควรได้รับการดูแลจากจักษุแพทย์อย่างถูกต้อง เนื่องจากในวัยนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของร่างกายอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ระดับสายตายังสั้นยาวไม่แน่นอน และกระจกตาไม่อาจปรับให้เหมาะสมเข้ากับคอนแทคเลนส์ได้
เสี่ยงต่อการเกิดเยื่อบุผิวกระจกตาหรือแม้กระทั่งเป็นแผลที่กระจกตา อีกทั้งเด็กในวัยนี้ยังขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในการสวมใส่คอนแทคเลนส์ หากโชคร้ายอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตาในระยะยาว จนนำไปสู่การติดเชื้อของกระจกตาและโรคตาอื่นๆ ในภายภาคหน้าได้ อดใจอีกหน่อย แล้วค่อยใส่คอนแทคเลนส์ตอนโตจะดีกว่านะคะ
5. กลุ่มคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 40 ปี เป็นอีกกลุ่มบุคคลที่แนะนำให้ใส่แว่นตาแทนการใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะมีปริมาณออกซิเจนในดวงตาลดลงเรื่อยๆตามระดับอายุที่มากขึ้น เมื่อดวงตาขาดออกซิเจน การใส่คอนแทคเลนส์เข้าไปก็ยิ่งไปเพิ่มภาระให้ดวงตา ทำให้ตาแห้ง อาจเกิดการฉีกขาด ระคายเคือง และอักเสบเสี่ยงติดเชื้อรุนแรงได้เลยทีเดียว อันตรายมากๆ
6. กลุ่มคนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสารปนเปื้อน
กลุ่มคนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน หรือสารปนเปื้อนที่อันตรายอยู่เป็นประจำไม่ควรสวมใส่คอนแทคเลนส์เป็นอย่างยิ่ง เพราะเศษฝุ่นละอองและควันเหล่านี้ล้วนมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ และแน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงได้ยากที่สิ่งเหล่านี้จะไม่ปลิวเข้าสู่ดวงตาอันบอบบาง ดังนั้นแนะนำให้ใส่แว่นตาแทนคอนแทคเลนส์ สวมหน้ากากอนามัย และไม่ขยี้ตา เพียงเท่านี้ดวงตาก็ปลอดภัยจากเชื้อโรคร้ายได้ง่ายๆแล้ว
คนเรามีดวงตาแค่คู่เดียว ต้องดูแลรักษาให้ดีนะคะ ความสะอาดก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ พอรู้แบบนี้และทำตามก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งแล้วล่ะว่าดวงตาจะปลอดภัยเนอะ
ที่มา : sundaymore,pen-my-blog,theodysseyonline,realmomma,wallofmakeup,304industrialpark,blue1004
