Now Reading
เปิดไทม์ไลน์ 7 ช่วงเวลาบำรุงผิวสวย อ่อนวัยใน 1 วัน

เปิดไทม์ไลน์ 7 ช่วงเวลาบำรุงผิวสวย อ่อนวัยใน 1 วัน

การดูแลผิวพรรณให้ดูสวยใสของผู้หญิงไม่ได้มีเพียงแค่การลงครีมบำรุงโลชั่นเท่านั้น  แต่ยังขึ้นอยู่กับนิสัยการนอนหลับ การทานและการดื่มที่เรามักทำเป็นประจำอีกด้วย หากแต่ละช่วงเวลาเราปรนนิบัติดูแลตัวเองได้ดีอย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการมีผิวสวยสดใสแข็งแรงพร้อมสู้กับทุกมลภาวะ วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับการบำรุงผิวด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตในหนึ่งวันด้วยการทำกิจกรรมตามตารางเวลาตั้งแต่เช้ายันเย็น ซึ่งวิธีนี้หากทำเป็นประจำจะช่วยสร้างผิวสวยใสอ่อนเยาว์ให้เราโชว์หน้าสดแบบมั่นใจโดยไม่ต้องพึ่งเมกอัพ แล้วในหนึ่งวันเราต้องทำอะไรกันบ้างตามาได้เลยค่ะ

1. เวลา 6.00 น – 10.00 น.. : ตื่นนอน

นี่คือช่วงเวลาที่สดใสไม่มีฝุ่นหรือแสงแดดจัด ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับผิวสวยหลังตื่น ดื่มน้ำหนึ่งแก้วเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายหลังจากพักผ่อนอย่างยาวนานทั้งคืน ช่วงเวลานี้เราสามารถออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ประมาณ 10-15 นาทีเพื่อให้ผิวมีโอกาสดูดซับสิ่งที่บริสุทธิ์สดชื่นในตอนเช้า ในขณะที่หายใจเข้าออกสูดอากาศก็ใช้มือนวดใบหน้าเบาเบาแบบอ่อนโยนเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ช่วยให้ผิวเป็นสีแดงมีเลือดฝาดดูอ่อนกว่าวัย

ล้างหน้าในตอนเช้า : ในส่วนการล้างหน้าตอนเช้าหลังตื่นนอนให้ล้างด้วยน้ำเย็นและน้ำยาทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ตอนเช้าผิวค่อนข้างบอบบางดังนั้นอย่าล้างหน้าด้วยใช้ผ้านุ่มดูดซับและอย่าถูแบบรุนแรงเพื่อรักษาสมดุลความชุ่มชื้นในผิวเอาไว้ จากนั้นลงโลชั่นบำรุงผิวและอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกไปข้างนอก

2.เวลา 10.00 น. – 12.00 น.: ดื่มชาเขียวขับพิษให้ผิวสวย

ช่วงเวลาก่อนอาหารกลางวันแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขับสารพิษขจัดของเสียออกจาร่างกายเพื่อเสริมผิวสวย ลองหาชาเขียวอุ่น ๆมาดื่ม เพื่อปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี สาร pigallocatechin gallate (EGCG) ในชาเขียวยังมีประโยชน์ช่วยต่อต้านริ้วรอยที่เหนือกว่าวิตามินซีหลายเท่าช่วยขับสารพิษทำให้ผิวใสและนี่เป็นเคล็ดลับของการมีผิวสวยในแบบฉบับสาวญี่ปุ่นนั่นเอง

3.เวลา 12.00 – 14:00 น.: หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด

โปรดหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในเวลานี้ แม้ว่าจะสวมครีมกันแดดแบบเต็มที่แล้วก็ตาม เพราะช่วงนี้แสงแดดยูวีอันตรายต่อผิวสวยมาก แนะนำว่าเวลานี้ควรอยู่ในที่ร่มใช้เวลาพักทานอาหารกลางวันประมาณ 30 นาที อยู่ห่างจากคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผิวได้รับการพักผ่อนที่ดี

4.เวลา 15.00- 17.00 น. : ช่วงเวลาที่ผิวมันมากที่สุด

กระดาษซับมัน : หากระดาษซับมันมาเป็นตัวช่วยซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าเพื่อลดการอุดตันของไขมันตามรูขุมขนที่นำไปสู่ปัญหาสิวได้

สเปรย์น้ำแร่ ช่วงเวลา 3-4 โมงเย็นเป็นช่วงที่ผิวเริ่มแสดงอาการขาดน้ำโดยเฉพาะเมื่อเรานั่งอยู่ในห้องปรับอากาศทั้งวัน ในเวลานี้ผิวจำเป็นได้รับความชุ่มชื้นทันทีและสเปรย์น้ำแร่คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ปริมาณสเปรย์น้ำแร่จะไม่ทำความเสียหายต่อการแต่งหน้า แต่ยังช่วยปกป้องชั้นการแต่งหน้าให้อยู่แน่นทนนานได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย

See Also

5.เวลา 17:00 น. – 18:00 น : ระมัดระวังฝุ่นมลภาวะ

ช่วงเลิกงานที่ต้องเจอฝุ่น ควันมลภาวะในระหว่างการเดินทาง หากจำเป็นต้องเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะให้หาซื้อแมสก์มาปิดหน้าเพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆก็จะช่วยทำให้ผิวลดความเสี่ยงจากการถูกฝุ่นควันพิษทำร้ายได้ดีขึ้น

6.เวลา 19.00 – 21.00 น.: เวลาที่เหมาะสำหรับการดูแลผิว

หลังอาหารเย็นอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวรวมถึงเร่งกระบวนการย่อยอาหารของร่างกาย และนี่ก็เป็นช่วงเวลาทองของวันที่เราจะเริ่มดูแลปรนนิบัติผิวสวย ขั้นตอนแรกที่ต้องทำคือการทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่ง , โฟมล้างหน้า, โทนเนอร์ อย่าลืมที่จะออกกำลังนวดใบหน้าอย่างอ่อนโยนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนังและช่วยให้ผิวกระชับ  ในช่วงเวลานี้ความสามารถในการดูดซึมสารอาหารของเซลล์จะทำได้เร็วกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ เพื่อให้ผิวได้ซึมซับสารอาหารดีดีที่ทรงพลังที่สุดสาวๆควรเลือกไนท์ครีมหรือมาสก์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจนเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ในทุกๆวัน

7. เวลา 22.00 น. : ช่วงเวลาเข้านอน

นี่คือเวลาที่เหมาะสมที่ผิวพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูบำรุงตัวเอง นี่จึงเป็นสาเหตุของคำแนะนำที่ว่าเราควรเข้านอนก่อนเวลา 22:00 น. เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนเซลล์ผิวต่างๆก็จะเริ่มซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง นี่จึงเป็นที่มาของการมีผิวสวยใสอ่อนเยาว์ไม่ดูโรยราเหมือนหลับเต็มอิ่มมาตลอดทั้งคืนกันไงละค่ะ

แค่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตลองนำตารางเวลาเหล่านี้ที่เรานำมาฝากไปฝึกลองทำตาม สาวๆก็สามารถมีผิวที่สวยใสกล้าโชว์หน้าสดแบบมั่นใจไม่ต้องง้อเมคอัพปกปิดใดใดเลยละค่ะ

ที่มา:afamily
ที่มาภาพ:kenh14,beautygarden,giaoducthoidai,kenh14dn.1,kenh14cdn.2,kenh14cdn.3,
womenhealth,womenhealth.1,newsmd1,stati
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top