Now Reading
รีวิว 15 เครื่องสำอาง Fenty Beauty ตัวไหนดี พร้อมจัดเต็มทั้งงานผิว แก้ม และปาก!

รีวิว 15 เครื่องสำอาง Fenty Beauty ตัวไหนดี พร้อมจัดเต็มทั้งงานผิว แก้ม และปาก!

สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน เหล่าสาวๆ สาวกเมคอัพและสกินแคร์อย่างเราก็คงจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยไอเทมใหม่ในปีนี้ให้เราได้ลองเล่นกันอยู่ใช่ไหมคะ วันนี้พี่อะเครุไม่ได้มาอัปเดตแบรนด์ใหม่แต่อย่างใด แต่จะพาทุกคนมาชมรีวิวจัดเต็มกับแบรนด์ที่เป็นกระแสมาตั้งแต่เปิดตัวจนถึงทุกวันนี้อย่าง Fenty Beauty ว่ามีตัวไหนเด็ด คุณภาพดีที่สาวๆ ต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งชิ้นบนโต๊ะเครื่องแป้ง ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ

จุดกำเนิด Fenty Beauty จากมือนักร้องดัง
สู่แม่ค้าเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์

เรียกได้ว่าทุกวันนี้มีไอเทมแบรนด์ดังมากมายที่เป็นของเหล่าศิลปิน นักร้อง และเซเลบฯ ให้เราได้ใช้กัน ทั้งแบรนด์แฟชั่นหรือแบรนด์บิวตี้และสกินแคร์ ถ้าพูดถึงศิลปินหญิงที่เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างบิวตี้แบรนด์ที่คุณภาพดีล้นหลามจนขายหมดไปทั่วโลกแล้ว คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนักร้องสาวในตำนานยุค 2000s อย่าง Rihanna ที่พักมือจากการจับไมค์ร้องเพลงกว่า 6 ปีมาเป็นแม่ค้าเอ้ยเจ้าของแบรนด์อย่างเต็มตัว!

ในทุกวันนี้ พี่อะเครุเชื่อว่าถ้าพูดชื่อ Rihanna (ริอานน่า) แล้วหลายๆ คนคงรู้จักเธอดีในนามของแม่ค้าเครื่องสำอางใช่ไหมคะ ก็แหม…ตัวแม่ลงมาเปิดแบรนด์เองขนาดนี้ของก็ต้องดีจนคนจดจำได้ แต่เส้นทางของริอานน่าเองนั้นก็เริ่มจากการเป็นนักร้องดังที่มีเพลงฮิตติดหูไปทั่วโลก เช่น Rude boy, Disturbia, Diamond และอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นแฟชั่นไอคอนที่นำเสนอเมคอัพลุคปังๆ มาตลอด 15 ปี นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นอย่าง Savage x Fenty และแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Fenty Beauty ในปี 2017 จนถึงปัจจุบันนี้มีโปรดักส์มากกว่า 10 ตัวแล้วล่ะค่ะ

ทำไม Fenty Beauty ถึงเป็นเครื่องสำอางของทุกคน

เราเองมักจะมีภาพชินตาและคำคุ้นหูกันว่าเครื่องสำอางกับผู้หญิงต้องเป็นของคู่กัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเพศไหนหรืออายุเท่าไหร่ก็สามารถใช้เครื่องสำอางได้ แบรนด์ Fenty Beauty เองจึงได้พยายามทำให้ทุกคนตระหนักในจุดนี้ด้วยสโลว์แกนของแบรนด์ที่บอกไว้ว่า “เครื่องสำอางมีไว้ให้เราได้ลองเล่นสนุก เราไม่ควรกดดันกับการใช้เครื่องสำอางเหมือนกับการใส่เครื่องแบบ” เราจึงเห็นว่า Fenty Beauty นั่นทำเครื่องสำอางออกมาหลากหลายเฉดสีเหมาะกับทุกสีผิว เช่น รองพื้น Profit’r Soft Matte Longwear Foundation ที่เปิดตัวมาใน 50 เฉดสีตั้งแต่วันแรกที่วางขาย หรือ Gloss Bomb Universal ลิปกลอสที่ทาได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จุดนี้จึงทำให้ทุกคนรู้สึกว่าแบรนด์นี้สามารถทำให้เราดูดีขึ้นได้ พร้อมสนุกกับการแต่งหน้าในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามนั่นเองค่ะ

รีวิว Fenty Beauty ตัวไหนดีที่ควรค่าแก่การตำ!

ช่วงเวลาที่รอคอยมาถึงแล้วค่ะสาวๆ เรียกได้ว่าแบรนด์นี้เปิดมาไม่ถึง 10 ปี แต่ก็มีไลน์โปรดักส์เยอะสุดๆ ครบทั้งงานผิว ตา แก้ม และปาก วันนี้พี่อะเครุจะขอรีวิวแบบจัดเต็มให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกซื้อไอเทมเด็ดจาก Fenty Beauty โดยไม่มีคำว่าเสียดายเพราะคุณภาพของเค้าดีเกินคาด จะมีตัวไหน ตามมาเลยค่ะ

1. Fenty Beauty Pro Filt’r Soft Matte Longwear Foundation

เปิดกันที่งานผิวตัวแรกที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าเมคอัพอาร์ติสและบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลกกับรองพื้นเนื้อซอฟต์แมตต์ที่มีมากถึง 50 เฉดสี เรียกได้ว่ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ เนื้อรองพื้นตัวนี้มีความเหลว เกลี่ยง่าย ไม่ว่าจะใช้มือ ฟองน้ำ หรือแปรงเกลี่ยก็ได้ผิวสวยพร้อมเบลอรูขุมขนได้กริบ ได้ลุคผิวแมตต์แบบซอฟต์ๆ ไม่แห้งกร้านสมชื่อ ระดับความปกปิดปานกลางแต่สามารถไต่ระดับได้จนถึง full-coverage เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์Pro Filt’r Soft Matte Longwear Foundation
จุดเด่น● มีให้เลือก 50 เฉดสี
● เนื้อเกลี่ยง่าย
● ได้ลุคผิวแมตต์ไม่แห้งกร้าน
● ปกปิดปานกลางถึงมาก
ราคา/ปริมาณ1,870บาท/ 32 มล.
พิกัดSephora

นังนู๋วา: ใช้ประมาณ 1-2 ปั๊มก็คือทั่วหน้าแล้ว การปกปิดคือ กลางๆ บิ๊วเพิ่มได้นิดหน่อย

Pantip

2. Fenty Beauty Match Stix Matte Skinstick

ตัวนี้ก็เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ออกมารุ่นแรกเช่นกัน จะเรียกว่าเป็นคอนทัวร์ก็ไม่ใช่หรือคอนซีลเลอร์ก็ไม่เชิงเพราะเขามีหลากหลายเฉดสีให้เลือก พี่อะเครุแนะนำว่าให้สาวๆ ซื้อสีอ่อนไว้ไฮไลต์และซื้อสีเข้มไว้คอนทัวร์ดีกว่าค่ะ มาในรูปแบบแท่งลงง่ายพอดีกับเค้าโครงใบหน้า ปาดเดียวหน้าเป๊ะ เนื้อครีมมีความแห้งไม่เหนอะหนะ สีคอนทัวร์ไม่ติดส้ม และไม่มีชิมเมอร์ ทำให้เวลาลงแล้วหน้าไม่ส้มเป็นปื้น แพ็กเกจจิ้งขนาดกระทับรัด พกพาง่าย และมีสีให้เลือกมากมายเช่นเคยค่ะ

ผลิตภัณฑ์Match Stix Matte Skinstick
จุดเด่น● แพ็กเกจจิ้งพกพาง่าย
● เนื้อเกลี่ยง่าย
● ไม่มีชิมเมอร์
● รูปแบบแท่งง่ายต่อการลงโครงหน้า
ราคา/ปริมาณ1,480 บาท/ 7.1 กรัม
พิกัดSephora

Penalope daily: contour stick มันดูน่าใช้มากนี่เลยตำมาลอง สี Mocha ดี ตรงตามความต้องการ ไม่อมส้มมากไป ออกไปทางเทามากกว่า

Facebook

3. Fenty Beauty Eaze Drop Blurring Skin Tint

สำหรับใครที่ชอบรองพื้นที่บางเบา แต่งแล้วเน้นงานผิวเหมือนไม่ได้แต่ง ต้องมีตัวนี้เลย Eaze Drop Blurring Skin Tint เค้าเป็นสกินทินท์อารมณ์เหมือนสกินแคร์เนื้อเหลว ไม่เข้มข้น แต่มีสี เกลี่ยง่าย ให้ความปกปิดเล็กน้อยสามารถเพิ่มปริมาณได้จนปกปิดขั้นปานกลาง เรื่องเบลอรูขุมขนต้องยกนิ้วให้ เพราะหลังทาแล้วผิวเรียบเนียนสนิท มีเฉดสีให้เลือก 25 เฉดสี

ผลิตภัณฑ์Eaze Drop Blurring Skin Tint
จุดเด่น● เนื้อเหลว
● เกลี่ยง่าย
● ปกปิดเล็กน้อยถึงปานกลาง
● เบลอรูขุมขนกริบ
ราคา/ปริมาณ1,600 บาท/ 32 มล.
พิกัดSephora

MEW CHAVI: เป็นรองพื้นอีกตัวที่รัก หากกำลังมองหารองพื้นที่เบาบาง เกลี่ยง่าย บิ้วเลเยอร์ได้ระดับ กึ่งแมท คือไม่แมท แต่ก็ไม่ฉ่ำแบบเกาหลี ก็ต้อง FENTY eazedrop

Facebook

4. Fenty Beauty Pro Filt’r Instant Retouch Concealer

ใครมีปัญหาแพนด้าใต้ตาหรือต้องการกลบรอยดำรอยแดงต่างๆ ก็ต้องหันมาถึ่งคอนซีลเลอร์ตัวนี้เลยค่ะ สัมผัสแรกที่ได้แตะเนื้อคอนซีลเลอร์คือนางมีความชุ่มชื้นกำลังดี ไม่แห้งผาด ทำให้ทาใต้ตาแล้วไม่ตกร่องและไม่แห้งกรัง พิกเมนต์สีแน่นชัด กลบรอยดำ รอยแดง หรือฝ้ากระต่างๆ ได้มิดในปาดเดียวจริงๆ และที่สำคัญมาใน 50 เฉดสีอีกเช่นเคย สาวผิวแห้งและผิวมันใช้ได้แน่นอน

ผลิตภัณฑ์Pro Filt’r Instant Retouch Concealer
จุดเด่น● เนื้อชุ่มชื้น
● ลงใต้ตาไม่ตกร่อง
● ปกปิดเริ่ดในปาดเดียว
● มี 50 เฉดสี
ราคา/ปริมาณ1,360 บาท/ 8 มล.
พิกัดSephora

Gogogo Girl: เค้ามีเฉดสีให้เลือกเยอะมากกก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ดังนั้นสีก็จะตรงกับผิวเรา 

Facebook

5. Fenty Beauty Cheeks Out Freestyle Cream Bronzer

หลังจากที่ Fenty Beauty ได้เปิดตัวกับคอนทัวร์แบบแท่งไปแล้ว เมื่อปี 2020 ก็ได้เปิดตัวบรอนซ์เซอร์เนื้อครีมในตลับสีทองสุดหรู เนื้อครีมเกลี่ยง่ายมากๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยลงบรอนเซอร์เนื้อครีมมาก่อน พอเบลนด์แล้วให้ผิวที่บ่มแดดมีความน้ำตาลกำลังพอดี ไม่ติดส้ม พิกเมนต์สีปานกลางจึงทำให้สามารถลงซ้ำสองรอบได้ เห็นว่าเป็นเนื้อครีมแบบนี้ก็ไม่เหนอะหนะแต่อย่างใดเลยค่ะ เพราะว่าเนื้อเซตตัวไวและไม่ต้องกลัวเปื้อนส่วนอื่นๆ ของใบหน้าเลย

ผลิตภัณฑ์ Cheeks Out Freestyle Cream Bronzer
จุดเด่น● เนื้อครีมแห้งไว
● สีไม่ติดส้ม
● พิกเมนต์ไม่เข้มเกิน
● เกลี่ยง่าย
ราคา/ปริมาณ1,600 บาท/ 5.2 กรัม
พิกัดSephora

มันเวิร์กแมะ?: เกลี่ยง่ายมากกกก และไม่มีความทึบเลย คือเป็นครีมบรอนเซอร์ที่เม็ดสีไม่จัดมากและมีความโปร่ง ยังเห็นผิวจริงอยู่

Facebook

6. Fenty Beauty Sun Stalk’r Instant Warmth Bronzer

มีคอนทัวร์แบบแท่งและเนื้อครีมไปแล้ว เราขอกลับมาที่เนื้อฝุ่นกันบ้างค่ะ Fenty ทำไว้ดีเกินคาดอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อฝุ่นที่หลายๆ คนอาจจะคิดว่าจะแห้งแล้วทำให้เกลี่ยไม่นวล แต่จริงๆ แล้วตัวนี้พิกเมนต์สีกำลังดีเลยค่ะ ทำให้ยิ่งปัดยิ่งนวลสวย ผิวบ่มแดดได้ลุคซัมเมอร์สุดๆ และที่สำคัญเนื้อบรอนเซอร์นุ่มมากจึงทำให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นปื้น แถมทุกสียังไม่ติดส้มแม้แต่นิดเพราะเค้าอิงเฉดสีโทนน้ำตาลอ่อนๆ เหมือนกับผิวของเราเวลาโดนแดดยามเย็นเลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์Sun Stalk’r Instant Warmth Bronzer
จุดเด่น● เนื้อบรอนเซอร์นวลนุ่ม
● พิกเมนต์สีปานกลาง
● สีไม่ติดส้ม
● เกลี่ยง่าย
ราคา/ปริมาณ1,570 บาท/ 5.2 กรัม
พิกัดSephora

Onicha makeup: ไม่ส้มไป ไม่เทาไป พอดีเหลือเกิน⁣รักนาง รักแม่ริริ ⁣

Facebook

7. Fenty Beauty Killawat Freestyle Highlighter Duo สี Ginger Binge

มาถึงงานผิวโกลว์กันแล้ว ริอานน่าทำออกมาได้ดีจริงๆ กับไฮไลต์ที่เนื้อเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย ชิมเมอร์ละเอียดยิบ เล่นแสงดีเวอร์ รุ่นนี้จะมีความวาวอยู่ 2 ระดับ หลุมแรกจะเป็นความวาวที่ปกติเหมาะสำหรับปัดแก้มแทนบลัชออนในลุคกลางวันสวยๆ ส่วนหลุ่มที่สองจะเป็นเฉดสีเดียวกับหลุมแรกแต่มีความวาวเพิ่มมากขึ้นคูณสองไว้ปัดออนท็อปเป็นไฮไลต์นั่นเองค่ะ

ผลิตภัณฑ์Killawat Freestyle Highlighter Duo
จุดเด่น● มีความวาวสองระดับ
● ชิมเมอร์ละเอียด
● เกลี่ยง่าย
● สามารถปัดสองสีผสมกันได้
ราคา/ปริมาณ1,810 บาท/ 3.5 กรัม
พิกัดSephora

รีวิวไปเลื่อย: ฉ่ำมากกกกกปัดแล้วผิวฉ่ำโกลว์ขั้นสุด ชอบตรงที่มี2ช่องในอันเดียว เลือกได้ว่า อยากฉ่ำมาก หรือฉ่ำน้อย

Facebook

8. Fenty Beauty Diamond Bomb All-Over Diamond Veil

ไต่ความวาวขึ้นไปอีกระดับกับไฮไลต์อีกหนึ่งรุน รุ่นนี้มาในตลับสีเงินสะท้อนแสง Diamond Bomb All-Over Diamond Veil เป็นไฮไลต์ที่เนื้อละเอียดมากๆ เมื่อทาไปแล้วจะไม่มีพิกเมนต์สีที่แน่นเหมือนกับรุ่น Killawat แต่จะทิ้งชิมเมอร์ที่มีความระยิบระยับไว้บนผิว เหมือนกับกากเพชรเล็กๆ รุ่นนี้นอกจากปัดหน้าได้แล้วเค้าเคลมว่าใช้ปัดตัวได้ด้วยนะ

ผลิตภัณฑ์Diamond Bomb All-Over Diamond Veil
จุดเด่น● ชิมเมอร์เนื้อละเอียด
● พิกเมนต์สีกลางๆ
● เล่นแสงดี
● เกลี่ยง่าย
ราคา/ปริมาณ1,870 บาท/ 8 กรัม
พิกัดSephora

Onicha makeup: กลิตเตอร์ตาแตกมากกกกกกก⁣ มันวาวแบบเห็นเป็นเกล็ดๆ นะคะ

Facebook

9. Fenty Beauty Gloss Bomb Universal Lip Luminizer – สี Fenty Glow

Gloss Bomb Universal Lip Luminizer สี Fenty Glow ตัวนี้สวยครอบจักรวาลสมชื่อ เพราะแบรนด์เคลมว่าเป็นลิปกลอสที่เกิดมาเพื่อทุกคนทั้งผู้ชายและผู้หญิงและทุกเฉดสีผิวจนถึงทุกวันนี้พี่อะเครุยังไม่เห็นว่าใครทาลิปตัวนี้แล้วไม่รอดเลยค่ะ เนื้อกลอสมีชิมเมอร์ทาแล้วให้ความระยิบระยับกำลังพอดี สีอมส้มอมชมพูนิดๆ ทาแล้วไม่มีพิกเมนต์สีที่แน่นชัดมาก เนื้อกลอสไม่หนักมาก ไม่หนึบ ทาแล้วเบาสบาย แถมยังช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่มและให้ความชุ่มชื้นยาวนานอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์Gloss Bomb Universal Lip Luminizer สี Fenty Glow
จุดเด่น● กลอสเนื้อชิมเมอร์ละเอียด
● พิกเมนต์ปานกลาง
● เนื้อวาวแต่ไม่หนักปาก
● สีนู้ดอมส้ม
ราคา/ปริมาณ1,060 บาท/ 9 มล.
พิกัดSephora

Eye Style รีวิว: ทาไปแล้วดูนัวๆ ดูธรรมชาติ ถ้าแต่งหน้าไม่จัด ทาเดี่ยวๆ ได้อยู่นะคะ

Facebook

10. Fenty Beauty Gloss Bomb Universal Lip Luminizer – สี FUSSY

หลังจากที่ Gloss Bomb สี Fenty Glow ขายดิบขายดีจน Sold out ไปทั่วโลกแล้ว ทางแบรนด์ก็ได้ผลิตสีใหม่ขึ้นมานั่นคือสี Gloss Bomb Universal Lip Luminizer สี Fussy นั่นเอง ความดีงามของเนื้อลิปคงไม่พูดถึง เบาสบายปากเช่นเคย แต่สีนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมากทั่วโลกเลยค่ะ เพราะเป็นสีชมพูระเรื่อกำลังสวย ดูด้านนอกแล้วอาจจะซีดไปนิดแต่ถ้าได้ลองทาบนริมฝีปากแล้วบอกเลยค่ะว่าได้ลุคสุขภาพดี ทาเดี่ยวๆ ในวันที่ไม่แต่งหน้าก็รอด

ผลิตภัณฑ์Gloss Bomb Universal Lip Luminizer สี Fussy
จุดเด่น● กลอสเนื้อชิมเมอร์ละเอียด
● พิกเมนต์ปานกลาง
● เนื้อวาวแต่ไม่หนักปาก
● สีชมพูนู้ดระเรื่อ
ราคา/ปริมาณ1,060 บาท/ 9 มล.
พิกัดSephora

Eye Style รีวิว: หน้าสด ทาเดี่ยวๆ ได้เลยค่ะ ตัวนี้มีกลิตเตอร์ละเอียดช่วยกระจายแสง เนื้อฉ่ำวาวกำลังดี

See Also

Facebook

11. Fenty Beauty Gloss Bomb Cream Lip Gloss – สี Fenty Glow

ต้องบอกว่าแบรนด์นี้เด่นเรื่องลิปกลอสจริงๆ หลังจากที่ Gloss Bomb รุ่นมีชิมเมอร์ขายดีทุกสี แฟนๆ ก็เรียกร้องให้คุณแม่ค้าเค้าทำแบบไม่มีชิมเมอร์ออกมาบ้าง Gloss Bomb Cream Lip Gloss สี Fenty Glow ตัวนี้บอกเลยว่าถูกจริตสาวสายฝ. สุดๆ ทาแล้วกลบสีปากมิดสนิท รวมถึงมีการแอบเพิ่มพิกเมนต์สีให้เข้มขึ้นกว่ารุ่นชิมเมอร์อีกด้วยนะ กลอสของแม่ริริ ทาแล้วไม่มีป่วยแน่นอน

ผลิตภัณฑ์Gloss Bomb Cream Lip Gloss สี Fenty Glow
จุดเด่น● เนื้อครีมไม่มีชิมเมอร์
● พิกเมนต์แน่น
● กลบสีปากมิด
● สีนู้ดอมส้มอมน้ำตาล
ราคา/ปริมาณ1,060 บาท/ 9 มล.
พิกัดSephora

หนีแม่มารีวิว: ลิปกลอส Fenty Beauty รุ่นนี้คืออย่างสวยทาเดี่ยวๆ หรือ ผสมกันนิดๆ คือ ฉ่ำไม่ไหววว

Facebook

12. Fenty Beauty Pro Filt’r Instant Retouch Primer

ถึงแม้ไพร์เมอร์แบรนด์ Fenty จะไม่ได้ออกมาเป็นโปรดักส์รุ่นเปิดตัว แต่ก็มาเรียกกระแสได้ดีในช่วงหลังที่ปล่อยออกมาเลยค่ะ Profilt’r Instant Retouch Primer เป็นไพร์เมอร์ Best Seller ของแบรนด์ มีเนื้อเจลไม่ใช่เนื้อซิลิโคน บางเบา ไม่หนักหน้า ช่วยให้งานผิวของเราเรียบเนียน ไร้รูขุมขน ดุจกับรีทัชรูป หมดปัญหาหน้าแห้งเกินหรือแต่งหน้าไม่ติด ตัวนี้ถึงจะมีสีครีมอมชมพูแต่พอทาไปแล้วก็ไม่มีสีด้วยนะ

ผลิตภัณฑ์Pro Filt’r Instant Retouch Primer
จุดเด่น● เนื้อเจลบางเบา
● ไม่มีสี
● เบลอรูขุมขนกริบ
● ช่วยให้เมคอัพติดทน
ราคา/ปริมาณ1,500 บาท/ 32 มล.
พิกัดFenty Beauty

โอชิกิแอนด์เฟรนด์: แม่ไม่ได้มาเล่นๆ เครื่องสำอางค์ติดทนจริง กลิ่นหอม เนื้อดี ไม่ได้แมทแห้งมาก

Facebook

13. Fenty Beauty Pro Filt’r Instant Retouch Setting Powder

รองพื้นไปแล้ว ไพร์เมอร์ไปแล้ว ถึงคิวของแป้งฝุ่นบ้างค่ะ ตัวนี้เป็นโปรดักส์ใหม่ที่ออกมาได้ไม่นาน แป้งฝุ่นตลับใหญ่กว่าฝ่ามือมาพร้อมแพ็กเกจจิ้งรูปเพชรฝาสีเงินที่เวอร์สุดๆ เนื้อบางเบาเหมาะสำหรับเซตเมคอัพหลังจากที่แต่งเสร็จเรียบร้อย มี 8 เฉดสีให้เลือกแต่ว่าไม่ได้มีสีแน่นเหมือนกับแป้งผสมรองพื้นนะคะ สีของเค้าจะบางเบามากๆ ไม่เปลี่ยนสีรองพื้นสาวๆ เลยล่ะ พร้อมได้ลุคผิวแมตต์ขั้นสุด คุมมันเริ่ด สาดแฟลชแค่ไหนหน้าก็ไม่เยิ้ม

ผลิตภัณฑ์Pro Filt’r Instant Retouch Setting Powder
จุดเด่น● แป้งฝุ่นเนื้อบางเบา
● มี 8 เฉดสี
● ไม่เปลี่ยนสีรองพื้น
● ได้ลุคผิวแมตต์
ราคา/ปริมาณ1,690 บาท/ 28 กรัม
พิกัดSephora

Aunyarat Sukantapruek: หน้าดูเป็นผิวไม่ matt เกิน ฟีลนวล ๆ พรางรูดี เนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ

Facebook

14. Fenty Beauty Bright Fix Undereye Brightener

เอาใจสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าแต่ไม่ชอบแต่งเยอะ Beauty Bright Fix Undereye Brightener ที่ไม่ใช่คอนซีลเลอร์แต่เป็นตัวช่วยให้ใต้ตาดูกระจ่างขึ้น เนื้อสัมผัสบางเบามากๆ เกลี่ยง่าย เนื้อชุ่มชื้น ไม่ตกร่อง ไม่แห้งผาด เมื่อทาลงใต้ตาแล้วจะเห็นได้เลยว่าผิวดูกระจ่างขึ้น สดใสขึ้น แต่อาจจะกลบแพนด้าได้ไม่มิดเพราะน้องแค่ทำให้ใต้ตาเราดูไบรท์ขึ้นเฉยๆ ใครชอบลุคที่ธรรมชาติก็ต้องจัด

ผลิตภัณฑ์Bright Fix Undereye Brightener
จุดเด่น● ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น
● เนื้อบางเบา
● ไม่แห้งผาด
● ไม่ตกร่อง
ราคา/ปริมาณ1,300 บาท/ 10 มล.
พิกัดSephora

Aunyarat Sukantapruek: หน้าดูเป็นผิวไม่ matt เกิน ฟีลนวล ๆ พรางรูดี เนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ

Facebook

15. Fenty Beauty Cheeks Out Freestyle Cream Blush – สี Petal Poppin

ปิดท้ายกันที่ปัดแก้มสวยๆ ไปกับ Cheeks Out Freestyle Cream Blush สี Petal Poppin บลัชออนเนื้อครีมที่ปัดแล้วแก้มฉ่ำได้ลุคผิวโกลว์กำลังพอดี เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่มีความฝืดหรือความเป็นแป้ง เหมาะกับการใช้นิ้วมือเกลี่ยสบายๆ ได้เลย ตัวนี้ปราศจากน้ำหอมและพาราเบนใครผิวแพ้ง่ายหมดห่วงเลยจ้า

ผลิตภัณฑ์Beauty Cheeks Out Freestyle Cream Blush
จุดเด่น● เนื้อครีมเกลี่ยง่าย
● ไม่แห้งฝืด
● ไม่มีความเป็นแป้ง
● ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
ราคา/ปริมาณ1,150 บาท/ 3 กรัม
พิกัดSephora

Onicha makeup: ตัวบลัชให้สีชัดเจนนะคะ เบลนด์ง่ายมาก⁣⁣บิวท์สีให้เบา หรือเข้มได้ตามที่ต้องการ⁣⁣สัมผัสหลังทาคือไม่เหนียวหน้าใดๆ ⁣⁣ฟินิชดูเล่นแสงนิดหน่อย ให้พอดูสุขภาพดี⁣⁣

Facebook

หน้าสวยพุ่งด้วย 5 ตัวเด็ดจาก Fenty Beauty

วันนี้พี่อะเครุก็มาแนะนำทริคหน้าสวยด้วยโปรดักส์จากทางแบรนด์อีกเช่นเคยค่ะ แม่ริริเค้าออกโปรดักส์มาเยอะตามเก็บทีเดียวให้หมดก็อาจจะไม่ไหว เพราะฉะนั้นเรามาเน้นกันที่ 5 ตัวเด็ดที่จะช่วยให้ความสวยพุ่งกันดีกว่า

  • ลง Profilt’r Instant Retouch Primer เพื่อเซตให้ผิวหน้าเนียนไร้รูขุมขนประดุจดั่งฟิลเตอร์ในไอจี
  • ตามด้วย Eaze Drop Blurring Skin Tint ให้ได้ลุคผิวสวยใสไร้ที่ติแบบธรรมชาติเหมือนกับเราไม่ได้แต่งหน้า
  • บรอนซ์ผิวหน้าให้ดูมีเงาด้วย Cheek Outs Freestyle Cream Bronzer ขั้นตอนนี้ลงที่โหนกแก้ม ขอบหน้าผาก สันจมูก และอย่าลืมเบลนให้เนียนเข้าไปจนถึงไรผมด้วยนะจ๊ะ
  • เติมความแวววาวด้วย Killawat freestyle Highlighter Duo สี Ginger Binge ที่บริเวณโหนกแก้ม เปลืกตา หัวตา และปลายจมูก
  • ปิดท้ายลุคให้ปั๊วะด้วย Gloss Bomb Universal แบบชิมเมอร์สี Fussy แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ

เรียกได้ว่าเป็นการรีวิวที่จัดเต็มและอัดแน่นทั้งประวัติการทำแบรนด์และโปรดักส์ทุกตัวจริงๆ พี่อะเครุเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไปไม่น้อยกว่าสินค้าคือเรื่องราวของแต่ละแบรนด์ที่พยายามจะสื่อสารต่อผู้บริโภคค่ะ ครั้งหน้าจะนำเรื่องราวของแบรนด์และการรีวิวอะไรมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยน้าาา

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top