เรามักจะเห็นว่าห้องนอนของคนส่วนใหญ่นั้นถูกตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก เพราะให้ความรู้สึกสบายตา คลาสสิก แต่ยังมีอีกหนึ่งสีที่เหมาะกับห้องนอนไม่แพ้กันก็คือ สีฟ้าพาสเทล เพราะนอกจะทำให้สบายตาแล้ว ยังสามารถจับคู่กับสีต่างๆ ได้หลากหลาย แถมยังให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย ว่าแต่จะมีคู่สีไหนน่าสนใจบ้างและมีเทคนิคจับคู่สีแต่งห้องนอนสีฟ้าพาสเทล ให้น่านอนอย่างไรตามไปดูกัน
ทำไมจึงควรแต่งห้องนอนสีฟ้าพาสเทล
สีฟ้า ถือเป็นสีโทนเย็น สัญลักษณ์ของท้องฟ้า ทะเล และธรรมชาติ ถ้าถามหาความสบายใจคลายกังวลคนส่วนใหญ่จึงชอบมองไปที่สีฟ้า ดังนั้นการเลือกสีฟ้าโทนอ่อนอย่างสีฟ้าพาสเทลเข้ามาใช้แต่งห้องนอนจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้หลับสบายแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ง่วงง่ายขึ้น ที่สำคัญ ‘สีฟ้าพาสเทล’ ยังสามารถเข้าได้กับสีที่หลากหลาย แต่งห้องง่ายไม่แพ้สีขาวเลย แถมยังมีเฉดสีสวย ดูไม่น่าเบื่ออีกด้วย
10 เทคนิคจับคู่สีฟ้าพาสเทลสำหรับห้องนอน
1. เลือกสีฟ้าพาสเทลกับคู่สีหวานๆ อย่างสีชมพู
คู่สีแรกที่อยากแนะนำเลยก็คือ สีฟ้ากับสีชมพู เรียกว่าเป็นสีที่เข้ากันได้ดีมากเพราะด้วยความที่สีฟ้า มีกลิ่นไอของความสงบ นิ่ง ที่เหมาะกับห้องนอนแล้ว หากเติมความหวานกรุบของสีชมพูเข้าไปก็ยิ่งทำให้ห้องดูหวาน น่ารัก และน่านอนเข้าไปอีก สามารถเลือกแต่งด้วยการใช้สีฟ้าเป็นสีพื้นห้องและตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีชมพู หรือจะแบ่งโซนห้องเป็นสีฟ้ากับสีชมพูอย่างละครึ่งเป็นแบบทูโทนก็ดูดีไม่แพ้กัน
2. ห้องนอนสีฟ้าพาสเทลกับสีขาวคลาสสิก
ใครที่ชอบโทนสีคลาสสิกไม่ต้องเลือกสีอะไรมาก แนะนำเป็นห้องนอนสีฟ้าพาสเทลตัดกับเฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงหรือขอบพนัง ตู้ เป็นสีขาวตัดกันก็ได้เช่นกัน หรือหากใครที่คิดว่าห้องมันเรียบเกินไป อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยการเลือกผ้าปูที่นอนโทนสีฟ้าพาสเทลที่มีเฉดสีโทนอ่อน หรือไล่โทนเข้มขึ้นไปกว่าสีภาพรวมของห้องสักหนึ่งระดับก็ได้
3. เลือกสีโทนที่ใกล้เคียงกันอย่างสีม่วง
เทคนิคนี้เป็นการจับคู่สีด้วยการใช้สีใกล้เคียงกัน ในกรณีที่เลือกใช้สีฟ้าพาสเทลเป็นสีหลักในการแต่งห้อง เฉดสีม่วงพาสเทล ที่เป็นสีกลางๆ ระหว่างสีโทนร้อนและเย็น ถือเป็นสีที่นำมาช่วยให้ห้องนอนเรียบๆ ดูมีมิติ แสดงให้เห็นถึงความลึกลับ หรือดูสดใส สบายตา หรือหากใครชอบความแฟนตาซี ก็สามารถเลือกใช้คู่สีนี้ได้เช่นกัน ส่วนจะใช้สีม่วงมาตัดมากหรือน้อยอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบได้เลย
4. เพิ่มความสดใสให้ห้องนอนด้วยจับคู่สีสดใสสบายตา
สีฟ้าพาสเทลแม้จะมีหลายเฉดสี หลายโทนแต่สิ่งที่เป็นพื้นฐานของสีนี้เลยก็คือความสบายตา ผ่อนคลาย เป็นสีที่ค่อนข้างกลางๆ และเข้ากับสีอื่นได้ง่ายมากไม่แพ้สีขาวเลย หากอยากเพิ่มความสดใสเข้าไปให้ห้อง แนะนำเป็นสีโทนร้อนที่มีความสดใสอย่างโทนสีเหลืองไปเลยจ้า ถ้าไม่อยากแต่งสีเหลืองเยอะเกินจนกลบสีห้อง แนะนำให้ใช้ของตกแต่งสีเหลืองตัดเล็กน้อยอย่าง โคมไฟ ชั้นวางของ หรือหมอนต่างๆ แทนก็ช่วยได้เยอะ
5. จับคู่กับสีโทนหม่นอย่างสีเทา
เบื่อแล้วความสดใส อยากได้ความเรียบหรู สงบๆ เข้ามาแล้วได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนในวันฝนตก ให้จับคู่กับสีเทาไปเลยจ้า สีฟ้าพาสเทลโทนเข้มๆ ออกไปทางสีน้ำเงินนิดๆ เมื่อรวมเข้ากับสีเทาจะทำให้ห้องดูคุมโทนกันขึ้นไปอีก สามารถเลือกแต่งได้โดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีน้ำเงินหรือผ้าห่มสีเทา ผ้าม่านสีเทาฟ้าก็เริ่ด อยู่น้า
6. จับคู่กับสีโทนสีพาสเทลที่ใกล้เคียงกันอย่างสีเขียว
ยังอยู่กับห้องนอนที่เข้ามาแล้วรู้สึกผ่อนคลายน่านอน ขอเสนอเป็นคู่สีโทนเย็นที่ใกล้เคียงกับสีฟ้าพาสเทลอย่างสีเขียวพาสเทล ยิ่งถ้าจับคู่กับสีฟ้าพาสเทลแนวสีท้องฟ้าหรือฟ้าอมเขียวจะยิ่งทำให้ห้องดูซอฟต์ สบายตา เหมือนอยู่ใกล้ธรรมชาติ เรียกว่าเข้าไปในห้องสักพักเปิดเพลงฟังเบาๆ ต้องหลับแน่นอน
7. จับคู่กับสีน้ำตาลอย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้
คิดคู่สีไม่ออกให้คิดถึงสีไม้ธรรมชาติอย่างสีน้ำตาลไปเลยจ้า สีนี้นอกจากจะแต่งง่ายแล้ว ยังเลือกเฟอร์นิเจอร์และแต่งห้องได้ง่ายอีกด้วย เพียงแค่ใช้การแต่งห้องด้วยสีฟ้าพาสเทลแบบโทนอ่อนเป็นหลัก เน้นว่าเป็นโทนฟ้าพาสเทลโทนสดใส จัดคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือพื้นไม้สวยๆ แค่นี้ก็เปลี่ยนโทนห้องนอนให้น่านอนขึ้นได้แล้ว
8. เพิ่มความสดใสให้ห้องด้วยสีโทนร้อนอย่างสีแดง
คู่สีโทนเย็นกับโทนร้อน ถือเป็นทฤษฎีที่ดีมากถ้าแต่งเป็น อย่างใครที่อยากให้ห้องนอนดูมีเสน่ห์ นอกจากได้นอนแล้วยังมีความปลุกเอนเนอร์จี้ โดยเฉพาะใครที่ทำงานที่บ้านบ่อยๆ หรือใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงานด้วยแนะนำให้ใช้สีปลุกพลังในตัวเราอย่างสีแดงไปเลยจ้า โดยการแต่งห้องแบบนี้จะเน้นให้แต่งพื้นห้องโดยรวมเป็นสีโทนเย็นอย่างฟ้าพาสเทล ตัดกับเฟอร์นิเจอหลักอย่างเตียงนอน หรือโต๊ะทำงานเล็กๆ เป็นสีแดงสัก 1-2 ชิ้น ไม่ควรใช้สีแดงเยอะเกินไปเพราะจะทำให้ห้องดูน่าอึดอัดไม่สบายตาได้
9. เพิ่มมิติให้ห้องนอนด้วยการจับคู่กับเฉดสีน้ำเงิน
นึกอะไรไม่ออกแต่อยากให้ห้องดูมีลูกเล่นเพิ่ม ก็ใช้สีเดียวกันแต่เพิ่มระดับความเข้มลงไปอย่างสีน้ำเงิน จะใช้แค่กับหัวเตียงนอน ผ้าห่ม หรือใช้แต่งห้องแบบผนังสองสีแบบทูโทนไปเลยก็ได้เหมือนกันนะ แต่ใครที่เลือกใช้สีโทนนี้แนะนำอีกทีว่าอย่าใช้สีเข้มเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ห้องดูมืด ทึบ และน่าอึดอัดได้
10. เพิ่มความอบอุ่นให้ด้วยไฟและเฟอร์นิเจอร์สีส้มพาสเทล
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งคู่สีอย่างฟ้าพาสเทลและสีส้มพาสเทล หรือแสงส้มสลัวๆ ของโคมไฟก็เข้ากันได้ดีมาก แถมการแต่งห้องแบบนี้ยังสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย อย่างโคมไฟแสงส้ม ผ้าม่านสีส้มครีมนัวๆ หรือโต๊ะทำงานแบบสีไม้อ่อนๆ ที่มีเฉดสีไปทางสีส้มเล็กๆ ก็ได้เหมือนกัน บอกเลยว่าสีโทนนี้ทำให้สบายตาและน่านอนไม่แพ้สีโทนเย็นอื่นๆ เลย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 10 เทคนิคจับคู่สีฟ้าพาสเทลสำหรับแต่งห้องนอน ให้ออกมาน่านอนที่นำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่าแม้จะเป็นสีฟ้าพาสเทลที่บางคนอาจนึกไม่ออกว่าจะนำมาแต่งให้ดูเข้ากับสีอื่นได้ยังไง แต่บอกได้เลยว่าสามารถแต่งออกมาได้หลายสไตล์สุดๆ ใครที่ชอบไอเดียแบบนี้ก็อย่าลืมนำไอเดียจับคู่สีห้องนอนนี้ไปลองแต่งกันดูนะคะ รับรองว่าออกมาสวยถูกใจแน่นอน
นักเขียนอิสระที่ชอบอัปเดตเรื่องความงาม แฟชั่น อยู่เสมอ หลงรักเสียงดนตรี ชอบความสดใส โปรดปรานของน่ารัก เครื่องสำอาง, สกินแคร์ และอาหารมากเป็นพิเศษ