“ในหนึ่งวันสาวๆ ทาสกินแคร์กันกี่ตัว?” วันนี้พี่อะเครุขอเริ่มด้วยคำถามง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถตอบได้โดยไม่ต้องคิด เชื่อว่าสกินแคร์ในหิ้งของทุกคนต้องมีมากกว่าสองตัวแน่ๆ และก่อนเริ่มวันจนถึงก่อนนอนทุกคนต้องทาครีมบำรุงมากกว่าสองตัวแน่ๆ ในเมื่อมีสกินแคร์เยอะ เรามาดูสูตรมิกซ์สกินแคร์กันดีกว่าว่า สกินแคร์อะไรผสมกันได้บ้าง จะได้มีผิวสวย x2 พร้อมเซฟเวลา เตรียมจดสูตรกันได้เลยจ้า!
ผสมสกินแคร์แล้วดียังไง?
กว่าเราจะได้นอนและกว่าจะเริ่มออกจากบ้านได้ ต้องใช้เวลาปรนนิบัติผิวอย่างพิถีพิถัน กว่าสกินแคร์แต่ละตัวจะค่อยๆ ซึมลง ไหนจะครีมกันแดด และเมคอัพอีก บางครั้งก็ทำให้ชีวิตของเราเลทขึ้นเป็นเท่าตัว แต่สิ่งที่สาวๆ ไม่รู้คือสกินแคร์บางชนิดสามารถผสมกันได้ เรามาดูข้อดีของการผสมสกินแคร์ก่อนเลยว่าผสมแล้วดีต่อผิวเรายังไง
- ช่วยประหยัดเวลา แน่นอนว่าทาทีเดียวย่อมเซฟเวลาได้กว่าการทาหลายตัว เนื่องจากการทาสกินแคร์ในแต่ละครั้ง เราต้องใช้เวลาเกือบ 3 นาที เพื่อให้สกินแคร์ซึมทราบลงผิวจนหมด ดังนั้นการเลือกสกินแคร์ที่สามารถผสมกันได้มารวมกันและทาทีเดียวจึงช่วยประหยัดเวลายิ่งขึ้นและเห็นผลเช่นเดียวกัน
- ช่วยเติมเต็มสรรพคุณที่ขาด ครีมบำรุงหรือเซรั่มแต่ละแบรนด์ไม่สามารถที่จะใส่ส่วนผสมหรือสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) มาได้ในขวดเดียว การมิกซ์แอนด์แมตช์ส่วนผสมต่างๆ จึงเหมือนเป็นการเติมเต็มสารที่ขาดของสกินแคร์แต่ละตัวเพื่อให้เราได้บำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น
- ผิวแข็งแรงขึ้น ปัญหาผิวมักไม่ได้มาทีละอย่าง ในบางครั้งก็ถาโถมมาพร้อมกันทีเดียว การเลือกใช้สกินแคร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวแต่ละด้านในทีเดียวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ปัญหาผิวของเราถูกจัดการอย่างตรงจุด อย่างที่พี่อะเครุบอกว่าไม่มีแบรนด์ไหนใส่สารทีช่วยจบทุกปัญหาผิวมาในขวดเดียวอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็หันมาเลือกสกินแคร์และมิกซ์กันตามปัญหาผิวได้เลย
แต่อาจจะต้องระวังและเช็กส่วนผสมกันให้ดีก่อน เพราะว่าบางสารในสกินแคร์ก็ไม่สามารถนำมาผสมกับสารอื่นได้นะ ต้องใช้เดี่ยวๆ เท่านั้น เมื่อนำมาผสมกันและอาจทำให้ผิวระคายเคือง เกิดผื่นแดง หรือคันได้
สูตรมิกซ์ส่วนผสมสกินแคร์ พร้อมผิวสวยแข็งแรง x2
อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว คงอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าสกินแคร์ตัวไหนผสมกันแล้วจะตอบโจทย์ปัญหาได้ครบ แถมยังได้ผิวสวยแข็งแรง x2 งานนี้พี่อะเครุรวมสูตรมาให้สำหรับทั้งผิวมัน ผิวแห้ง ผิวเป็นสิว และริ้วรอย มาค่ะ มาจดสูตรไปมิกซ์ตามกันได้เลย
1. สูตรบูสผิวขาวใส
สำหรับสูตรแรกนี้เราจะใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมวิตามินซีบริสุทธิ์อย่าง Ascorbic Acid หรือจะเป็นอนุพันธุ์วิตามินซีก็ได้จากนั้นนำมารวมกันกับเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ได้เลย สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง หมองคล้ำ ผิวไวต่อแดด เสี่ยงต่อการเป็นฝ้าหรือกระ ใช้อะไรก็หน้าไม่ไบรท์ เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยทำให้ผิวดูใสขึ้นและต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี กันผิวแก่ก่อนวัย ส่วน Niacinamide ช่วยลดความมันและการผลิตน้ำมันบนใบหน้า รวมทั้งรูขุมขนก็ดูเล็กลง รับรองว่าผิวหน้าสว่างขึ้นแน่นอน
ปริมาณส่วนผสม
- วิตามินซี 1 ดรอป หรือ 1 ปั๊ม
- Niacinamide 1 ดรอป หรือ 1 ปั๊ม
2. สูตรผิวเรียบเนียน ไม่แห้งกร้าน
ใครที่มีปัญหาผิวอุดตัน ไม่เรียบเนียน มีสิวเสี้ยนตรงจมูก ยิ่งลอกบ่อยยิ่งขึ้นไว บอกเลยว่าสูตรนี้ต้องช่วยกู้ผิวสวยได้แน่นอนด้วย AHA/BHA และ Hyaluronic Acid อย่างที่เรารู้กันว่า AHA และ BHA นั้นมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อใช้เดี่ยวๆ แล้วอาจจะแรงเกินไปสำหรับคนที่มีผิวบอบบางหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ เพื่อเป็นการลดความรุนแรงและผลัดเซลล์ผิวอย่างแฮปปี้เราสามารถใส่ Hyaluron ลงไปได้นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้ผิวชุ่มชื้นหลังจากที่เซลล์ผิวเก่าถูกกำจัดไปด้วยนะ รับรองว่าสิวอุดตัน สิวเสี้ยนหายเกลี้ยง เผยผิวใหม่อิ่มน้ำสุขภาพดีสวยๆ ได้เลย
ปริมาณส่วนผสม
- AHA/BHA ครึ่งดร็อป หรือ ครึ่งปั๊ม
- Hyaluronic Acid 1 ดรอป หรือ 1 ปั๊ม
3. สูตรลดการอักเสบ คาล์มผิวยืนหนึ่ง
เอาใจชาวผิวเป็นสิวเห่อแดงและมีอาการอักเสบ ส่วนผสมที่เราจะมามิกซ์กันคือ Benzoyl peroxide ที่เป็นสารช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในสิวของเราโดยเร็วและตรงจุด นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฝ้าหรือผื่นบนผิวหน้าเราได้อีก เมื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วก็ต้องปลอบประโลมผิวด้วย Centella asiatica สารสกัดที่มาจากใบบัวบกช่วยลดอาการเห่อแดงหรือผิวอักเสบให้สิวของเราแห้งและยุบไวยิ่งขึ้น รวมทั้งไม่ทิ้งรอยแดงคาใจ หน้าใสสุขภาพดีเต็มสิบ!
ปริมาณส่วนผสม
- Benzoyl peroxide เท่าเมล็ดถั่วเขียว (เริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำก่อน)
- Centella asiatica เท่าเหรียญบาท
4. สูตรลดริ้วรอย กู้ผิวแก่ก่อนวัย
พูดถึงส่วนผสมที่ช่วยลดริ้วรอย คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก เรตินอล (Retinol) แต่อย่างรู้กันว่าน้องมีความแรงและทำให้ผิวพวกเราเกิดอาการแสบแดงและเป็นตุ่มอยู่บ่อยครั้ง พี่อะเครุจึงแนะนำให้ใช้เรตินอลควบคู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์เสริมชั้นผิวอย่าง Ceramide ที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้เรตินอลไม่ซึมเข้าผิวไวและลดความรุนแรงได้ดี รวมทั้งทั้งให้เกราะป้องกันผิวของเราแข็งแรง เจออะไรก็ไม่แพ้ง่ายอีกด้วย
ปริมาณส่วนผสม
- Retinol ครึ่งเมล็ดถั่วเขียว (เริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำก่อน)
- Ceramide หนึ่งข้อนิ้วมือ
คำเตือน: ไม่ควรผสมเรตินอลกับสารที่เป็นกรดหรือสารที่ผลัดเซลล์ผิวอย่างวิตามินซีหรือ AHA/BHA หรือ PHA
เห็นไหมคะว่าส่วนผสมในสกินแคร์แต่ละอย่างที่เราทาทุกวันสามารถนำมาผสมกันได้จริงๆ เพื่อเซฟเวลาและแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด แต่อย่าลืมเช็กส่วนผสมกันดีๆ อีกสักรอบเพื่อให้ผิวเราไม่แพ้และระคายเคืองนะคะ
Tripple B because it's unique. Enjoy watching sunset, dive into the world of art and let my soul sink into music.