Now Reading
รวม 10 เมนูขนมหวานสุดดังจาก Youtuber เกาหลี ทำตามง่ายไม่มีตกเทรนด์

รวม 10 เมนูขนมหวานสุดดังจาก Youtuber เกาหลี ทำตามง่ายไม่มีตกเทรนด์

สวัสดีค่ะ สาวๆ ทุกคนเชื่อว่าช่วงนี้หลายๆ คนก็คงจะมีอาการเบื่อกันบ้าง เพราะต้องอยู่แต่ในบ้าน จะออกไปไหนมาไหนกันลำบากมากๆ เลยใช่ไหมคะ วันนี้พี่อะเครุก็เลยจะมาชวนสาวๆ ลุกขึ้นมาเข้าครัวทำขนมหวานกันค่ะ กับรวม 10 เมนูขนมหวานจากยูทูบเบอร์เกาหลี ถ้าพร้อมแล้าเราไปดูกันเลย

รวม 10 เมนูขนมหวานจากยูทูบเบอร์เกาหลี

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีทำขนมหวานกัน ต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูที่เราคัดมาในวันนี้นั้นสามารถทำตามได้ง่ายมากๆ ซึ่งสาวๆ ก็ลองไปหัดทำตามกันได้จะทำทานเองก็ได้ จะทำขายก็เก๋ไม่เบาเลยล่ะค่ะ

1. ดัลโกน่าทีรามิสุ (Dalgona Tiramisu)

เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อเกาหลีเลยนะคะ เพราะเค้าดัดแปลงมาจากเมนูกาแฟสุดฮิตอย่าง ดัลโกน่า ที่เป็นกระแสอย่างมากมาย จนเหล่าชาวยูทูบเบอร์ต่างพากันออกมาทำคลิปการทำดัลโกน่ากันอย่างมากมายเลยทีเดียว

ส่วนประกอบ:

ส่วนแป้ง

  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • น้ำตาล 135 กรัม
  • ผงกาแฟ 5 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 7 กรัม
  • ไข่ขาว 2 ฟอง
  • แป้งเค้ก 65 กรัม
  • เบกกิ้งโซดา 1 กรัม

ส่วนทัลโกน่าและครีม

  • น้ำตาล 100 กรัม
  • เบกกิ้งโซดา 1 กรัม
  • มาสคาโปนชีส 450 กรัม
  • น้ำตาล 70 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 7 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 400 กรัม

วิธีทำ:

วิธีทำแป้งทิรามิสุ

  1. นำไข่แดง, ผงกาแฟ กลิ่นวานิลลา ผสมแล้วตีให้เข้ากัน
  2. นำไข่ขาวและน้ำตาลมาตีให้ฟูจนเป็นครีมสีขาว
  3. ค่อยๆ ตักไข่ขาวไปผสมกับไข่แดงที่ตีไว้ให้เข้ากัน
  4. ใส่แป้งเค้กเบกกิ้งโซดาลงไป ค้นส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือจากนั้นตักใส่ถุงบีบ
  5. บีบส่วนแป้งเค้กลงในถาดอบ แล้วนำเข้าเตาอบด้วยความร้อน 180 องศานาน 11-12 นาที

วิธีทำทัลโกน่าและครีม

  1. ละลายน้ำตาล ด้วยไฟอ่อนให้เป็นเคี่ยวจนน้ำตาลละลายเป็นสีน้ำตาล
  2. แล้วเติมเบกกิ้งโซดา แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลขึ้นฟูแล้วเทลงถาดพักไว้ให้แห้งสนิท
  3. จากนั้นทุบน้ำตาลทัลโกน่าที่พักไว้ให้ละเอียด
  4. ทำส่วนผสมครีมด้วย มาสคาโปนชีส น้ำตาล มาผสมให้เข้ากัน
  5. เติมวิปปิ้งครีมลงไปแล้วตีให้เป็นเนื้อครีมเนียนสวย

วิธีประกอบขนม

  1. นำแป้งทิรามิสุที่อบเสร็จแล้วมาตักให้เป็นชิ้นขนาดพอดีกับถ้วยที่จะใช้เสิร์ฟแล้วใส่ส่วนแป้งลงไปในถ้วย
  2. ชงกาแฟมาทาส่วนแป้งให้ชุ่มแล้วใส่ส่วนครีมลงไป และโรยหน้าด้วยทัลโกน่าที่ทุบแล้ว
  3. ใส่แป้งทิรามิสุลงไปอีก 1 ชั้นตามด้วยครีมชีสและทัลโกน่าทุบอีกครั้งจนเต็มถ้วยเป็นอีกเสร็จ

2. นมสตรอว์เบอร์รีสด (Fresh Strawberry Milk)

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนเกาหลีนิยมทำทานกันอย่างมาก เพราะนอกจากจะอร่อย ทำง่ายแล้วยังมีคุณประโยชน์ที่มากมาย แถมคนเกาหลียังมองว่าการทานเมนูนี้ ถือเป็นการช่วยบริโภคนมสดและสตรอเบอร์รีจากเหล่าเกษตรกรอีกด้วย

ส่วนประกอบ:

  • สตรอว์เบอร์รีสด 14 ลูก
  • น้ำตาล 60 กรัม
  • นมสด 200 – 400 มิลลิลิตร

วิธีทำ:

  1. นำสตรอว์เบอร์รี 8 ลูกมาหั่นแล้วใช้ช้อนบี้ให้เละ
  2. เติมน้ำตาลลงในสตรอเบอร์รีที่บดแล้วและคนให้เข้ากัน
  3. นำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน 2 – 3 นาทีและพักไว้ให้เย็น
  4. หั่นสตรอว์เบอร์รีที่เหลือเป็นชิ้นเล็กๆ
  5. เทน้ำสตรอว์เบอร์รีที่พักไว้จนเย็นลงในภาชนะและตามด้วยสตรอว์เบอร์รีหั่นชิ้นเล็ก
  6. เทนมสดลงไปและเขย่าให้เข้ากัน

3. ออมเล็ตปัง (Omelet Bbang)

เป็นอีกเมนูที่หาทานกันที่เกาหลีได้ง่ายมากๆ เพราะถือเป็นขนมยอดฮิตที่ใครเห็นแล้วก็ต้องเป็นอันน้ำลายไหลกันอย่างแน่นอน

ส่วนประกอบ:

  • ไข่ 3 ฟอง
  • น้ำตาล 75 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • แป้งเค้ก 75 กรัม
  • วิปปิ้งครีมสำเร็จรูป
  • สตรอว์เบอร์รีสด

วิธีทำ:

  1. แยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน
  2. นำไข่ขาวไปตีกับน้ำตาลจนเกิดฟอง
  3. จากนั้นใส่ไข่แดงที่แยกไว้ลงไป ค่อยๆ คนให้เข้ากัน
  4. เติมกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีทุกอย่างให้เข้ากันอย่างเบามือ
  5. ใส่แป้งเค้กลงไป แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันจากนั้นตักใส่ถุงบีบ
  6. บีบแป้งที่เตรียมไว้ลงในถาดอบ แล้วนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 องศา นาน 10 นาที
  7. หลังจากที่แป้งสุกแล้วให้นำออกมาพักไว้สักพัก แล้วบีบวิปปิ้งครีมลงไป ตามด้วยผลสตรอว์เบอร์รีเป็นอันเสร็จ

4. แพนเค้กซูเฟล่ (Souffle Pancake)

ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ก็ฮิตมากๆ แม้กระทั่งในไทยบ้านเรา เพราะนอกจากจะมีความหวานอร่อย นุ่มลิ้นแล้ว ยังสามารถทำตามได้ง่ายๆ เพราะไม่ต้องใช้เตาอบอีกด้วยล่ะค่ะ

ส่วนประกอบ:

  • ไข่ 2 ฟอง
  • นม 1 ช้อนโต๊ะ
  • วานิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา
  • แป้ง 33 กรัม (หรือ 4 ช้อนโต๊ะ)
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาล 23 กรัม

วิธีทำ:

  1. แยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน
  2. นำไข่แดงไปตีผสมกับนมและวานิลลาให้เข้ากัน
  3. ใส่แป้งและผงฟูลงไปแล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  4. นำไข่ขาวมาตีผสมกับน้ำตาลจนฟูละเอียด
  5. จากนั้นค่อยๆ ตักส่วนผสมไข่ขาวมาใส่ส่วนผสมของไข่แดงเข้ากัน
  6. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ตักแป้งลงในกระทะแล้วเติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้ไอน้ำช่วยให้แป้งสุกแล้วปิดฝาทิ้งไว้ 1 นาที
  7. พลิกขนมอีกด้านแล้วปิดฝาทิ้งไว้อีก 1 นาที จากนั้นตักใส่ เสิร์ฟคู่กับผลไม้ตามใจชอบ

5. ชีสเค้กเชอร์รี (Cherry Cheesecake)

มาต่อกันเมนูนี้ที่ก็ต้องบอกเลยว่าสามารถทำตามได้ง่ายมากๆ เพราะแทบไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมายเลยทีเดียว

ส่วนประกอบ:

  • ครีมชีส 150 กรัม
  • น้ำตาล 30 กรัม
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 40 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 2 กรัม
  • น้ำเลมอน 3 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 60 กรัม
  • แยมเชอร์รี 60 กรัม
  • น้ำเปล่า 40 กรัม
  • เจลาติน 3 กรัม
  • ผลเชอร์รีสำหรับตกแต่ง 

วิธีทำ:

  1. ตีส่วนผสมครีมชีสกับน้ำตาลให้เข้ากัน
  2. จากนั้นใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กลิ่นวานิลลาและน้ำเลมอนลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
  3. ใส่เจลาตินและวิปครีมลงไปผสมจากนั้นตกใส่ถ้วยพิมพ์แล้วนำเข้าช่องฟรีซนาน 20 นาที
  4. ผสมแยมเชอร์รี น้ำเปล่า และเจลาตินให้เข้ากัน
  5. ตักใส่ถ้วยพิมพ์ที่แช่ฟรีซไว้ แล้วนำเข้าตู่เย็นอีก 2 ชั่วโมง
  6. นำออกมาตกแต่งหน้าด้วยเชอร์รีเป็นอันเสร็จ

6. ยักหวา (Yakgwa)

มาต่อกันอีกหนึ่งเมนูที่เป็นขนมพื้นเมืองของเกาหลีที่มักจะถูกใช้ในงานแต่งงาน เรียกว่าเป็นขนมที่นอกจากจะหน้าตาสวยงามแล้วยังมีรสชาติที่อร่อยจนเกินคำบรรยายเลยล่ะค่ะ

ส่วนประกอบ:

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 1/2 ถ้วย
  • ขิงผง 1 ช้อนชา
  • พริกไทยขาว 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อมธัญพืช 1 ถ้วย
  • น้ำ 1/4 ถ้วย
  • ผงชินนาม่อน 1/2 ช้อนชา
  • ขิง 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำแป้ง เกลือ กลิ่นวานิลลา ผสมเข้าด้วยกัน
  2. จากนั้นร่อนแป้งเพื่อแยกเศษออก
  3. นำน้ำเชื่อมธัญพืช น้ำตาล เหล้าจีน ขิงผง พริกไทยขาวมาผสมกันแล้วเทใส่ในตัวแป้ง และนวดให้แป้งเป็นก้อนได้ที่ แล้วห่อด้วยพลาสติกพักทิ้งไว้ 10 นาที
  4. จากนั้นทำน้ำเชื่อมขนมด้วย ขิง น้ำผึ้ง น้ำตาล ผงชินนาม่อน นำมาผสมกันแล้วนำไปเคี่ยวจนส่วนผสมมีความเหนียวขึ้น
  5. นำส่วนผสมแป้งมาปั้นเป็นก้อนทรงต่างๆ ตามใจชอบ
  6. นำแป้งไปทอดให้สุกและพักไว้ให้เย็น
  7. จากนั้นนำตัวแป้งที่ทอดแล้วมาชุบกับตัวน้ำเชื่อมแล้วทิ้งไว้ให้ขนมแห้งเป็นอันเสร็จ

7. เครปเค้กโรลเมล่อนชาเขียว (Melon Crepe Roll Cake)

เมนูนี้ก็ถือเป็นอีกเมนูที่ไม่ต้องใช้เตาอบ และก็เป็นเมนูที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ แถมยังอร่อยถูกปากใครหลายๆ อีกด้วย และที่สำคัญสาวๆ สามารถเปลี่ยนผลไม้ได้ตามใจชอบเลยล่ะค่ะ

ส่วนประกอบ:

ส่วนแป้ง

  • ไข่ 3 ฟอง
  • น้ำตาล 40 กรัม
  • เหลือ 1 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 3 กรัม
  • แป้ง 150 กรัม
  • ผงชาเขียว 3 กรัม
  • นม 375 กรัม
  • เนยจืด 50 กรัม

ส่วนไส้ขนม

  • วิปปิ้งครีม 175
  • เมล่อนสุก
  • ครีมชีส 30 กรัม
  • น้ำตาล 45 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 2 กรัม

วิธีทำ:

See Also

  1. ทำส่วนแป้งด้วยนำไข่ น้ำตาล เกลือและกลิ่นวานิลลามาตีให้เข้ากัน
  2. ใส่แป้ง ผงชาเขียว และนมลงไปแล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  3. นำส่วนผสมแป้งมากรองด้วยตะแกรงแล้วพักทิ้งไว้ 30 นาที
  4. จากนั้นนำไปทอดด้วยไฟอ่อนเป็นแผ่นบางๆ แล้วพักไว้
  5. ทำส่วนครีมด้วยการตีวิปปิ้งครีม น้ำตาล ครีมชีสและกลิ่นวานิลลาให้ขึ้นฟู
  6. นำแผ่นแป้งเครปที่ทอดไว้มาทาด้วยครีม ใส่ผลเมล่อนแล้วม้วนเป็นรูปโรลหลายชั้นๆ เป็นอันเสร็จ

8. โฮต็อก (Hotteok)

เมนูนี้ก็ต้องเป็นเมนูที่โด่งดังกันแบบสุดๆ ในเกาหลี ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดกับรสชาติหวานละมุน มาพร้อมกับแป้งกรอบๆ ทานตอนทอดเสร็จใหม่คือปังสุดๆ

ส่วนประกอบ:

ส่วนผสมส่วนแป้ง

  • แป้งข้าวสาลีอเนกประสงค์ 190 กรัม
  • แป้งข้าวเหนียว 65 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำอุ่น 1 ถ้วย
  • นม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ยีสต์ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมส่วนไส้ขนม

  • น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
  • ผงชินนาม่อน 1 ช้อนโต๊ะ
  • เม็ดถั่วต่างๆ ตามใจชอบ

วิธีทำ:

  1. ละลายน้ำตาลในน้ำอุ่น จากนั้นใส่นม ใส่น้ำมันและผงยีสต์แล้วคนให้เข้ากัน
  2. ผสมแป้งข้าวสาลีอเนกประสงค์ แป้งข้าวเหนียว และเกลือเข้าด้วยกัน
  3. ค่อยๆ เติมส่วนผสมน้ำลงในแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นคนทุกอย่างให้เข้ากัน
  4. ใช้ผ้าขาวบางคลุมตัวแป้งพักทิ้งไว้ 30 นาที
  5. ทำส่วนไส้ขนมด้วยน้ำตาล เม็ดถั่ว และผงชินนาม่อนแล้วพักไว้
  6. นำแป้งที่พักไว้มาหั่นแป้งเป็นชิ้นขนาดเท่ากำปั้น แล้วคลึงแป้งออกเป็นแผ่น
  7. ตักส่วนผสมไส้ใสลงไปแล้วปั้นเป็นก้อน
  8. จากนั้นนำไปทอด ระหว่างทอดให้ใช้ตะหลิวกดตัวแป้งให้เป็นแผ่นบาง
  9. ทองจนแป้งเป็นสีเหลืองทองถือเป็นอันเสร็จ

9. ขนมปังใส่ครีม (NO Oven Cream Bun)

ต่อกันที่อีกเมนูขนมปังแบบไม่ต้องใช้เตาอบ เป็นเมนูที่เมื่อลองทานแล้วแทบหยุดไม่ได้เลยทีเดียว บอกเลยว่าทำทานเองก็ดี ทำขายก็ปังนะคะ

ส่วนประกอบ:

ส่วนแป้ง

  • แป้งขนมปัง 300 กรัม
  • แป้งสาลี 80 กรัม
  • เกลือ 5 กรัม
  • น้ำตาล 60 กรัม
  • ผงยีสต์ 5 กรัม
  • เนย 40 กรัม
  • น้ำ 60 mL
  • นม 80 mL
  • วิปปิ้งครีม 20 mL
  • ไข่ 2 ฟอง

ส่วนไส้ขนม

  • นม 250 mL
  • เนย 15 กรัม
  • ไข่แดง 3 ฟอง
  • น้ำตาล 50 กรัม
  • แป้งสาลี 20 กรัม

วิธีทำ:

  1. ทำส่วนไส้ขนมตั้งหมออุ่นนม จากนั้นใส่เนยให้ละลายแล้วยกออก
  2. ผสมไข่แดง น้ำตาล นมเตรียมไว้และแป้งสาลีให้เข้ากันแล้วนำไปกรองเพื่อแยกกากออก
  3. จากนั้นนำไปต้มให้กลายเป็นเนื้อครีมแล้วพักไว้
  4. ทำส่วนแป้งด้วยการผสมแป้งขนมปัง แป้งสาลี เกลือ น้ำตาลและผงยีสต์เข้าด้วยกัน
  5. นำน้ำอุ่นมาผสมกับนมและวิปปิ้งครีม
  6. จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำอุ่นลงในส่วมผสมแป้งที่ทำไว้พร้อมกับไข่ไก่ 2 ฟอง แล้วนวดแป้งให้เป็นก้อน
  7. จากนั้นใส่เนยลงไปแล้วนวดแป้งให้เข้ากันอีกครั้ง
  8. นำก้อนแป้งใส่ถ้วยคลุมด้วยพลาสติกแล้วพักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
  9. นำแป้งออกมาแบ่งเป็นก้อน แล้วคลึงให้เป็นแผ่นจากนั้นใส่ไส้ครีมที่เตรียมไว้ลงไปแล้วปั่นเป็นก้อนอีกครั้ง
  10. จากนั้นพักแป้งทิ้งไว้อีก 40-50 นาที แล้วนำไปทอดในไฟอ่อนจนสุก

10. ต๊อกนมสด (Milk Rice Cake)

ปิดท้ายกันที่เมนูนี้ ที่ก็ต้องบอกเลยว่านึกถึงเกาหลีนอกจากจะกิมจิแล้วก็ต้องต๊อกนี่แหละค่ะ ซึ่งเมนูต๊อกนมสดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็ถือว่าเป็นเมนูที่ฮิตเป็นกระแสอย่างมากในเกาหลี

ส่วนประกอบ:

  • แป้งมันฝรั่ง (สามารถใช้แป้งชนิดอื่นได้) 40 กรัม
  • แป้งข้าวเหนียว 20 กรัม
  • น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ
  • นม 200 mL

วิธีทำ:

  1. นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากันลงในกระทะ
  2. จากนั้นเปิดเตาด้วยไฟอ่อนแล้วค่อยๆ เคี่ยวให้แป้งสุกเป็นก้อน
  3. นำลงจากเตาแล้วพักให้เย็น จากนั้นแบ่งตัวแป้งให้เป็นก้อนแล้วปั้นเป็นรูปทรงตามใจชอบ

จบไปแล้วกับทั้ง 10 เมนูที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูนั้นก็มีทั้งยากและง่ายผสมกัน เอาเป็นว่าถ้าสาวๆ ชอบเมนูไหนก็ลองไปทำกันดูได้นะคะ แล้วอย่าลืมแวะมาบอกกันด้วยว่าทำแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง

ที่มาภาพ: wattpad, mythreeseasons, weheartit
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top