การออกกำลังกายและควบคุมอาหารเป็นสิ่งสำคัญของการลดน้ำหนักพิชิตหุ่นสวย แต่บางคนดันประสบปัญหาที่ไม่ว่าจะควบคุมการกินอาหารหรือออกกำลังกายเท่าไหร่ น้ำหนักหรือรูปร่างก็ยังคงที่ไม่ลดลงเลย ซึ่งเป็นผลมาจากระบบเผาผลาญในร่างกายที่ไม่มีประสิทธิภาพ วันนี้เราจึงนำเมนูอาหารช่วยปรับสมดุล ทานแล้วช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ ปราบไขมัน ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาแชร์กัน เพื่อหุ่นสวยแบบสุขภาพดี ห่างไกลโรคอ้วน
1. ไข่ไก่
ไข่อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมและปรับปรุงระบบเผาผลาญ โดยเฉพาะไข่ต้มขาวปรุงสุกที่มีโปรตีนถึง 6.29 กรัม เมื่อเราทานไข่ขาวเข้าไปจะทำให้ร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการย่อยโปรตีน การทานโปรตีนจากไข่ที่มีโปรตีนสูงจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อเร่งการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายดึงพลังงานจากโปรตีนมาใช้มากขึ้น
2. เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) เป็นธัญพืชสุขภาพมีโปรตีน วิตามิน และสารอาหารสำคัญมากมายต่อร่างกาย เมื่อเรารับประทานเป็นประจำ เมล็ดแฟลกซ์จะช่วยเร่งการเผาผลาญและปรับปรุงการเผาผลาญ ลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยปรับปรุงการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพ ห่างไกลโรคอ้วน
3. ถั่วเลนทิล
ถั่วเลนทิล (Lentils) มีโปรตีนและไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เป็นแหล่งรวมของวิตามิน B และยังให้ธาตุเหล็กมากกว่าพืชตระกูลถั่วอื่นๆ ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น ฟอสฟอรัส แมงกานีส และโฟเลตในปริมาณสูงมาก ช่วยปรับปรุงระบบเมตาบอลึซึมในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถดึงพลังงานไปใช้ได้เต็มที่ เพิ่มการเผาผลาญที่ดี นอกจากนี้ยังมีเส้นใยจำนวนมากซึ่งดีต่อการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ของเรา
4. พริกและพริกไทย
พริกและพริกไทยเป็นเมนูท็อปที่ช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีสารแคปไซซินเป็นตัวเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักตัว โดยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันและลดความอยากอาหาร การทานพริกและพริกไทยจะทำให้สารแคปไซซินช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ถึง 50 แคลอรี่ต่อวันเลยทีเดียว
5. ขิง
การทานขิงในมื้ออาหารจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายและเร่งอัตราการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ฃึ่งขิงเป็นสมุนไพรตัวช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดีให้กับร่างกาย ใครอยากปรับปรุงระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น อย่าลืมนำขิงไปใส่ในมื้ออาหารกันบ้างนะ ช่วยปราบไขมันอยู่หมัดแน่นอน
6. ชาเขียว
จากการศึกษาพบว่า สารสกัดจากชาเขียวอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในระหว่างออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี โดยชาเขียว 1 ถ้วย ช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง 10% ในเวลา 1.30 ชั่วโมง และยังมีคุณสมบัติละลายไขมันที่สะสมในกระแสเลือด ไขมันส่วนหน้าท้องและต้นขา เมื่อดื่มเป็นประจำจะมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ดี สอดคล้องกับผลการศึกษาในปี 2556 ที่ให้ผู้เป็นเบาหวานจำนวน 63 คน ทดลองดื่มชาเขียว 4 ถ้วยเป็นประจำ พบว่าน้ำหนักและค่า BMI รอบเอวและความดันของพวกเขาลดลงอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว
7. กาแฟ
คาเฟอีนในกาแฟสามารถกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายได้ โดยเฉพาะกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ตัวบำรุงร่างกายสลายไขมันชั้นดี จากการศึกษาพบว่า การบริโภคคาเฟอีนมีผลกระตุ้นให้ร่างกายดึงพลังงานออกไปใช้ นำไปสู่การเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าอยากดื่มกาแฟเพื่อลดความอ้วนให้ได้ประสิทธิภาพก็ควรเน้นกาแฟดำ ไม่ใช่กาแฟนมใส่นมข้นและครีมน้ำตาลนะสาวๆ
8. ถั่วบราซิล
ถั่วบราซิลเป็นธัญพืชที่ประกอบไปด้วยธาตุซีลีเนียมจำนวนมาก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการปรับปรุงระบบเผาผลาญของร่างกายและยังมีโปรตีน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มความอิ่ม อยู่ท้อง ไม่หิวพร่ำเพรื่อ แต่อย่างไรก็ตามการทานถั่วบราซิลที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดพิษซีลีเนียมสะสมในร่างกายได้ ดังนั้นควรทานในปริมาณที่เหมาะสม เพียงแค่ 55 ไมโครกรัมต่อวันก็พอแล้ว
9. บรอกโคลี
ผักใบเขียวที่เรามักนำมาประกอบอาหารหลากเมนูอย่างบรอกโคลีก็เป็นตัวช่วยปรับสภาพเมตาบอลิซึม ลดระดับไขมันในเลือด และลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอ้วนต่างๆ ได้ดี อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร แก้อาการท้องผูก ป้องกันอาการเลือดจางและผิวแห้งเสียในช่วงลดความอ้วน ส่งผลดีต่อการลดความอ้วนมากมาย รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวพรรณและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
10. ผักใบเขียวสีเข้ม
ผักโขม ผักคะน้า และผักใบเขียวอื่นๆ เป็นตัวช่วยหลักในการส่งเสริมระบบเผาผลาญ เพราะผักเหล่านี้อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย โดยพืชใบเขียวยังมีแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยเร่งการเผาผลาญอาหารและดึงพลังงานไขมันในร่างกายไปใช้อีกด้วย ทานผักใบเขียวแล้วได้ประโยชน์จัดเต็มจริงๆ
นอกเหนือจากการรับประทานอาหารข้างต้นแล้ว สาวๆ ยังสามารถปรับปรุงระบบเผาผลาญของร่างกายได้โดยการดื่มน้ำและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ปรับพฤติกรรมและทำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อระบบเผาผลาญทำงานได้ดี การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ที่มา: presslogic
ที่มาภาพ: secretchina,mingpaocanada,udn,chinatimes,chinatimes.1,epochtimes,
goodhousekeeping,linky,kknews,downshiftology,i.pinimg.1
