เป็นธรรมดาของคู่รักทุกคู่เมื่อเดินด้วยกันก็ต้องมีจับมือถือแขนกันเป็นธรรมดา แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่าลักษณะของการจับมือนั้นสามารถบอกได้ถึงเลเวลความสัมพันธ์ของคู่รักได้อีกด้วย เรามาดูกันว่าการจับมือลักษณะไหนบอกอะไรได้บ้าง
1.จับมือแบบเต็มๆ
การจับมือกันในลักษณะนี้บอกได้ว่าความรักของคุณเป็นความรักที่จริงใจ เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ความหลงไหลช่วงประเดี๋ยวประด๋าว นอกจากนี้ยังสามารถบอกบุคลิกของคนที่จับมือกันในลักษณะนี้ได้อีกด้วยว่าเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หนักแน่น และเด็ดขาดค่ะ
2.ประสานมือกัน
มือประสานมือเป็นลักษณะของความสัมพันธ์ที่หนักแน่น เต็มไปด้วยความรักและความหลงไหลได้ปลื้มซึ่งกันและกัน จุดสังเกตคือทั้งสองมือต้องประสานกันแน่น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคลายความกระชับและปล่อยตามสบาย นั่นอาจจะไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก
3.ใช้นิ้วเกี่ยวกัน
การเดินแบบใช้นิ้วใดนิ้วหนึ่งเกี่ยวกันไม่ว่าจะเป็นการเกี่ยวก้อยกันเดิน หรือเกี่ยวนิ้วใดนิ้วหนึ่ง นั่นหมายถึงคุณทั้งสองนั้นต่างให้สิทธิและเคารพในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย และยังสามารถบอกได้ว่าหากวันใดวันหนึ่งที่คุณต้องเลิกลากันก็สามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้
4. เดินควงแขนกัน
การควงแขนกันในลักษณะนี้ส่วนมากเราจะเห็นเวลาออกงานด้วยกัน แต่หากคู่ไหนควงแขนกันเสมอๆ ทุกวันหรือ ควงแขนกันเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นนั่นอาจจะหมายความว่าคู่ของคุณรู้สึกไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ หรือบางทีอาจจะรู้สึกอุ่นใจแและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ข้างๆ ค่ะ
5.จับมือแล้วเอามืออีกข้างจับแขนอีกฝ่ายไว้
การจับมือกันลักษณะนี้ตีความได้หลายอย่างค่ะ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะกำลังแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หวงแฟน หรือหรืออีกนัยหนึ่งคือความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองอยู่ในสภาวะที่ง่อนแง่นไม่มั่นคงก็เป็นได้
6.จับมือและดึงเบาๆ
การจับมือกันในลักษณะนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายกำลังกระตุ้นให้คู่ของตัวเองตัดสินใจเร็วขึ้น หรือทำอะไรเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าคุณคนใดคนหนึ่งกำลังเบื่อในความสัมพันธ์ค่ะ
7.ไม่จับมือกัน
การไม่จับมือกันนั้นสามารถบอกได้หลายอย่างค่ะ หากไม่เพราะคุณทั้งสองกำลังขุ่นเคืองกัน หรือโกรธกัน อาจะเป็นเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชอบความเป็นอิสระ ไม่ชอบจับมือ หรืออายเวลาจับมือกันก็เป็นได้
ลองเช็คดูค่ะว่าลักษณะของการจับมือที่เรานำมาฝากกันนั้น ตรงกับสถานการณ์ตอนนี้ของคุณหรือเปล่า บางข้ออาจจะตรง หรืออาจจะไม่ใช่ทั้งหมดคุณต้องตัดสินจากพฤติกรรมและความสัมพันธ์ ณ ตอนนั้นด้วย จริงๆ มันอาจจะไม่ได้เป็นไปในทางเลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้นะคะ
