Now Reading
5 วิปปิ้งครีมแดรี่ยี่ห้อไหน? ทำ Dirty Coffee อร่อย กลมกล่อม ได้รสชาติแบบมือโปร

5 วิปปิ้งครีมแดรี่ยี่ห้อไหน? ทำ Dirty Coffee อร่อย กลมกล่อม ได้รสชาติแบบมือโปร

‘Dirty Coffee’ เป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตติดกระแสในตอนนี้ ด้วยกลิ่นอโรม่าที่หอมกรุ่นและความเข้มข้นสุดคลาสสิกจากริสเทรตโต้ช็อต (Ristretto) จึงทำให้ถูกปากสายคาเฟ่ และคอกาแฟหลายๆ คน เคล็ดลับความลงตัวของเมนูนี้ นอกจากกาแฟและนมแล้ว ไอเดียการนำวัตถุดิบอย่างวิปปิ้งครีมแดรี่มาทำกาแฟเดอร์ตี้ยังชูอโรม่ากาแฟให้ละมุนอยู่ในปากมากยิ่งขึ้น วันนี้พี่อะเครุพามาดูกันว่า 5 วิปปิ้งครีมแดรี่ยี่ห้อไหน ทำ Dirty Coffee ได้อร่อย กลมกล่อม มีรสชาติตามแบบฉบับมือโปร พร้อมทำความรู้จักกาแฟเดอร์ตี้ วิธีดื่มให้ได้ฟีลลิ่งแบบ Coffee Lover และวิธีทำ Dirty Coffee ให้หอม กลมกล่อม ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!

‘Dirty Coffee’ คืออะไร

‘กาแฟเดอร์ตี้’ (Dirty Coffee) หนึ่งในเครื่องดื่มสุดแปลกใหม่ ไม่ว่าจะไปร้านกาแฟไหนๆ คอกาแฟหรือสายเครื่องดื่มก็ต้องมองหาเมนูนี้อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์การแยกชั้นของนมและกาแฟอย่างสวยงาม พร้อมกับมิติใหม่ของรสชาติจากการสกัดกาแฟแบบพิเศษ จนกลายเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ลงตัว วันนี้เรามาทำความรู้จักไปพร้อมกันดีกว่าว่าเมนูนี้มีความพิเศษอย่างไร น่าลิ้มลองมากแค่ไหน และทำไมถึงเป็นเมนูที่ถูกใจคอกาแฟหลายๆ คน

กาแฟเดอร์ตี้ เป็นเมนูที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากเจ้าของร้านเอสเปรสโซ่บาร์ที่มีชื่อว่า Bear Pond Espresso ณ ย่านโตเกียว ซึ่งถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เมนู Signature ของร้าน แรกเริ่มเจ้าของร้านมีความตั้งใจนำเสนอรสชาตินมแท้ๆ ในฉบับญี่ปุ่น พร้อมกับริสเทรตโต้ (Ristretto) ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว จึงทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและดังไกลไปถึงร้านกาแฟ Joe The Art of Coffee ในนครนิวยอร์กและทั่วโลก จนมาถึงที่เชียงใหม่ ประเทศไทย​ ในแรกเริ่มใช้ชื่อว่า Gravity และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Dirty Coffee พร้อมกับมีการปรับสูตรใหม่โดยใส่วิปปิ้งครีมแดรี่หรือวิปปิ้งครีมแท้ผสมกับนมเป็นเบส จนกลายเป็นรสชาติที่อร่อยถูกปากและสัมผัสได้ถึงความหอมกรุ่นของกาแฟมากขึ้น

  • เอกลักษณ์ของกาแฟเดอร์ตี้
    เมนูนี้จะถูกเสิร์ฟมาในแก้วที่เย็นจัด พร้อมกับนมและช็อตของริสเทรตโต้ (Ristretto) ที่เข้มข้นออนท็อปอยู่ด้านบน โดยส่วนผสมทั้งสองนี้จะไม่ไหลมารวมกันเหมือนกับลาเต้ เนื่องจากการชงนั้นต้องใช้นมที่มีความเย็นมากพร้อมกับวิปปิ้งครีมแดรี่ เพื่อช่วยชูรสชาติและกลิ่นอโรม่าของกาแฟให้หอมและมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น รวมทั้งไม่กลบกลิ่นของกาแฟตลอดการดื่ม นั่นถือเป็นรสชาติของ Dirty Coffee ตามต้นฉบับที่มีความเพอร์เฟกต์และลงตัวที่สุด นอกจากนี้วิปปิ้งครีมแดรี่ยังทำให้บอดี้ของชั้นเบสนม (นมผสมวิปปิ้งครีม) มีความหนาแน่นมากพอที่จะทำให้กาแฟและนมแยกชั้นกัน ทำให้เราเห็นสีของกาแฟที่ค่อยๆ ไหลซึมอย่างช้าๆ ตัดกับนมสีขาวที่ดูเหมือนจะเปรอะเปื้อนแต่ก็มีความเป็นศิลปะในตัว จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ Dirty Coffee หรือ กาแฟเปรอะเปื้อนนั่นเอง
  • กาแฟเดอร์ตี้ ดื่มอย่างไรให้อร่อย
    การดื่มกาแฟเดอร์ตี้นั้น ไม่ต้องใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมเข้ากัน และควรรีบดื่มทันทีหลังจากที่ได้สกัดกาแฟลงบนแก้ว ด้วยวิธีการดื่มนี้จะทำให้เราได้ลิ้มรสและสัมผัสรสชาติความเป็น Dirty Coffee แท้ๆ ที่มีกลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟอบอวลอยู่ในปากอย่างชัดเจน รวมทั้งมีบอดี้ของกาแฟที่อยู่ในระดับบาลานซ์ ไม่หนักครีมและไม่เบาจนเกินไป

เคล็ดไม่ลับ
วิธีทำ Dirty Coffee ให้รสชาติกลมกล่อมระดับโปร

แนะนำเคล็ดลับการทำกาแฟเดอร์ตี้ ‘ฉบับเพอร์เฟกต์’ ที่เหล่าผู้ประกอบการ ร้านกาแฟ หรือ ร้านคาเฟ่ ไม่ควรพลาด พร้อมเสิร์ฟความหอมกรุ่น ให้คอกาแฟได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟสุดเข้มข้น จนกลายเป็นกาแฟแก้วโปรดที่ถูกปากและติดใจ ยอดขายดีจนลูกค้าต้องแวะเวียนกลับมาสั่งเมนูนี้ที่ร้านอีกแน่นอน

ส่วนผสมเมนู Dirty Coffee

  • เมล็ดกาแฟ 15 กรัม สำหรับสกัดกาแฟ 15 มิลลิลิตร
  • นมพาสเจอร์ไรส์รสจืด 50 มิลลิลิตร
  • วิปปิ้งครีมแดรี่ 50 มิลลิลิตร

วิธีทำ Dirty Coffee

  1. เริ่มการทำชั้นเบสนม โดยเทนมพาสเจอร์ไรส์รสจืดและวิปปิ้งครีมแดรี่ใส่แก้วในสัดส่วน 50:50 มิลลิลิตร พร้อมคนส่วนผสมให้เข้ากันและนำไปแช่เย็นประมาณ 5 นาที ขั้นตอนนี้ระวังอย่าให้นมจับตัวเป็นน้ำแข็ง
  2. นำเมล็ดกาแฟ 15 กรัมมาบดให้ละเอียดและแทมป์กับก้านชงกาแฟให้แน่น โดยแนะนำเป็นก้านชงแบบ Bottomless เพื่อให้กาแฟที่สกัดออกมาค่อยๆ หยดแทนการไหลเป็นสาย ซึ่งการหยดนี้จะทำให้กาแฟไม่ทะลุชั้นนมลงไป
  3. นำเบสนมที่แช่ออกจากตู้เย็นและเช็กว่านมมีความตึงผิวมากพอหรือไม่ จากนั้นสกัดริสเทรตโต้ (Ristretto) โดยใช้เวลา 15-20 วินาทีเพื่อให้ได้ส่วนหัวกาแฟที่เข้มข้น ซึ่งกาแฟที่สกัดออกมาต้องไหลช้ามากๆ และมีสีน้ำตาลเข้ม
  4. เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้ Dirty Coffee ที่แยกชั้นสวยงาม สามารถนำออกมาเสิร์ฟโดยไม่ต้องคนให้ส่วนผสมเข้ากันได้เลย
  • เคล็ดลับการทำกาแฟเดอร์ตี้ให้อร่อย: ควรใช้วิปปิ้งครีมแดรี่แท้ เนื่องจากมีรสชาติที่กลมกล่อม เนื้อสัมผัสเบาและละมุน มีกลิ่นหอมนมธรรมชาติ ไม่มีไขมันเคลือบในปาก รวมถึงไม่กลบกลิ่นกาแฟ พร้อมทั้งยังช่วยชูอโรม่าของกาแฟตลอดการดื่ม ต่างจากการใช้วิปปิ้งครีม Non-dairy ที่มีความหอมมันน้อย รวมถึงเนื้อสัมผัสค่อนข้างหนัก และมีไขมันเคลือบในปากค่อนข้างเยอะ

5 วิปปิ้งครีมแดรี่ยี่ห้อไหน?
ทำ Dirty Coffee ได้รสชาติเพอร์เฟกต์ที่สุด!

ถึงช่วงเวลาที่รอคอยกับ รีวิว 5 วิปปิ้งครีมแดรี่ ยี่ห้อไหนทำ Dirty Coffee ได้ อร่อยและเพอร์เฟกต์แบบเหมือนระดับมือโปรมาชงเองมากที่สุด โดยในวันนี้เราจะมารีวิวทั้งด้าน รสชาติ กลิ่นหอมอโรม่ากาแฟ บอดี้หรือเนื้อสัมผัส และความบาลานซ์ของชั้นนมและชั้นกาแฟในแก้ว ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย!

1. เดบิค วิปปิ้งครีม แดรี่แท้ ไขมัน 35%
Debic Dairy Whipping Cream 35% Fat

Dirty Coffee แก้วแรกของเราเลือกใช้ เดบิค วิปปิ้งครีม เป็นส่วนผสม พอได้ชิมรสชาติของกาแฟก็สัมผัสได้ถึงความเข้มข้นและกลิ่นหอมอโรม่าของริสเทรตโต้ (Ristretto) ขึ้นมาเป็นอันดับแรกโดยที่ไม่มีกลิ่นคาวของนมมาแทรกแล้วทำให้เสียอรรถรสในการดื่ม กลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟนั้นอบอวลอยู่ในปากและลิ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ดื่มอึกแรกจนหมดแก้ว ในขณะเดียวกันบอดี้ของกาแฟอยู่ในระดับที่พอดีและมีความนุ่มนวลมาก ไม่หนักไปทางครีมและไม่ได้เบาจนเกินไป ด้วยเดบิค วิปปิ้งครีมตัวนี้ที่ช่วยชูรสชาติของกาแฟให้อร่อย กลมกล่อม ไม่กลบกลิ่นกาแฟ เรียกได้ว่ามีความบาลานซ์ในทุกๆ ส่วนผสม ทำให้เราได้ฟีลลิ่งการดื่มกาแฟอย่างแท้จริง รวมทั้งสีของนมมีสีออกขาวแยกชั้นกับกาแฟได้สวยงาม ทำให้แก้วนี้เพอร์เฟกต์ถูกใจคอฟฟี่ เลิฟเวอร์แน่นอน

  • รสชาติ: อร่อย เข้มข้น กลมกล่อม
  • กลิ่น: มีกลิ่นหอมอโรม่ากาแฟชัดเจน ไม่มีกลิ่นนมมากลบ
  • บอดี้/เนื้อสัมผัส: ละมุน ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป
  • ความบาลานซ์ของรสชาติ: ให้ความบาลานซ์ของรสชาติ ทุกส่วนผสมเข้ากันได้ดี

ราคา/ปริมาณ: 225 บาท 1 ลิตร
พิกัด: ร้าน Makro และร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรีชั้นนำทั่วไปหรือช่องทางออนไลน์
Facebook: Debic Thailand
Instagram: @debic_thailand
Website: Debic Thailand

2. แองเคอร์ วิปปิ้งครีม
Anchor Whipping Cream

ในแก้วถัดมานี้เป็นของ แองเคอร์ วิปปิ้งครีม สิ่งแรกที่สัมผัสได้ขณะดื่มคือบอดี้ของกาแฟมีความหนักและครีมมี่ ด้วยกลิ่นและรสนมที่ชัดเจน ทำให้กลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟจางลง รวมถึงรสชาติกาแฟไม่ติดปากและลิ้นหลังดื่ม ความรู้สึกของการดื่ม Dirty Coffee ลดลง แต่ถ้าหากใครชื่นชอบกาแฟเดอร์ตี้ที่มีความครีมมี่ นุ่มนวล สีออกครีมอยู่แล้ว การใช้วิปปิ้งครีมตัวนี้มาเป็นส่วนผสมก็ถือว่าน่าลอง

  • รสชาติ: มีรสนมชัดเจน
  • กลิ่น: ได้กลิ่นนมชัดเจน กลิ่นกาแฟค่อนข้างจาง
  • บอดี้/เนื้อสัมผัส: มีความครีมมี่และค่อนข้างหนัก
  • ความบาลานซ์ของรสชาติ: นมมีความเข้มข้นกว่ากาแฟ

ราคา/ปริมาณ: 239 บาท 1 ลิตร
พิกัด: ร้าน Makro, Tops, Gourmet และร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรีชั้นนำทั่วไป

3. เอ็มบอร์ก แดรี่ วิปปิ้งครีม
Emborg Dairy Whipping Cream

มาต่อกันที่ เอ็มบอร์ก แดรี่ วิปปิ้งครีม เมื่อนำมาทำกาแฟเดอร์ตี้แล้ว ให้บอดี้ที่หนักเนื่องจากลักษณะวิปปิ้งครีมแบบครีมมี่เข้มข้น มีกลิ่นนมที่ชัดเจนพร้อมกับมีกลิ่นวานิลลาผสมมาเล็กน้อย จึงทำให้กลิ่นอโรม่าของกาแฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด รสชาติติดลิ้นและปากจางๆ หลังดื่ม รวมทั้งวิปปิ้งครีมมีสีครีมค่อนข้างเข้ม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความนุ่มนวล ใครที่ชอบดื่มกาแฟที่มีกลิ่นนมเบลนด์กับกลิ่นวานิลลา วิปปิ้งครีมตัวนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ตอบโจทย์

  • รสชาติ: มีรสนมชัดเจน
  • กลิ่น: มีกลิ่นนมชัดเจนผสมกับวานิลลาเล็กน้อย กลิ่นกาแฟค่อนข้างจาง
  • บอดี้/เนื้อสัมผัส: มีความหนัก สัมผัสแบบครีมมี่เข้มข้น
  • ความบาลานซ์ของรสชาติ: นมมีความเข้มข้นกว่ากาแฟ

ราคา/ปริมาณ: 359 บาท 1 ลิตร
พิกัด: ร้าน Makro, Big C และร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรีชั้นนำทั่วไป

4. เอเล่แอนด์เวียร์วิปปิ้งครีม ไขมัน 35%
Elle & Vire Whipping Cream Fat 35%

สำหรับ เอเล่แอนด์เวียร์วิปปิ้งครีม นั้น มีรสชาติที่ออกหวานเล็กน้อย กลิ่นนมค่อนข้างชัดเจนคล้ายกับกลิ่นนมผง ความรู้สึกหลังดื่มคือกลิ่นและรสชาติของนมซ้อนทับกับกลิ่นของกาแฟ แต่ยังคงสัมผัสได้ถึงความหอมอโรม่าเป็นระยะ ชูรสชาติของกาแฟเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ติดอยู่ในปากมากเท่าไหร่นัก ส่วนบอดี้แก้วนี้ค่อนข้างเบาสำหรับการดื่ม Dirty Coffee แต่ก็ให้สีครีมตัดกับสีกาแฟออกมาดูดีน่ารับประทาน

See Also

  • รสชาติ: มีรสชาติออกหวานเล็กน้อย
  • กลิ่น: มีกลิ่นนมชัดเจนและกลิ่นกาแฟหอมเป็นระยะ
  • บอดี้/เนื้อสัมผัส: ค่อนข้างเบา
  • ความบาลานซ์ของรสชาติ: นมมีความเข้มข้นกว่ากาแฟ

ราคา/ปริมาณ: 329 บาท 1 ลิตร
พิกัด: ร้าน Makro, Tops, Gourmet และร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรีชั้นนำทั่วไป

5. แมกโนเลีย วิปปิ้งครีม
Magnolia Whipping Cream

Dirty Coffee จาก แมกโนเลีย วิปปิ้งครีม แก้วนี้มาพร้อมกับบอดี้ของกาแฟที่อยู่ในระดับที่เบามากสำหรับอะเครุ เนื่องจากวิปปิ้งครีมผลิตด้วยกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ จึงทำให้ Dirty Coffee ไม่ค่อยแยกชั้นกันชัดเจน มีรสชาติความเข้มข้นและกลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟในขณะที่ดื่มพอสมควร หากพูดถึงฟีลลิ่งหลังดื่มแล้ว กลิ่นกาแฟยังคงติดอยู่ที่ปากแต่ไม่ได้นานมากเท่าไหร่ เพราะมีกลิ่นนมจางๆ แทรกมาเป็นระยะในขณะที่ดื่ม แม้ส่วนผสมทั้งหมดอาจจะยังไม่บาลานซ์กันและมีบอดี้ที่เบา แต่ก็ถือว่าเป็นกาแฟเดอร์ตี้อีกแก้วหนึ่งที่ชวนให้น่าดื่มและรสชาติใช้ได้เลย

  • รสชาติ: มีรสชาติกลมกล่อม
  • กลิ่น: มีกลิ่นหอมกาแฟและกลิ่นนมจางๆ
  • บอดี้/เนื้อสัมผัส: มีความเบามาก
  • ความบาลานซ์ของรสชาติ: นมมีความเข้มข้นกว่ากาแฟเล็กน้อย

ราคา/ปริมาณ: 189 บาท 946 มิลลิลิตร
พิกัด: ร้าน Tops, Gourmet และร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรีชั้นนำ

สรุปรีวิว วิปปิ้งครีมแดรี่ยี่ห้อไหนทำ Dirty Coffee ได้อร่อย กลมกล่อมที่สุด

วิปปิ้งครีมแดรี่แต่ละยี่ห้อก็มีรสชาติความอร่อยแตกต่างกันออกไป สำหรับการนำมาครีเอทเมนูในวันนี้ ยี่ห้อที่ช่วยชูรสชาติ Dirty Coffee ให้มีความเข้มข้น หอมอโรม่า พร้อมทั้งมีความเบาและละมุน และบาลานซ์ส่วนผสมทุกอย่างให้มีความเข้ากัน จนต้องให้ดาวได้แก่….

  1. เดบิค วิปปิ้งครีม แดรี่แท้ ไขมัน 35% Debic Dairy Whipping Cream 35% Fat
    กาแฟเดอร์ตี้แก้วนี้ที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟที่อบอวลอยู่ในปาก ตามมาด้วยบอดี้ที่ละมุน ลงตัวไม่ครีมมี่และไม่เบาไป บาลานซ์ส่วนผสมทุกอย่างได้ในระดับที่เพอร์เฟกต์สุดๆ
  2. แมกโนเลีย วิปปิ้งครีม Magnolia Whipping Cream
    ถึงแม้จะมีบอดี้ที่เบาที่สุด แต่รสชาติของแก้วนี้ก็มีความลงตัวในระดับที่ใช้ได้ หอมกาแฟเป็นระยะ แต่ก็มีกลิ่นนมจางๆ ที่คอยเบลนด์เข้ากับกาแฟได้ดีเลย
  3. เอเล่แอนด์เวียร์วิปปิ้งครีมไขมัน 35.1% Elle & Vire Whipping Cream Fat 35.1%
    สำหรับแก้วของเอเล่แอนด์เวียร์นี้ อาจถูกปากคนที่ชอบทานหวานและชอบกลิ่นนมนำ เมื่อดื่มแล้วยังคงได้กลิ่นกาแฟอยู่บ้าง รวมถึงมีบอดี้ค่อนข้างเบา แต่ไม่เบาเท่าแมกโนเลีย วิปปิ้งครีม ทำให้เราได้รับรู้รสชาติของการดื่ม Dirty Coffee ในอีกมุมหนึ่ง

หมายเหตุ: การรีวิวในครั้งนี้เป็นไปตามความคิดเห็นและการทดสอบโดยผู้รีวิวเพียงเท่านั้น รสชาติและความอร่อย รวมถึงการรับรู้เนื้อสัมผัสของเครื่องดื่มอาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

หากใครที่ต้องการรีวิวข้อมูลเกี่ยวกับวิปปิ้งครีมแดรี่ในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมว่าสามารถนำไปครีเอทเมนูอะไรได้บ้าง รสชาติเป็นอย่างไร สามารถอ่านบทความ รีวิว 12 วิปปิ้งครีม ได้เลยค่ะ

จบกันไปแล้วกับการรีวิว 5 วิปปิ้งครีมแดรี่ ที่นำมาทำเมนูยอดฮิตติดเทรนด์อย่าง Dirty Coffee สำหรับผู้ประกอบการ ร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่ หรือบาริสต้าท่านไหน ที่อยากครีเอทเมนูนี้ให้กับร้านตัวเองเพื่อเพิ่มยอดขายและทำให้ลูกค้าติดใจในความอร่อย หวังว่าข้อมูลการรีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นะคะ ในครั้งหน้าจะมารีวิวอะไรอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top