Now Reading
รู้ไว้! 7 อาหารตัวการทำให้ ‘น้องสาวมีกลิ่น’ ที่สาวๆ ควรเลี่ยง

รู้ไว้! 7 อาหารตัวการทำให้ ‘น้องสาวมีกลิ่น’ ที่สาวๆ ควรเลี่ยง

นอกจากใบหน้าสวยๆ ที่เราต้องดูแลแล้ว อีกหนึ่งจุดที่สำคัญของผู้หญิงอย่างจุดซ่อนเร้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลอย่างดี มองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าอยากให้น้องสาวของเราสุขภาพดีและไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์  นอกจากการออกกำลังกายและการทำความสะอาดที่ดีแล้ว การทานอาหารก็ส่งผลต่อการมีกลิ่นของน้องสาวได้เช่นกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา ทั้งการติดเชื้อ ไม่มีความมั่นใจเวลาขยับตัว หรือใส่กระโปรงทำกิจกรรมต่างๆ โดยอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกเลยก็ว่าได้ ปัญหาใหญ่แบบนี้อย่าปล่อยไว้ค่ะ เรามาป้องกันไว้ก่อนด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ที่ทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นกันดีกว่า

1. หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่งของโปรดของใครหลายคน ตัวการทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากหน่อไม้ฝรั่งมี Asparagin ที่ผลิตสารเมทิลเมอร์แคปแทน เมื่อถูกย่อยสลายในร่างกายและถูกขับออกมาจะทำให้ปัสสาวะมีกลิ่น และเกิดการหลั่งสารในช่องคลอดทำให้เกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ รวมถึงทำให้ช่องคลอดมีค่า pH เป็นกรดไม่สมดุล หากทานมากๆ น้องสาวอาจมีกลิ่นแรงได้

2. หัวหอม

หัวหอมเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรง และแน่นอนว่าการรับประทานหัวหอมก็ทำให้น้องสาวของเรามีกลิ่นได้เหมือนกัน ยิ่งถ้ารับประทานมากก็ยิ่งทำให้กลิ่นแรงขึ้น โดยหัวหอมจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของแบคทีเรียในช่องคลอดของคุณผู้หญิง ทำให้ร่างกายส่วนล่างมีกลิ่นรุนแรงขึ้น จึงไม่ควรทานหัวหอมบ่อยหากไม่อยากให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น ควรรับประทานแต่น้อยหรือเลี่ยงการรับประทานหัวหอมเลยก็ดีค่ะ

3. กาแฟ

เครื่องดื่มยอดนิยมอย่างกาแฟ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ง่าย เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นแรง นอกจากนี้กาแฟยังทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย จึงเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อ Candida และภาวะดังกล่าวก็อาจส่งผลเสียต่อจุดซ่อนเร่นได้เช่นกัน ดังนั้นควรลดปริมาณกาแฟให้น้อยลง หรือดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ ก็จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์นี้ได้เช่นเดียวกัน

4. ขนมปังขาว

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ในสหรัฐอเมริกาพบว่า การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เช่น ขนมปังขาวและข้าวขาว จะไปเพิ่มดัชนีน้ำตาลในเลือดภายในร่างกายให้สูงขึ้น และเร่งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลามไปถึงการติดเชื้อในช่องคลอด หากอยากป้องกันปัญหานี้ควรลดทานแป้งขัดขาว เปลี่ยนเป็นขนมปังธัญพืชหรือข้าวกล้องแทนเพื่อลดกลิ่นอับ เพิ่มความมั่นใจกันดีกว่า

5. ปลา

ถึงแม้ว่าปลาจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ปลาบางชนิดหากทานมากๆ ก็ส่งผลต่อการมีกลิ่นในช่องคลอดเช่นกัน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาที่มีความเป็นด่างสูง เพราะจะทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดเจริญได้ดี รวมถึงเลี่ยงการทานปลาแซลมอนหรือปลาซาร์ดีนในปริมาณที่มากเกินไป เพราะปลาเหล่านี้จะปรับ pH ให้เป็นด่าง ส่งผลต่อค่า pH ของช่องคลอด ทำให้มีกลิ่น “น้องสาว” ตามมา

See Also

6. แอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปมีผลต่อสมดุลของค่า pH ในช่องคลอด ทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยปกติช่องคลอดจะมีค่า pH ที่สมดุลอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีแบคทีเรีย (ชั้นดี) ที่คอยดูแลป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ในช่องคลอด แต่แอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปจะมีผลต่อค่า pH และยังส่งผลถึงกลิ่นของช่องคลอด ทำให้ความเป็นกรดด่างไม่สมดุล ถ้าดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำกลิ่นก็จะติดตัวไม่หาย รู้แบบนี้แล้วเพลาๆ บ้างก็ดีนะสาวๆ

7. ขนมหวาน

ผู้หญิงหลายคนติดของหวานมาก ยิ่งเดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็หาซื้อง่าย มีเมนูน่าทานเต็มไปหมด โดยการรับประทานขนมหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น ชานมไข่มุก กาแฟ และนมจะส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อราได้มากขึ้น ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่บริเวณจุดซ่อนเร้นอันเนื่องมาจากการติดเชื้อราได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้น้องสาวมีกลิ่นและติดเชื้อราที่ช่องคลอด หลีกเลี่ยงน้ำตาลและของหวานจึงจะดีที่สุด

ถ้าไม่อยากให้จุดซ่อนเร้นหรือน้องสาวมีกลิ่นอับ ลองหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคอาหารเหล่านี้กันดูน้า การดูแลใส่ใจจุดนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเลยล่ะค่ะ!

ที่มา: sundaymore
ที่มาภาพ: read01, jd, doctoryang, health.udn, scooptw, gdjyw, tributebarbers, top1cdn, i.pinimg.1, i.pinimg.2

 

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top