การฟังเพลงก็เป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแล้ว เราก็ควรมีแอปฟังเพลงที่ตรงใจโหลดติดไว้ในมือถือ เอาไว้ฟังเพลงเวลาเดินทาง พักผ่อน หรือฟังคลอไป อ่านหนังสือไป หรือจะเก็บไว้ฟังตอนที่นอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เราก็เลยมาแนะนำ 10 แอปฟังเพลงที่ดีที่สุดกันค่า มีแอปไหนเด็ดๆ บ้างไปดูกันเลย
สารบัญ
1. YouTube Music

แอปพลิเคชั่นสตรีมเพลงของเว็บไซต์ดังอย่าง YouTube ที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี ซึ่งแอป YouTube Music นั้นถูกสร้างขึ้นมาสำหรับสายชอบฟังเพลงโดยเฉพาะเลย ใครที่ชอบเล่น หรือดูยูทูปกันอยู่แล้ว ควรโหลดมาติดเครื่องไว้นะ
- ข้อเด่น มีเพลงเยอะมากที่สุด ทั้งสากล เกาหลี ไทย หรือ เสียงจากวีดีโอก็สามารถโหลดมาฟังได้ ฟังก์ชั่นใช้งานง่าย มีให้สร้างเพลย์ลิสต์ของตัวเอง สามารถค้นหาเพลงโดยการพิมพ์เนื้อเพลงได้ หากเราสมัครใช้บริการเป็นพรีเมียม สามารถฟังเพลงแบบไม่มีโฆษณาคั่น และดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ไม่อั้น
- ข้อด้อย ในการใช้บริการฟรี จะมีโฆษณาคั่นบ่อยๆ และไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่นได้หลากหลายเท่าแบบพรีเมียม
- ค่าบริการ แบบฟรี (มีโฆษณาคั่น) / แบบพรีเมียม 129-169 บาท/เดือน (1 คน), 199-259 บาท/เดือน (ใช้งาน 6 บัญชี)
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
2. Spotify

แอปชื่อดังฮอตฮิตที่หลายคนคุ้นเคยกันดี อย่างแอป Spotify หรือ สปอทิฟาย เป็นแอปสตรีมเพลง ที่ไม่ได้มีดีแค่เพลง แต่ยังมีบริการให้ได้ฟังรายการพอตแคสต์ดีๆ ทั้งของไทย และของต่างประเทศอีกด้วย สำหรับคนที่ทั้งชอบฟังเพลงสากล และอยากฟังเพื่อฝึกภาษาอังกฤษ ในแอปนี้มีรายการพอสแคสต์ให้เลือกฟังเยอะมาก
- ข้อเด่น เหมาะกับผู้ชื่นชอบเพลงสากล มีฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย มีการแนะนำเพลงตามมูดโทนอารมณ์ หรือประเภทเพลงที่เหมาะกับกิจกรรมของผู้ฟังได้หลากหลาย เช่น เพลงสำหรับ ออกกำลังกาย หรือฟังตอนนอน เราสามารถเลือกฟังเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่ทางแอปแนะนำ หรือสร้างเพล์ลิตส์เองก็ได้ แอปจะจำแนวเพลงที่เราชื่นชอบ ฟังบ่อยๆ และแนะนำเพลงใหม่ที่คล้ายๆ กันให้ฟังได้แบบโอเคเลย
- ข้อด้อย มีบริการสตรีมเพลงไทย น้อยกว่าเพลงสากล สำหรับบางเพลงจะไม่มีเนื้อเพลงขึ้นมาให้ดู อาจจะต้องเข้าดูจากเว็บไซต์อื่นๆ
- ค่าบริการ ทดลองฟรี 1 เดือน จากนั้นแบบพรีเมียม 169 บาท/เดือน
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
3. Joox

แอปสตรีมเพลงฮิต อีกหนึ่งแอปเจ้าประจำของคนไทยที่มียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 70 ล้านครั้ง เพราะแอปเค้ามีเพลงให้ฟังเยอะ และค่อนข้างหลากหลายเลย อีกทั้งมีฟังก์ชั่นสำหรับคนที่ชอบทั้งฟังเพลง และร้องเพลงไปด้วยได้ สายชอบโคฟเวอร์เพลง แอปนี้ตอบโจทย์สุด
- ข้อเด่น โดดเด่นในการให้บริการสตรีมเพลงฮิตทั้งเพลงไทย และเพลงสากล มีตัวเลือกในการสมัครค่าบริการ VIP หลายหลาย ทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายปี ผู้ฟังสามารถเลือกบริการที่ตรงใจ และคุ้มค่ามากที่สุดได้
- ข้อด้อย บริการฟังฟรี มีโฆษณาคั่นค่อนข้างเยอะ หน้าการใช้งานอาจจะดูใช้งานยากเล็กน้อย เพราะแอปมีหลายฟีเจอร์มาก
- ค่าบริการ รายวัน 19 บาท รายเดือน 99 บาท รายปี 990 บาท
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
4. Apple music

แอปสตรีมเพลง สำหรับผู้ที่ใช้มือถือ หรืออุปกรณ์ไอทีของค่ายมือมือ Apple เป็นแอปที่มีหน้าตาสุดอินเทรนด์ มีสไตล์แบบมองก็รู้ว่าเป็นของแอปเปิ้ล และใช้งานง่ายมาก อยากฟังเพลงอะไรก็บอกเจ้า siri ได้เลย พร้อมจัดมาให้ทุกอย่าง จะถามหาแนวเพลง หาชื่อเพลงจากเนื้อเพลงได้หมดเลย
- ข้อเด่น แอปพลิเคชั่นใช้งานง่าย มีเพลงกว่า 70 ล้านเพลงทั่วโลก ฟังก์ชั่นครบ มีชาร์จเพลงฮิตแต่ละประเทศให้ได้เลือกฟัง มีเนื้อเพลงให้ทุกเพลง และที่ไม่เหมือนใครก็คือ ทางแอปจะมีการนำคนดัง หรือดีเจชื่อดัง มาจัดรายการวิทยุสตรีมเพลงให้ฟังเพลงแบบสดๆ ในฟังกันในแต่ละวันด้วย
- ข้อด้อย ไม่เด่นในการสตรีมเพลงไทย บางเพลงอาจจะไม่มี และใช้งานได้เพียงอุปกรณ์มือถือในเครือบริษัท Apple เท่านั้น
- ค่าบริการ ทดลองใช้งานฟรี 3 เดือน แบบรายคน 129 บาท/เดือน แบบครอบครัว 199 บาท/เดือน (สำหรับ 6 คน)
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS
5. SOUNDCLOUD

ซาวด์คลาวด์ แอปสตรีมเพลงฟรี ที่เราสามารถเป็นได้ทั้งผู้ฟังเพลง และยังสามารถอัปโหลดเพลงตัวเองลงแอปนี้ให้คนอื่นฟังได้ด้วย อีกทั้งเราก็จะได้ฟังเพลงใหม่ เพราะๆ จากศิลปินหน้าใหม่ที่จะลงเพลงของพวกเขาให้ฟังแบบฟรีๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นเพลงที่ไม่สามารถหาฟังได้จากแอปสตรีมเพลงเจ้าอื่น
- ข้อเด่น มี Tag ในการค้นหาแนวเพลงที่ชื่นชอบ สามารถติดตามศิลปินหน้าใหม่ที่มาลงเพลงกันให้ฟังได้ หน้าตาของแอปพลิเคชันใช้งานง่าย ติดตามทุกเพลงที่อยู่ในกระแสได้ไม่พลาด หรือสามารถหาคลิปเสียงดังๆ จากแฮชแท็กยอดนิยมได้ด้วย
- ข้อด้อย ความหลากหลายของเพลงฝั่งเอเชียยังถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับแอป Joox หรือ Spotify
- ค่าบริการ ฟรีค่าบริการ
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
6. Fungjai ฟังใจ

แอปสตรีมมิ่งเพลงฟังใจที่เหมือนรู้ใจคนชอบฟังเพลง เป็นแอปสำหรับคนชอบเพลงสไตล์อินดี้โดยเฉพาะเลย แอปหน้าตาคลีน และใช้งานง่าย มีให้ฟังทั้งเพลงเก่า และเพลงใหม่ บางเพลงก็หาฟังได้ที่แอปฟังใจเท่านั้น
- ข้อเด่น ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียเงินสมัครเหมือนแอปอื่นๆ และได้เพลงเพลงอินดี้หลากหลายแนว สามารถโหลดเพลงไว้ฟังแบบออฟไลน์ และไม่มีโฆษณาคั่นด้วยนะ
- ข้อด้อย ไม่เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงสากล แนวเพลงยังไม่ค่อยมีความหลากหลายหากเทียบกับเจ้าใหญ่อย่าง Spotify และ Joox ที่คนนิยมมากกว่า แต่เพลงฮิตๆ แอปนี้มีให้ฟังอย่างแน่นอน
- ค่าบริการ ไม่เสียค่าบริการ
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
7. Deezer

แอปสตรีมมิ่งเพลงที่รวบรวมเพลงดังจากทั่วโลกกว่า 56 ล้านเพลง เป็นแอปพลิเคชั่นที่ครบมาก มีทั้งเพลง และรายการพอสแคสต์ดังๆ ก็มีให้ฟังด้วยเช่นกัน เป็นแอปที่แนะนำเพลงได้ตรงใจอีกแอปหนึ่งเลย
- ข้อเด่น โดดเด่นกว่าแอปสตรีมเพลงอื่นๆ ตรงที่มีฟีเจอร์ SongCatcher ช่วยเราค้นหาเพลงที่อยากฟังแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไรได้ด้วยนะ เป็นแอปที่ระบบเสียงมีคุณภาพมาก และมีฟีเจอร์จัดหมวดหมู่เพลงที่เหมาะกับแนวเพลงที่ผู้ฟังชอบได้อย่างตรงสไตล์
- ข้อด้อย มีโฆษณาคั่น หากไม่ได้ใช้แบบเสียค่าบริการ เพลงไทยมีไม่หลากหลาย เน้นเพลงฝั่งสากล ฟีเจอร์ลูกเล่นของแอปมีไม่เยอะเท่าแอปอื่นๆ เท่าไหร่ แต่ก็ทำให้แอปใช้งานง่ายดี
- ค่าบริการ แบบรายคน 129/เดือน แบบครอบครัว 199 บาท/เดือน (6 คน)
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
8. Tidal

แอป Tidal เป็นแอปสตรีมมิ่งเพลง และวีดีโอสตรีมมิ่งที่มีหน้าตาแบบเท่ๆ คูลๆ และเป็นแอปที่ใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฟังเพลงเสียงคุณภาพดี ละเอียด คมชัด ละมุนหู ต้องโหลดแอปนี้มาใช้งานแล้วล่ะ
- ข้อเด่น ระบบเสียงดีคุณภาพดีงามมาก มีเพลงสากลให้ฟังหลากหลายกว่า 70 ล้านเพลง
- ข้อด้อย เพลงในโซนฝั่งเอเชีย เพลงไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ยังไม่ค่อยหลากหลาย เน้นสำหรับคนชอบฟังเพลงสากล และแอปไม่มีรองรับภาษาไทย
- ค่าบริการ แบบรายคน 179/เดือน แบบครอบครัว 199 บาท/เดือน (6 คน)
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
9. Audiomack

แอปสตรีมเพลง Audiomack สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนวมันส์ๆ เพลงมิกซ์เทป และเพลงฮิตที่เป็นเพลงสากลดังๆ จากทั่วโลก แอปนี้มีให้ฟังกันแบบจัดเต็ม สามารถจัดคอนเสิรต์เองที่บ้านได้เลย
- ข้อเด่น สามารถดาวน์โหลดเพลงที่ชอบมาฟังแบบออฟไลน์ได้ เอาไว้ฟังโดยไม่เปลืองค่าอินเทอร์เน็ตได้มากกว่า 6 ล้านกว่าเพลง แนวเพลงที่โดดเด่นคือเพลง ฮิปฮอป อิเล็กทรอนิกส์ เร็กเก้ และแดนซ์ฮอล เหมาะกับผู้ฟังสายปาร์ตี้มาก
- ข้อด้อย ไม่มีรองรับเวอร์ชันภาษาไทย และเพลงไทยไม่หลากหลายมากนัก
- ค่าบริการ ฟรี/ รายเดือนประมาณ 150 บาท
- ช่องทางการดาวน์โหลด IOS / Android
10. Whim music

แอปพลิเคชั่นสตรีมเพลง และรายการพอดเเคสต์ มีการดาวน์โหลดแอปนี้กว่า 5 ล้านครั้ง เป็นแอปที่สามารถโหลดเพลงจากยูทูปมาฟัง แบบปิดหน้าจอได้ เพราะมีฟีเจอร์ซิงค์กับยูทูป ทำให้มีเพลงให้ฟังอย่างครอบคลุม ทั้งเพลงไทย และสากลเลย
- ข้อเด่น มีแนวเพลงหลากหลาย และฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ สามารถซิงค์เพลย์ลิสต์กับคลาวด์ของเราให้มาเปิดในแอป Whim music และอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ ฟีเจอร์ที่เราสามารถกำหนดเวลาให้เพลงปิดเองได้
- ข้อด้อย ไม่มีให้บริการบน IOS
- ค่าบริการ ฟรีแบบมีโฆษณาคั่น / รายเดือน 90-125 บาท
- ช่องทางการดาวน์โหลด Android
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 แอปพลิเคชั่นฟังเพลงประจำปี 2021 ที่เรานำมาฝากทุกคน ลองดูว่าแอปฟังเพลงแอปไหนที่สามารถตอบโจทย์เรามากที่สุด แล้วลองโหลดมาใช้กันดู ไหนๆ จะเสียเงินแล้วก็เลือกใช้แอปที่ตรงสไตล์ดีกว่าเนอะ
ที่มาของภาพ: YouTubemusic, Applemusic, Spotify,
Joox, Fungjai, Tidal, Deezer SOUNDCLOUD,
Audiomack, Whim music
กดติดตาม akerufeed ทางทวิตเตอร์
Follow @akerufeed