บอกลาหน้าเยิ้ม! รู้จักกับประเภทของแป้งและวิธีเซตผิวแบบละเอียดยิบ

ฮัลโหล!!! สวัสดีมนุษย์ผิวหน้ามันทั้งหลายค่ะ คงจะกลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องปัญหาแต่งหน้าแล้วไม่ตินทนเพราะหน้ามันเยิ้มกันอยู่ใช่ไหมเอ่ย?? ไม่ต้องกังวลใจไปจ้า เพราะวันนี้พี่อะเครุจะมาเปิดทริคสอนทุกคนเลือกแป้ง และวิธีลงแป้งเซตผิวสำหรับคนหน้ามันกัน

รู้จักสภาพผิวกันก่อน

ก่อนอื่นเราต้องรู้สภาพผิวหน้าของเราก่อนว่ามีผิวแบบไหน เราจึงจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของเราได้ ซึ่งสภาพผิวหน้าก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

• ผิวธรรมดา
  อธิบายง่ายๆ คือผิวปกติไม่มีปัญหาอะไรมาก หรือจะมีปัญหาผิวตามสภาพอากาศ เช่น หน้ามันช่วงอากาศร้อน และผิวหน้าแห้งช่วงอากาศหนาว
• ผิวแห้ง
  จะมีปัญหาใหญ่ๆ เลยก็คือการผิวแห้งลอกเป็นขุย แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ติดผิว วิธีคือต้องใช้สกินแคร์พวกมอยเจอร์ไรเซอร์และออยล์ช่วยเติมน้ำให้ผิว
• ผิวมัน
  ผิวมันก็จะเป็นผิวที่มีปัญหาเรื่องการแต่งหน้าไม่ติดทน หน้าเยิ้มระหว่างวัน เพราะร่างกายผลิตไขมันออกมามากเกินไป
• ผิวผสม
  ผิวประเภทนี้ส่วนใหญ่จะหน้ามันช่วงทีโซน ซึ่งต้องใช้สกินแคร์บำรุงผิวสำหรับปัญหาผิวผสมโดยเฉพาะ เพื่อลดความมันช่วงทีโซนและเพิ่มความชุ่มชื้นช่วงกรอบใบหน้า
• ผิวมีปัญหาสิว
  ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาที่หนักแบบสุดๆ เพราะต้องเลือกใช้สกินแคร์และสารบำรุงต่างๆ อย่างระมัดระวัง ซึ่งถ้าเป็นสิวหนักๆ ก็แนะนำให้เลี่ยงการแต่งหน้าสักพักรักษาสิวให้ดีขึ้นก่อน เพราะเครื่องสำอางจะทำให้ปัญหาสิวหนักกว่าเดิมได้

แป้งแต่งหน้าประเภทต่างๆ

ต้องบอกก่อนว่าในปัจจุบันได้เกิดเครื่องสำอางขึ้นมาใหม่กันอย่างมากมายอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ประเภทของแป้งแต่งหน้าจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ วันนี้พี่อะเครุก็เลยขอมาแนะนำทั้งหมด 7 ประเภทที่เป็นที่นิยมในตอนนี้กันก่อนนะคะ

1. แป้งฝุ่น

เป็นแป้งที่จะเอาไว้ช่วยเซตเครื่องสำอางให้ติดบนใบหน้าและช่วยควบคุมความมัน แต่จะไม่ช่วยเรื่องการปกปิดอย่างใด ซึ่งแป้งฝุ่นประเภทนี้ก็มีทั้งแบบโปร่งแสงไม่มีเฉดสี และแบบมีเฉดสีให้เลือก

เหมาะกับใคร: ใช้ได้ทุกสภาพผิว เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวที่มากนัก คนที่ต้องการควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่การพกพาออกไปเติมระหว่างวันอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่

2. แป้งฝุ่นแบบมิเนอรัล

เป็นแป้งฝุ่นสำหรับคนที่มีปัญหาผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวเป็นสิว เป็นแป้งที่ไม่ช่วยเรื่องการปกปิดใช้แค่เซตเครื่องสำอางให้ติดทนเท่านั้น โดยตัวแป้งตัวนี้จะต่างจากแป้งฝุ่นธรรมดาตรงนี้เค้าจะผลิตตัวเนื้อแป้งมาจากแร่ธาตุต่างๆ ตามธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน

เหมาะกับใคร: ใช้ได้ทุกสภาพผิว และเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว ผิวแพ้ง่าย

3. แป้งผสมรองพื้น

เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่สามารถทาได้โดยไม่ต้องทารองพื้น ช่วยเรื่องการปกปิดในระดับหนึ่ง แต่ตัวเนื้อแป้งจะค่อนข้างหนา ซึ่งในบางแบรนด์ก็ได้มีการใส่สารกันแดดเพิ่มลงไป ถือเป็นแป้งที่สามารถพกได้เพียงตลับเดียวจบ ใช้เติมระหว่างวันได้ แต่อาจจะมีความหนักผิวไปบ้าง

เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวที่มีปัญหารอยดำ รอยคล้ำที่เพียงเล็กน้อย และคนที่ไม่ชื่นชอบการทารองพื้นหรือบีบีครีม

4. แป้งไม่ผสมรองพื้น

แป้งประเภทนี้จะช่วยเรื่องการปกปิดปัญหาริ้วรอยและรอยสิวได้ในระดับหนึ่งแต่น้อยกว่าแป้งผสมรองพื้น เอาไว้ใช้สำหรับพกพาไปเติมระหว่างวันได้เหมือนแป้งฝุ่นแต่สะดวกในการพกพามากกว่า และมีหลายเฉดสีให้ได้เลือกใช้

เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนผิวธรรมดาไปถึงผิวผสม และคนที่หน้ามีริ้วรอยที่ต้องการปกปิด

5. แป้งสกินแคร์

ถือเป็นแป้งนวัฒกรรมใหม่ที่พึ่งออกมาได้ไม่นานมาก แป้งตัวนี้จุดเด่นคือจะรวมสารบำรุงต่างๆ ไว้ ทาแล้วเหมือนได้ทาสกินแคร์บำรุงผิว มีเนื้อแป้งที่บางเบา แต่ตัวนี้จะไม่มีสี ไม่ช่วยเรื่องการปกปิดแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะถูกใช้เซตเครื่องสำอางหรือใช้หลังลงสกินแคร์เพื่อเซตผิวไม่ให้มันเยิ้ม

เหมาะกับใคร: ใช้ได้ทุกสภาพผิว เหมาะกับลุคที่ไม่อยากแต่งหน้า แต่ก็ไม่อยากให้มันเยิ้มเพราะทาครีมสกินแคร์ทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

6. แป้งดินน้ำมัน

อีกหนึ่งไอเท็มสุดปังแห่งยุค เพราะแป้งตัวนี้นอกจากจะช่วยเรื่องการปกปิดได้ดีเท่ากับแป้งผสมรองพื้นแล้ว ความพิเศษที่มากกว่าคือ เป็นแป้งที่ตกแล้วไม่มีวันแตกจ้า เพราะเนื้อแป้งจะคล้ายๆ กับดินน้ำมัน มีความนุ่ม ไม่เหมือนแป้งฝุ่นแบบอัดแข็ง และสามารถกันน้ำได้อีกด้วย

เหมาะกับใคร: เหมาะกับผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม ส่วนผิวมันอาจเกิดการอุดตันได้ และคนที่ชื่นชอบการเดินทาง เพราะพกพาง่ายสะดวก ปกปิดได้ดีเยี่ยม

7. แป้งไฮไลต์

หรือไฮไลท์ที่เราเอาไว้เฉดดิ้งเพิ่มมิติของใบหน้านั่นแหละค่ะ แป้งตัวนี้จะมีส่วนผสมของกลิตเตอร์ ช่วยให้ผิวดูมีออร่า มีความฉ่ำวาวมากขึ้น

เหมาะกับใคร: ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เหมาะใช้กับการแต่งหน้าเพิ่มความฉ่ำวาว ใช้ได้ทุกสภาพผิว ส่วนใหญ่จะใช้ทาบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก ปลายจมูก หรือส่วนที่ต้องการเพิ่มมิติให้ดูเด่นชัดขึ้น

วิธีการเลือกแป้งให้เหมาะสมกับตัวเอง

จริงๆ แล้ววิธีการเลือกแป้งให้เหมาะกับตัวเองก็มีอยู่มากมายแต่หลักสำคัญที่สุดเลยก็คงจะเป็น ประเภทของผิวเราของว่าเหมาะกับแป้งแบบไหนและการเลือกเฉดสีให้ตรงกับผิวเรานั่นเอง

เลือกเฉดสีให้ตรงกับสีผิว

อันนี้คือประเด็นที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเป็นแป้งที่ผสมรองพื้น, แป้งไม่ผสมรองพื้น, แป้งดินน้ำมัน และแป้งฝุ่นแบบไม่โปร่งแสงนี่จะต้องให้ความสำคัญกับเฉดสีผิวเป็นอย่างมากเลยนะคะ เพราะต่อให้เราเลือกแป้งที่ตรงกับปัญหาผิวของแต่ถ้าเฉดสีไม่ตรงก็คือตกม้าตายในทันทีค่ะ

วิธีเลือกสีแป้ง: คล้ายๆ กับการเลือกรองพื้นคือ ต้องลองทาแป้งที่ท้องแขนหรือสันกรามแล้วทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีให้สีแป้งมันดรอปลงสักเล็กน้อย แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ว่าแป้งสีไหนที่ใกล้เคียงกับสีผิวของเรามากที่สุด

เลือกประเภทแป้งให้เหมาะกับความต้องการ

อย่างที่เราได้บอกไปในประเภทของแป้งแล้วว่า แป้งประเภทไหนเหมาะกับผิวแบบไหน ดังนั้นนอกจากจะเลือกจากประเภทของผิวแล้ว ยังต้องเลือกจากความต้องการใช้ด้วย เช่นถ้าจะพกไปเติมระหว่างวันก็แนะนำแป้งแบบผสมรองพื้นและไม่ผสมรองพื้นแทนหรือจะเป็นแป้งสกินแคร์ที่มีความโปร่งใส เพราะจะไม่ทำให้เมคอัพส่วนอื่นบนใบหน้าจางหายไป และพกง่ายกว่าแป้งฝุ่นแบบกระปุกนั่นเอง

เทคนิคการลงแป้งให้หน้าปัง ไม่พังและมันเยิ้ม

ซึ่งขอบอกเลยว่าเทคนิคที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็เป็นเทคนิคแบบง่ายๆ เลยนะคะ สามารถทำตามกันได้เลย

จัดเรียงสเต็ปการลงให้ดี

เพราะในการแต่งถ้าแต่ละครั้งเชื่อว่าคงมีสาวๆ หลายคนที่ใช้แป้งอยู่หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งสาวๆ จะต้องจัดลำดับในการลงแป้งแต่ละประเภทนั้นๆ ด้วย เช่น หลังทารองพื้นให้สาวๆ ลงแป้งฝุ่นหรือแป้งสกินแคร์เพื่อเซตผิวก่อน จากนั้นค่อยลงแป้งผสมรองพื้นหรือแป้งที่ช่วยเรื่องความปกปิดเข้าไป และตามด้วยแป้งแบบไฮไลท์ทีหลังเพื่อเพิ่มมิติของใบหน้าเป็นการปิดท้าย

ลงแป้งแบบตบ ห้ามปาดเด็ดขาด

อันนี้ก็อีกหนึ่งข้อที่สำคัญเลยสุดๆเลยนะคะ ถ้าสาวๆ ไม่อยากให้หน้าหลุดระหว่างวัน ข้อห้ามสำคัญเลยคือห้ามทาแป้งแบบใช้ฟองน้ำหรือพัฟปาดแป้งลงใบหน้าอย่างเด็ดขาด ให้ใช้การค่อยๆ กดตบเบาๆ ย้ำลงบนผิวหน้าแทน และเน้นในจุดช่วงทีโซน ร่องจมูกสักนิด เพราะช่วงบริเวณนั้นผิวจะมันง่ายกว่าโซนอื่นๆ

ใช้สเปรย์ล็อกเครื่องสำอางช่วย

สเปรย์ล็อกเมคอัพเป็นอีกหนึ่งนวัฒกรรมใหม่ที่จะมาช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนบนใบหน้าเรานานยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ให้ได้เลือกใช้ ซึ่งวิธีใช้ก็คือจะฉีดเป็นสเต็ปสุดท้ายของการแต่งหน้านั่นเองค่ะ

จริงๆ แล้ววิธีการเลือกแป้งหรือลงแป้งนั้นก็ไม่ได้มีสเต็ปตายตัวหรอกค่ะ มันสามารถปรับเปลี่ยนกันไปตามความถนัดและความต้องการของแต่ละคนได้ เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ก็ลองนำเอาวิธีที่เรานำเสนอไปลองทำตามกันดูได้เลยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

ที่มาภาพ: ukoshimart, Maruwa45 Nor, empowerpalette, ulta, allure, influenster, artdeco, strawberrycoco, ahtheprettythings.tumblr, wattpad, fentybeauty, shopmissa, tipora, mixwellness, Mujer de 10, careergirldaily