ตั้งแต่ปีค.ศ. 2020 เป็นต้นมา เราจะเห็นเหล่าซูเปอร์สตาร์และดาราฮอลลีวูดหันมาทำแบรนด์สินค้าของตัวเองมากขึ้น รวมถึงนักร้องเองก็เช่นกัน และแบรนด์หนึ่งที่มีกระแสตั้งแต่เปิดตัวโปรดักส์เซตแรกจนกระแสมาแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่เคยแผ่วก็เลยก็คือ Rare Beauty จากนักร้องสาวชื่อดังอย่าง เซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez) นั่นเอง วันนี้เราจะพามารีวิว 10 ไอเทมจาก Rare Beauty อย่างเจาะลึกกันว่ามีอะไรเด็ดบ้าง
Selena Gomez จากขวัญใจชาวดิสนีย์ สู่นักร้อง
และการเป็นเจ้าของ ‘Rare Beauty’
ถ้าหากเราพูดถึงศิลปินหลายๆ คนที่เรารู้จักกันในวงการบันเทิง ก็จะมีเส้นทางอาชีพที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็เริ่มต้นด้วยการแข่งขันร้องเพลงจนเป็นศิลปินที่ยอดขายอัลบั้มถล่มทลาย และเปลี่ยนมาเป็นโปรดิวเซอร์หรือนักเขียนเพลง แต่สำหรับ Selena Gomez เจ้าของแบรนด์ Rare Beauty นั้น ต้องบอกว่าเส้นทางสายอาชีพของเธอหลากหลายจริงๆ
ในช่วงวัยเด็ก ถ้าบ้านใครมีเคเบิลทีวีและเปิดดูช่องดิสนีย์ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากับเซเลน่าเป็นอย่างดีเลย เพราะเธอเป็นเพื่อนคู่ใจกับเจ้าไดโนเสาร์สีม่วงอย่างบาร์นี จนได้มาเป็นนักร้องที่ออกอัลบั้มที่มีเพลงฮิตติดหูไปทั่วโลกอย่าง Hands To Myself ซึ่งมียอดผู้ติดตามในไอจีกว่า 344 ล้านคน
และในวันที่ 3 กันยายน ปีค.ศ. 2020 เซเลน่าได้ประกาศเปิดตัวแบรนด์เมคอัพของตัวเองภายใต้ชื่อว่า Rare Beauty แฟนๆ ทั่วโลกของเธอต่างดีใจอย่างล้นหลามและมีกระแสจากบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลกมากมายเลยค่ะ จนทุกวันนี้แบรนด์ของเธอมีโปรดักส์กว่า 10 ตัว บอกเลยว่าแต่ละชิ้นนั้นคัดมาแล้ว คุณภาพเน้นๆ จัดเต็ม!
รีวิว Rare Beauty 10 ไอเทมตัวเด็ด ตัวไหนใช้ดีต้องมาดู!
ต้องบอกว่าแบรนด์นี้เขาไม่เคยได้พักจริงๆ กับกระแสของเมคอัพแต่ละตัวที่ปล่อยมาตั้งแต่ชิ้นแรกจนถึงชิ้นปัจจุบัน เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ใช้จริง (Real User) ทั่วโลกต่างหลงใหลในแบรนด์นี้ ก็ของเขามันดีงามจริงๆ ใช่ไหมล่ะค่ะ ถ้าหากใครยังไม่เคยลองหรือมี Rare Beauty สักไอเทมไว้ที่โต๊ะ วันนี้มาอ่านรีวิวนี้และพร้อมพุ่งตัวไปที่เซโฟร่าได้เลยยย
1. Liquid Touch Weightless Foundation
รองพื้นตัวแรกของแบรนด์ที่มาในแพ็กเกจจิ้งแบบใหม่ไม่เหมือนรองพื้นที่คุ้นเคย โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นรองพื้นที่มาในขวดหัวปั๊มกัน แต่รุ่นนี้เป็นขวดที่มีฝาหมุน เมื่อเปิดออกมาแล้วจะเป็นแปรงสำหรับทาที่หน้าได้เลย ด้วยแพ็กเกจจิ้งแบบนี้ทำให้เราทารองพื้นที่หน้าได้ง่ายขึ้น พร้อมซอกซอนบริเวณพื้นที่แคบๆ บนผิวหน้าได้ดี Liquid Touch Weightless Foundation เป็นรองพื้นเนื้อแมตต์สูตรบางเบา คุมมัน แต่ไม่แห้งจนเกลี่ยยาก สาวๆ คนไหนชอบต้องไปลอง
- ราคา 1,200 บาท
- พิกัด: Sephora
2. Liquid Touch Brightening Concealer
คอนซีลเลอร์ตัวนี้ถ้ามองเผินๆ จะมีแพ็กเกจจิ้งเหมือนกับตัวรองพื้นเลย แต่ต่างกันตรงที่ขนาดจะเล็กกว่า รุ่นนี้เป็นคอนซีลเลอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้เป็นอย่างดี ใช้กับใต้ตาแล้วไม่มีการตกร่องเลยแม้แต่นิด ปกปิดมิดแต่ยังให้ความสบายผิวอยู่ และทางแบรนด์เคลมว่าใช้แล้วผิวไม่แห้งด้วย มาพร้อมกับแปรงในขวดเช่นเคย หัวแปรงค่อนข้างใหญ่ ทำให้เราปาดใต้ตาได้สะดวกสุดๆ
- ราคา 800 บาท
- พิกัด: Sephora
3. Lip Soufflé Matte Lip Cream
ลิควิดลิปสติกรุ่นแรกและหนึ่งเดียวจาก Rare Beauty ถ้าเราพูดถึงลิปเนื้อแมตต์แล้วเราคงจะนึกถึงความติดทน แน่น เนื้อค่อนข้างหนัก แต่สำหรับลิปรุ่นนี้แล้ว ความพิเศษคือเนื้อลิปที่มีความคล้ายกับมูสที่มีชื่อเรียกเหมือนกับอาหารว่า ‘ซูเฟล์’ (Soufflé )ให้ความรู้สึกที่เบาสบายปาก ไม่เหนียวหนึบ และที่สำคัญเบลนด์ง่ายและพิกเมนต์สีแน่นชัดสมกับที่เป็นเนื้อแมตต์
- ราคา 800 บาท
- พิกัด: Sephora
4. Soft Pinch Liquid Blush
บลัชออนที่กระแสการรีวิวมาแรงเกินต้านและไม่มีแผ่ว บลัชออนเนื้อน้ำที่มาในขนาดใหญ่ สาวๆ สามารถใช้ได้นานแน่นอนแม้ว่าจะใช้ทุกวันก็ตาม ที่สำคัญคือพิกเมนต์แน่นมากๆ ย้ำว่ามากๆ แต้มเพียงจุดเดียวก็สามารถเบลนด์ได้ทั่วหน้าเลย และยังมีให้เลือกทั้งเนื้อแมตต์และเนื้อดิวอี้อีกด้วย แต่ตอนนี้นอกจากจะ Rare Beauty แล้วตัวนี้ก็ยังเป็น Rare Item อีกด้วยนะ เพราะน้องขายดีจนหมดสต็อกทุกรอบเลยแหละ สาวๆ อาจจะต้องรอนานหน่อยน้าาา
- ราคา 800 บาท
- พิกัด: Sephora
5. Stay Vulnerable Melting Blush
ถ้าใครที่ไม่อยากรอ Soft Pinch Liquid Blush ลองหันมาใช้บลัชออนเนื้อครีมตัวนี้ดูก็ได้น้าา คุณภาพเริ่ดไม่ต่างกัน บลัชออนเนื้อครีมที่ถูกอัดมาในตลับขนาดที่พกพาง่ายมากๆ เนื้อจะมีความครีมมี่กึ่งแป้งนิดๆ พิกเมนต์สีจะธรรมชาติกว่ารุ่นเนื้อน้ำ เวลาสาวๆ ใช้ก็นำนิ้วมือถูวนๆ กับตัวครีมและแต้มบนหน้าได้เลย ไม่ต้องใช้แปรง รุ่นนี้แอบบอกว่าเลียนแบบสีแก้มเลือดฝาดได้เหมือนมากทุกสี
- ราคา 800 บาท
- พิกัด: Sephora
6. Positive Light Liquid Luminizer
ยังมูฟออนจากอะไรที่เป็นเนื้อลิควิดไม่ได้เพราะ Rare Beauty ทำออกมาได้ดีเกินคาดจริงๆ สำหรับไฮไลต์เนื้อครีมรุ่นนี้เขาได้มีการพัฒนาสูตรให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ปล่อยออกมา เนื้อเบลนด์ง่ายขึ้น ชิมเมอร์ละเอียดขึ้น พร้อมทั้งเล่นแสงได้สวยโกลว์เป็นธรรมชาติ ทริคที่สาวๆ ใน Tiktok ชอบใช้คือนำไฮไลต์ตัวนี้ไปผสมกับ Soft Pinch Blush จะได้บลัชออนผสมชิมเมอร์เบาๆ ซึ่งนำมาปัดแก้มแล้วสวยมากกก
- ราคา 900 บาท
- พิกัด: Sephora
7. Liquid Touch Concealer Brush
นอกจากเมคอัพแล้วก็ยังมีอุปกรณ์การแต่งหน้าด้วยเช่นกัน แปรงเกลี่ยคอนซีลเลอร์ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นที่พูดถึงและถูกใจเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์หลายคน ไซซ์แปรงที่มีขนาดพอดีสำหรับใต้ตา ขนแปรงแน่น และมีรูปทรงสามเหลี่ยมทำให้เหมาะมากๆ กับการเกลี่ยคอนซีลเลอร์ได้แม้กระทั่งพื้นที่แคบๆ ตรงหัวตา ตัวนี้พี่อะเครุว่าคุ้มค่าแก่การตำมากๆ ถ้าเทียบกับดีไซน์และคุณภาพ
- ราคา 900 บาท
- พิกัด: Sephora
8. Discovery Eyeshadow Palette
ถึงแม้แบรนด์นี้เขาจะเน้นเรื่องงานผิวเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีอายแชโดว์พาเลตต์ให้เราได้เล่นกันอยู่ ตัวนี้เป็นอายแชโดว์พาเลตต์รุ่นแรกของแบรนด์เลย หน้าตาของจะแตกต่างจากที่เราเคยเห็นคือหลุมของอายแชโดว์มีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวทำให้เราได้ฟีลลิ่งที่แตกต่างในการใช้ ส่วนโทนสีนี้บอกเลยว่าเหมาะกับการทาไปปาร์ตี้ตอนกลางคืนสุดๆ กลิตเตอร์เล่นแสงแบบฉ่ำมากแม่
- ราคา 1,200 บาท
- พิกัด: Sephora
9. Always An Optimist Pore Diffusing Primer
ไพรเมอร์ตัวนี้บอกเลยว่าไม่รีวิวไม่ได้ เป็นไพรเมอร์เนื้อเจลแต่มีคุณสมบัติเบลอรูขุมขนได้กริบและทำให้ผิวหน้าเนียนขึ้นไม่ต่างจากไพรเมอร์เนื้อซิลิโคน ถ้าหากใครใช้ไพรเมอร์แบบเก่าอยู่แล้วมีปัญหาอุดตันผิวเพราะล้างยากต้องลองหันมาใช้เนื้อเจลบางเบาแบบตัวนี้เลย นอกจากนี้ยังช่วยให้เมคอัพติดทนอยู่ทั้งวันอีกด้วย ดีจนขนาดปกติที่ขาย Sold out ไปแล้วจ้าา ต้องรอรีสต็อกอีกแล้วสาวๆ
- ราคา 1,050 บาท
- พิกัด: Sephora
10. Kind Words Matte Lipstick
โปรดักส์ตัวใหม่ล่าสุด ลิปสติกแบบแท่ง รุ่นนี้บอกเลยว่าปล่อยออกมาได้หนึ่งเดือนขายดีจนหมดทุกสีเลยค่ะ ด้วยความโทนสีนู้ดแบบคลาสสิก ตุ่นๆ อมน้ำตาลนิดๆ ทำให้ถูกใจสาวไทยและสาวๆ ทั่วโลกเป็นอย่างมาก ถ้าใครห่างหายจากการทาลิปสติกแบบแท่งหัวจรวด ต้องกลับมาตำรุ่นนี้จาก Rare Beauty ที่สำคัญเขาออกกมาพร้อมกับลิปไลน์เนอร์ด้วยนะ
- ราคา 800 บาท
- พิกัด: Sephora
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ ยืนยันคุณภาพด้วยคำว่า Sold out ไปหลายรายการเลย แต่ก็ยังมีอีกหลายตัวให้ได้ลองกันนะ ตอนนี้ถ้าใครรอไม่ไหวอาจจะพรีออเดอร์ไปก่อน ในครั้งหน้าจะมีแบรนด์ใหม่หรือโปรดักส์ตัวไหนน่าสนใจอีก อย่าลืมติดตามกันน้าาา
Tripple B because it's unique. Enjoy watching sunset, dive into the world of art and let my soul sink into music.