มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผิวให้นุ่มชุ่มชื้นและได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์มากมายหลายแบรนด์ที่ผลิตออกมาให้เราเลือกใช้กัน แต่พี่อะเครุจะบอกว่าการตัดสินใจว่าจะใช้ของอะไรนั้น..ไม่ควรเลือกจากยี่ห้อเพียงเท่านั้น แต่ควรเลือกที่เหมาะกับสภาพผิวเราจริงๆจึงจะเห็นผลดีนะคะ เอาเป็นว่าไปดูกันดีกว่าว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์แบรนด์ไหนที่สาวๆชี้เป้ากันเพียบว่าใช้ดีจริง!
สารบัญ
1. ESTEE LAUDER
Nutritious Vitality8™ Radiant Energy Lotion – Intense Moist (ราคา 2,100 บาท)
โลชั่นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวเด็ดจากแบรนด์ดัง Estee Lauder ขึ้นชื่อว่ามีประโยชน์ต่อผิวที่สุด ตัวนี้มีประสิทธิภาพสูงจากส่วนผสม Pomegranate8 Complex ช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง และชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก สาวๆที่หน้าแห้งต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์นะคะ เพราะจะทำให้แต่งหน้าง่ายและติดทนมากขึ้นด้วย
2. Clinique
Dramatically Different Moisturizing Gel (ราคา 1,650 บาท)
ตัวนี้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรเจล ไม่มีน้ำมัน ไม่ต้องกลัวหน้ามันเหนอะหนะแน่นอน ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ซึ่งเหมาะสุดๆสำหรับสาวผิวมัน จะช่วยปรับสมดุลของผิวให้กลับมาชุ่มชื้นเหมือนเดิม
3. Mamonde
Moisture Ceramide Light Cream (ราคา 1,200 บาท)
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ของ Mamonde เป็นเนื้อครีม สามารถใช้ได้ทั้งผิวมันและผิวผสม เป็นแบรนด์ยอดฮิตของสาวๆในเกาหลีใต้เลยหล่ะ มีสารสกัดจากดอกไม้ที่ช่วยบำรุงผิวให้สดชื่นอิ่มน้ำ ที่มาของผิวใสสุขภาพดีแบบดาราเลยค่ะ!
4. Biotherm
Life Plankton Essence (ราคา 2,550 บาท)
จะข้ามน้ำตบแพลงก์ตอนไปก็กระไรอยู่ทั้งๆที่ดังขนาดนี้! สาวๆทุกคนต่างการันตีเลยว่า Biotherm ใช้ดีจริง ถึงกลิ่นจะแอบแรงนิดๆ แต่ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมเวอร์ หน้ากลับมาเนียนนุ่มฟู ผิวอิ่มน้ำในระยะเวลาเพียงแค่คืนเดียว ดีแบบนี้ต้องซื้อแล้ว!!
5. Kenzoki
Moisturizing Jelly To Mattify (ราคา 1,877 บาท)
มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลอีก 1 แบรนด์ที่ซึมเร็วและช่วยเติมน้ำให้แก่ผิวได้ทันที ผิวจะนุ่มชุ่มชื้นด้วย Hyaluronic Acid และบรรดาสารสกัดจากดอกไม้ เหมาะกับคนผิวมันเพราะจะช่วยขจัดความมันออกไปจากใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด สร้างลุคสวยปังไม่มันเยิ้มได้ทั้งวัน
6. Caudalie
Vinosource Moisturizing Matifying Fluid (ราคา 1,600 บาท)
มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลอดสีชมพูสดใส ตัวนี้เนื้อบางเบาและเป็นเนื้อลิควิคที่บำรุงผิวพร้อมให้ความชุ่มชื้น มีส่วนในการช่วยฟื้นฟูผิวจากน้ำองุ่นออร์แกนิค ปรับสภาพผิวให้แข็งแรงมากขึ้น และดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี แถมไม่มีส่วนผสมของพาราเบนอีกด้วย
7. Benefit Cosmetics
Total Moisture Facial Cream (ราคา 1,800 บาท)
สำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ของ Benefit ตัวนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนผิวธรรมดาและผิวแห้งมากกว่า เนื้อครีมมีความเข้มข้น ซึมเข้าผิวรวดเร็วและทันทีที่ใช้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมสารสกัดที่บำรุงอย่างล้ำลึกในทุกๆขั้นตอน
8. Origins
Original Skin™ Matte Moisture Perfector with Willowherb (ราคา 1,600 บาท)
แบรนด์ธรรมชาติอย่าง Origins ก็มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ตัวนี้เป็นสูตรออยล์ฟรี ต่อให้ผิวเปลือยๆโล่งๆก็ยังสวยสุขภาพดีแบบไม่ต้องพึ่งเมคอัพ ทั้งช่วยดูดซับความมันบนผิว ปรับสภาพรูขุมขนให้เรียบเนียน และสีผิวจะดูสม่ำเสมอหลังใช้อีกต่างหาก
9. Algenist
Power Advanced Wrinkle Fighter Moisturizer (ราคา 4,060 บาท)
ปิดท้ายกันด้วยแบรนด์ที่แพงหูฉี่ Algenist แค่เห็นราคาก็ทำให้เข่าอ่อนได้ 555 บอกเลยว่านี่คือที่สุดของมอยส์เจอร์ไรเซอร์แล้ว เป็นขั้นเทพเลยก็ว่าได้ นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื้นดูเปล่งปลั่งแล้ว ยังช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย ลดความแห้งกร้าน ลดจุดด่างดำ แถมยังอุดมไปด้วยคุณค่าจาก Alguronic Acid และ AlgaProtein โอ้โห แบบนี้สิสมราคาเวอร์!
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบรนด์ดังที่คู่ควรแก่สาวๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรเลือกซื้อตามที่กำลังตัวเองไหวดีกว่านะคะ ^^
