Now Reading
“ถูกรมยาผ่านหน้ากากแอร์”บนรถแท็กซี่ คือเรื่องจริงหรืออุปทานหมู่!!

“ถูกรมยาผ่านหน้ากากแอร์”บนรถแท็กซี่ คือเรื่องจริงหรืออุปทานหมู่!!

ความเชื่อบางอย่างก็ฝังอยู่ในใจคนไทยส่วนใหญ่เป็นเวลานาน และเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมานานว่าการโดนมอมยาด้วยวิธีการใช้ “ยาป้าย และ การถูกรมยาผ่านหน้ากากแอร์” มีจริงหรือไม่ เพราะยังมีคนส่วนใหญ่เชื่อว่ายาป้ายมีจริงๆ แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันความจริงในเรื่องนี้แล้วก็ตาม

ที่มา: focuslokalkompass, abe.iastatepopsci 

การถูกมอมยาด้วย “ยาป้าย” มีจริงหรือไม่ ?

landscape-1445720370-g-fainting-136811247

source: www.netdoctor.co.uk

หัวหน้าตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติดอร์ทมุนด์ นาย Wolfgang Schmitz ได้กล่าวถึงตัวยาชนิดหนึ่งที่ผู้ร้ายใช้ก่อเหตุ ทำให้เหยื่อไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ โดยเหยื่อพูดต่อๆ กันว่าคนร้ายใช้วิธีการให้พวกเขาสูดดมยาชนิดนี้หรือนำยาชนิดนี้มาสัมผัสผิวหนัง ทำให้พวกเขารู้สึกมึนหัว หายใจไม่ค่อยออก ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งยาที่ได้มีการกล่าวอ้างถึงนี้มีชื่อว่า “ยา Burundanga” 

Burundanga เป็นสารที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส ว่ากันว่า Burundanga เป็นสารสกัดจากพืชดอกในจีนัส Brugmansia ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ โดยชื่ออื่นๆ ของยา Burundanga ก็คือ Scopolamine ที่ใช้เป็นยาแผนปัจจุบันช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนนั่นเอง

แต่ก็มีการรายงานว่าข้อมูลที่คนส่วนใหญ๋ทราบเป็นข้อมูลที่ผิด เพราะไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสหรือสูดดมยาชนิดนี้ไม่สามารถทำให้คุณเกิดอาการดังกล่าวได้ นอกเสียจากว่ามันถูกนำไปผสมน้ำแล้วคุณก็ถูกหลอกให้ดื่มมัน

แล้วการถูกมอมยาด้วยวิธีการ “รมยาผ่านหน้ากากแอร์” ล่ะ ?

Taxi driver sitting in traffic on Sony street in Ginza area.

source: www.travelandleisure.com

หากคุณสงสัยเรื่องราวของผู้โดยสารบางคนใช้บริการรถแท็กซี่และโดนแท็กซี่มอมยาด้วยวิธีการรมยาผ่านหน้ากากแอร์ เราจะช่วยไขปัญหาข้อนี้ให้กระจ่างค่ะ

ที่จริงแล้วการที่จะทำให้คนๆ หนึ่งสลบได้ นอกจากจะให้วิสัญญีแพทย์วางยาสลบแล้ว ก็มีเพียงแค่ยาชา Xylocain หรือ lidocaine แบบแปะ ซึ่งก็ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงกว่ายาจะซึมผ่านผิวหนังของคุณให้ชาเฉพาะที่ และปกติแล้วการใช้ยาสลบยานั้นต้องใช้ยาที่มีความแรงมากและใช้เวลานานพอสมควร จึงจะทำให้ผู้โดยสารสลบได้ หรือไม่ก็คนขับรถจะต้องสลบไปก่อนแล้ว

■ เพราะอะไรกันเวลาที่คุณนั่งรถแท็กซี่จึงเกิดอาการมึนงง รู้สึกง่วงๆ คล้ายกับโดนวางยา?

motionsick_828114

source: www.neurologyadvisor.com

See Also

ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเฉพาะในขณะที่คุณนั่งรถแท็กซี่หรอกค่ะ การที่คุณนั่งรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน

การเมารถเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเกิดอาการมึนงง เวียนหัว คลื่นไส้ มันเกิดจากการที่ระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวทำงานไม่สัมพันธ์กัน อย่างเช่น การส่งสัญญาณจากสายตาไปยังสมองผิดปกติทำให้เกิดอาการปรับสายตาไม่ทันเมื่อรถเบรกกระตุก ออกตัวแรง หรือขับฉวัดเฉวียน นอกจากนี้กลิ่นเหม็นๆ กับการทานอาหารมากเกินไปก็ทำให้เมารถได้

นอกจากนี้อาการง่วง มึนงง เวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน อาการเหล่านี้สอดคล้องกับการถูกพิษของก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ การที่คุณมีอาการเช่นนี้เป็นไปได้ว่ารถยนต์คันนั้นมีรอยรั่ว และการที่คนขับไม่รู้สึกอะไร ก็เพราะว่าร่างกายเกิดการปรับตัวอย่างช้าๆ อย่างการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

■ เมื่อเกิดอาการเช่นนี้ควรทำอย่างไร ?

motion-sickness_0

source: www.womenshealthmag.com

  • การแก้ปัญหาด้วยวิธีการมองพื้นดินและเส้นขอบฟ้าขณะที่อยู่บนรถหรือบนเรือ
  •  หากคุณมีแนวโน้มว่าเป็นคนชอบเมารถให้เลือกนั่งข้างหน้าและจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างแทนที่จะอ่านหนังสือ
  • ดื่มน้ำขิงเพื่อแก้อาการเมารถ

ทีนี้ก็มั่นใจได้ว่าอาการแปลกๆ ที่คุณเจออย่างเช่น เวียนศีรษะ มึนงง หายใจไม่ออก หรือแม้กระทั่งการอุปทานว่าตนเองได้ทำตามทุกอย่างที่มิจฉาชีพบอก ก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากยาป้ายและการถูกรมยาผ่านหน้ากากแอร์แน่นอน!!

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top