
ผมเสีย ชี้ฟูดูสุขภาพไม่ดีเป็นอีกปัญหาที่สาวๆ หลายคนกังวลกันเพราะว่าถ้าผมเสีย สุขภาพไม่ดี เราต้องจัดแต่งทรงผมของเราด้วยความร้อนไม่ว่าจะเป็นไดร์ ที่หนีบผม หรือที่ดัดลอนผม เพื่อให้ผมดูเข้าทรงมากยิ่งขึ้น แต่ยิ่งเราใช้ความร้อน ผมของเราก็จะยิ่งเสียมากขึ้น จนท้ายที่สุดอาจจะกลายเป็นผมแห้งเป็นไม้กวาด หรือขาดได้เลยนะ วันนี้พี่อะเครุได้ไปเจอเคล็ดลับการดูแลผมจากช่างผมชาวเกาหลี, อเมริกัน และจากนักร้องสาวชาวเกาหลี มาฝากกัน รับรองว่าผมสวยสุขภาพดีกว่าเดิมแน่นอน
6 ขั้นตอนการดูแลเส้นผม
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการดูแลเส้นผม เคล็ดลับการดูแลเส้นผม เรามาดูกันดีว่า สาวๆ หนุ่มๆ ได้ดูแลเส้นผมของเราพอหรือยัง การดูแลเส้นผมหลายๆ คนอาจจะโฟกัสแค่การเลือกแชมพู หรือครีมนวด หรือบางทีก็แค่สระไม่กี่รอบ ที่จริงแล้วยังมีขั้นตอนอื่นๆ ที่เราสามารถทำให้ผมของเราสุขภาพดีขึ้นได้ง่ายๆ และยังใช้เวลาไม่นานด้วยนะ มาลองเช็คกันว่าเราทำครบไหม ขาดขั้นตอนไหนไปบ้าง
- หวีผมทุกครั้งการที่เราจะสระผม
- ใช้นิ้ว หรือหวี นวดเบาๆ บริเวณหนังศีรษะเพื่อนกระตุ้นหนังศีรษะ
- ลงแชมพู โดยถูแชมพูให้ขึ้นฟองก่อนชะโลมที่หนังศีรษะ
- ล้างออกน้ำอุณหภูมิปกติ โดยไม่ควรใช้น้ำอุ่นร้อน เพราะอาจจะทำให้ผมของเราแห้ง
- ลงครีมนวดผมเฉพาะปลายผม (ถ้าต้องทำลอนผมไม่แนะนำให้ใส่ครีมนวด)
- เช็ดผมให้หมาด และลงเซรั่มบำรุงเส้นผม (หากต้องใช้ความร้อน ควรเลือกเป็นเซรั่มที่ปกป้องเส้นผมจากความร้อน)
เจาะลึกวิธีการดูแลเส้นผม ที่หลายคนอาจจะมองข้าม
ทั้ง 6 ขั้นตอนการดูแลเส้นผมที่พี่อะเครุลิสต์ไว้นี้น่าจะเป็นขั้นตอนที่หลายคนทำตามหรืออาจจะขาดไปบ้างบางข้อ จึงอาจจะทำให้ผมของเราดูสุขภาพไม่ดีเท่าที่ต้องการ การดูแลเส้นผมที่อาจจะดูไม่ยาก ที่จริงก็มีขั้นตอนการดูแลเส้นผมที่เราอาจจะยังไม่รู้ หรือไม่ได้ใส่ใจมากนัก เริ่มต้นแต่การสระผม ไปจนถึงการเลือกผลิตภัณฑ์เลย เราไปดูกันว่าผมสุขภาพดีควรดูแลอย่างไรบ้าง
เคล็ดลับเวลาสระผม
- ความถี่การสระผม
หากสาวๆ เป็นคนที่มีหนังศีรษะค่อนข้างแห้ง แนะนำให้สระผม 2 ครั้ง / สัปดาห์ เพราะถ้าเราสระบ่อยๆ จะทำให้หนังศีรษะของเราแห้งมากขึ้น แต่ส่วนคนที่หนังศีรษะมันง่าย ควรสระให้บ่อย เช่น ทุกวัน หรือ 2 วันครั้ง โดยแนะนำให้สระผมช่วงเย็น เพราะผมของเราได้รับความสกปรก ฝุ่นควัน มลภาวะมาทั้งวัน ถ้าเราไม่สระผมตอนเย็นอาจจะเกิดรังแค หรือหนังศีรษะอักเสบได้ รวมถึงที่แย่ที่สุดคือ ผมอาจจะร่วงได้
- เลือกแชมพูให้เหมาะกับผมของเราอย่างไร
การเลือกแชมพูที่จริงนั้นก็สำคัญไม่น้อยเลยค่ะ ปัจจัยที่จะช่วยให้เราเลือกแชมพูที่เหมาะกับเราได้อย่างแรกก็คือ หนังศีรษะ เพราะหนังศีรษะนั้นอยู่ติดกับรากผม ถ้าเราเป็นคนหนังศีรษะมัน ให้เลี่ยงแชมพูที่เติมความชุ่มชื้น ให้ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ส่วนผมแห้งให้หลีกเลี่ยงแชมพูที่ช่วยให้ผมแข็งแรง ตรงสวย หรือมีวอลลุ่ม เพราะจะทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น ส่วนถ้าใครไม่ได้มีปัญหาหนังศีรษะมัน หรือแห้ง ให้เลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมแทนค่ะ เช่น ผมหยิก ผมไม่มีวอลลุ่ม ผมแห้ง
– แชมพูสำหรับคนหนังศีรษะมัน
- Yves Rocher BHC Purifying Shampoo for Oily Hair : แชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติกว่า 99% ปราศจากซิลิโคน ช่วยลดปัญหาผมมัน ผมลีบแบน ไม่มีพาราเบน
- Pantene Micellar Charcoal Shampoo : แชมพูไมเซล่า ช่วยดีท็อกซ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ โดยไม่มีซิลิโคน ไม่ทำให้หนังศีรษะแห้งตึง และช่วยบำรุงลึก
– แชมพูสำหรับคนหนังศีรษะแห้ง
- Clear Scalp Care Shampoo : แชมพูขจัดรังแค มีวิตามินบี 3 และ Amino Acid ช่วยขจัดรังแค และบำรุงหนังศีรษะให้สุขภาพดี
- Smooth E Purifying Shampoo : เวชสำอางแชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยลดอาการระคายเคืองของหนังศีรษะ ปราศจากซิลิโคน พาราเบน แอลกอฮอล์
- ปริมาณแชมพู
หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าผมสกปรกไม่สระหลายวัน ควรใช้แชมพูจำนวนมาก แต่ที่จริงแล้วจะทำให้เราล้างผมนานยิ่งขึ้น และแชมพูที่ตกข้างอาจจะกระตุ้นหนังศีรษะของเราทำให้เกิดรังแคได้ โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ใช้แชมพูปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 2 ปั๊มจะเพียงพอกับการสระผม
- ไม่ควรชโลมแชมพูลงบนศีรษะโดยตรง ให้ตีเป็นฟองก่อน
การที่ชโลมแชมพูโดยตรงลงบนศีรษะ จะทำให้เกิดฟองได้น้อย เลยอาจจะต้องเพิ่มแชมพูมากขึ้น และอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง และรังแคได้ด้วย
- ทำไมควรล้างด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง
เพราะผมของเรามีโปรตีนมากกว่า 80 % เลย การใช้น้ำอุ่นร้อนล้างเส้นผมจะทำให้ผมแห้งมากขึ้น และหากล้างด้วยน้ำเย็น จะทำให้ประสิทธิภาพการชะล้างลดลง อาจจะหลงเหลือแชมพูบนเส้นผมได้
- หลีกเลี่ยงการลงทรีทเมนต์ผม หรือครีมนวดผมบนหนังศีรษะ
ผลิตภัณฑ์ดูแลผมอย่างทรีทเมนต์ และครีมนวดผมส่วนใหญ่จะมีซิลิโคน ที่ช่วยให้ผมของเรานุ่ม และดูเงางาม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง อาการแพ้ หรือผมร่วงได้ เพราะฉะนั้นควรใส่เพียงปลายผม 5 เซนติเมตรเท่านั้น
เคล็ดลับเวลาไดร์ผม
- การใช้ไดร์เป่าผม ไม่ทำร้ายเส้นผมเท่าปล่อยให้ผมแห้งไม่สนิทแล้วนอนเลย
หลายคนอาจจะคิดว่าการใช้ไดร์เป่าผมเป็นการทำร้ายเส้นผม ด้วยความร้อน จึงเลี่ยงด้วยการปล่อยให้เส้นผมแห้งเอง ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่แห้งสนิท การทำแบบนี้ถือเป็นการทำร้ายเส้นผมสุดๆ เลย เพราะหนังศีรษะของเราจะติดเชื้อ อัตราการเกิดของเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น และยิ่งเราปล่อยให้ผมเปียกนานเท่าไหร่ จะยิ่งทำร้ายผิวนอกของเส้นผม ทำให้ผมของเราแห้งเสียมากยิ่งขึ้น
- ลงเอสเซนส์บำรุงผมทุกครั้งก่อนเป่าผม
หลังจากที่เราเช็ดผมให้แห้งได้มากที่สุดแล้ว ควรใส่น้ำมันบำรุงผม โดยเฉพาะส่วนปลายผมที่มักจะขาดความชุ่มชื้น และอาหารผมมากที่สุด และใช้น้ำมันบำรุงผมที่ช่วยปกป้องผมของเราจากความร้อน
– ออยล์บำรุงผมที่แนะนำ
-
Mise En Scene Perfect Serum : เซรั่มบำรุงผมสูตรเข้มข้นจากเกาหลี มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ 7 ชนิด เช่นลดความหยาบกร้าน ลดปัญหาเส้นผมชี้ฟู เส้นผมแห้งเสีย
-
L’Oréal Paris Elseve Extraordinary Oil : ออยล์สกัดจากน้ำมันดอกไม้ 6 ชนิด เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งอย่างล้ำลึก ผมเรียบลื่น และสุขภาพดีขึ้น
- เลี่ยงการใช้ลมร้อน เพื่อเป่าผมให้แห้งไวขึ้น
การใช้ลมร้อนจะทำให้หนังศีรษะร้อน และกระตุ้นรูขุมขนของเส้นผมอีกด้วย ลมร้อนจะทำให้หนังศีรษะของเราแห้ง และยังทำลายความสมดุลของน้ำและน้ำมันบนหนังศีรษะอีกด้วย ถ้ามีเวลาค่อนข้างเยอะแนะนำให้ใช้ลมเย็นเป่าจนผมแห้ง หรือหากรีบ ให้ใช้ลมเย็นสลับกับลมร้อน และเป่าสุดท้ายด้วยลมเย็น จะช่วยให้ผมของเราไม่แห้งเสียมาก
- เวลาเป่าผม ให้เป่าลมจากด้านบน
วิธีการไดร์ผมก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย เราควรเป่าผม โดยให้ลมมาจากรากผมไปยังปลายของเส้นผม เนื่องจากผิวนอก (Cuticles) ของเส้นผม ที่ปกป้องผมของเรานั้นเรียงตัวเหมือนเกล็ดปลาค่ะ ถ้าเราเราได้ผมแบบช้อนขึ้น จะทำให้ผิวนอกเผยอ ผมของเราจะดูกรอบและชี้ฟู จุดนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ผมของเราดูไม่สวยเหมือนไดร์ที่ซาลอนก็เป็นได้นะ
เคล็ดลับเวลาจัดแต่งทรงผม
- หวีมีหลากหลายประเภท
เชื่อว่าหลายคนมักจะใช้หวีเพียงไม่กี่แบบ แต่ Charles Baker Strahan สไตลิสต์ผมชื่อดังได้พูดถึงหวีไว้ว่า แปรงที่รูปร่างแตกต่างกันก็ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน เช่น หวีกลม เหมาะกับคนที่ต้องการทำผมลอน, หวีซี่ห่าง เหมาะกับคนผมหยักศกที่อยากให้ผมดูสวยสุขภาพดี, หวีแปรงกระดูกปลา เหมาะกับใช้เวลาไดร์ผม เป็นต้น
- ถ้าต้องทำลอนผม แนะนำว่าไม่ใส่ครีมนวดดีกว่า
ทริคนี้เป็นทริคของสไตลิสต์ชาวเกาหลีค่ะ เธอแนะนำว่าการใส่ครีมนวดจะทำให้ผมชุ่มชื้น ผมลื่น และทิ้งตัว ทำให้เวลาม้วนผมแล้วจะไม่ค่อยอยู่ทรง ค่อยใส่เป็น Heat Protection ก่อนการใช้ความร้อนแทนจะดีกว่า
– Heat Protection ที่แนะนำ
- Lolane Pixxel Heat Protection Volume : สเปรย์น้ำนมที่ช่วยป้องกันความร้อนได้ถึง 200 องศา ช่วยยกโคนผมและเพิ่มวอลลุ่ม
- Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care Heat Protection : สเปรย์บำรุงผม ช่วยปกป้องผมได้สูงสุดที่ 230 องศา ดูแลเส้นผมที่ถูกทำลายถึงโครงสร้างชั้นใน มีสารสกัดที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในเส้นผม
เคล็ดลับอื่นๆ เกี่ยวกับการดูแลผม
- ทานอาหารที่ดูแลเส้นผม
สาวๆ น่าจะพอทราบกันดีว่าเส้นผมของเรามีส่วนผสมของโปรตีน ดังนั้นเราควรที่จะทานอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อปลา, เนื้อสัตว์, ไข่ และถั่ว
- เล็มปลายผมบ้าง
การเล็มปลายผมจะช่วยให้เราได้เช็คว่า สุขภาพของปลายเส้นผมเราเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าไม่แข็งแรง แห้งเสีย แนะนำให้ตัดทุกๆ 2 เดือนเลยค่ะ เพื่อที่จะกำจัดผมเสียและรักษาผมที่สุขภาพดีไว้
- ใช้กันแดดสำหรับเส้นผมบ้าง
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เส้นผมของเราเสีย และสีซีดเร็วก็คือแสงแดดนั่นเองค่ะ เพราะจะทำให้เส้นผมของเราร้อน จนเสียความชุ่มชื้น ผมแห้งได้ ปัจจุบันนี้ก็มีแฮร์สเปรย์หลายยี่ห้อเลยที่ผสมสารกัดแดดไว้ด้วย
นี่ก็เป็นเคล็ดลับของการดูแลเส้นผม ให้ผมสวยสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยตัวเองนะคะ ขั้นตอนอาจจะดูยุ่งยากแต่ที่จริงผมของเราเนี่ยก็ต้องการการใส่ใจไม่แพ้กับผิวหน้า ผิวกายเลย สาวๆ คนไหนที่กังวลเรื่องผมเสีย ผมไม่มีน้ำหนัก ลองทำตามเคล็ดลับที่พี่อะเครุเอามาฝากกันดูนะ
Beauty Product Analyzer/Writer เป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับครื่องสำอางถูกและดี ราคา คอยอัพเดทเทรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ชอบลองของใหม่ๆ เลยอยากแนะนำให้คนอื่น จึงเริ่มเขียนรีวิวแนะนำเครื่องสำอางที่ดีและคุ้มค่ามากว่า 7 ปีแล้ว ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับทริคที่ช่วยให้สาวๆ มีสุขภาพดี และชื่นชอบนักร้องและวงการเพลง K-pop กว่า 10 ปี