Now Reading
มัดรวม 12 รองพื้นงานผิว 2023 พร้อมเสิร์ฟผิวปังเป็นธรรมชาติ

มัดรวม 12 รองพื้นงานผิว 2023 พร้อมเสิร์ฟผิวปังเป็นธรรมชาติ

เข้าใกล้เดือนเมษาแบบนี้ สาวๆ สัมผัสได้ถึงลมร้อนที่กำลังมากันไหมคะ อากาศร้อนชื้นแบบประเทศเรานี่แหละเป็นตัวทำลายเมคอัพได้สุดจริงๆ วันนี้พี่อะเครุอยากชวนมาส่องเมคอัพรองพื้นงานผิว 12 แบรนด์ ที่ทาแล้วได้ฟีลลิ่งผิวจริง ไม่หนาจนเกินไป แถมได้ลุคผิวสวยแบบธรรมชาติ หน้าร้อนแบบนี้หันมาเซตเมคอัพเบาๆ สบายๆ ปาดเหงื่อแล้วไม่เยิ้มกันดีกว่า ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ระดับการปกปิดของรองพื้น

พี่อะเครุเชื่อว่าสาวๆ ต้องมีเกณฑ์การเลือกซื้อรองพื้นประจำตัวอยู่แน่ๆ ไม่ว่าจะเรื่องความติดทน การควบคุมความมัน ฯลฯ แต่วันนี้พี่อะเครุจะมาพูดถึงระดับการปกปิดของรองพื้นที่ทุกคนสามารถใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อรองพื้นได้ เพราะการปกปิดนั้นมีผลต่องานผิวของเรานั่นเอง ระดับการปกปิดจะมีตั้งแต่น้อยสุดไปจนถึงมากสุดตามนี้เลย

  • Light Coverage ปกปิดแบบบางเบาหรือน้อยมาก ในระดับนี้การปกปิดจะตามชื่อของเค้าเลย คือปกปิดได้น้อย รองพื้นจะมีแค่สีจางๆ มักพบได้ในพวกซีซีครีม ทินท์มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมกันแดดโทนอัพ ปกปิดได้แค่ริ้วรอยต่างๆ ที่สีไม่เข้มมาก
  • Medium Coverage ปกปิดแบบปานกลาง ในระดับนี้มักพบได้กับรองพื้นทั่วไปคือจะมีการปกปิดริ้วรอย รอยดำ รอยแดง หรือรูขุมขนต่างๆ ได้ในระดับปานกลาง มีข้อดีคือถ้าหากทารองพื้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเลเยอร์ในบางจุดสามารถปกปิดได้ถึงระดับสูงสุดเลยนะ
  • Full Coverage ปกปิดแบบขั้นสุด รองพื้นในระดับนี้จะสามารถปกปิดได้ถึงขั้นสูงสุด เรียกได้ว่ากลบมิดทุกริ้วรอยและร่องลึก ในบางแบรนด์อาจใช้ปกปิดรอยสักได้ ปกปิดได้ด้วยตัวของรองพื้นเองไม่ต้องใช้คู่กับคอนซีลเลอร์หรือคัลเลอร์ คอเร็กเตอร์

ถ้าถามว่าอยากได้รองพื้นงานผิว รองพื้นผิวสวย แต่ไม่หนา ไม่แน่น ไม่หนักหน้า ทารองพื้นแล้วยังมีความเป็นผิวอยู่ต้องเลือกระดับไหน พี่อะเครุแนะนำระดับ Medium Coverage ไปเลยค่ะ เนื่องจากสามารถปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้สาวๆ รู้สึกอึดอัดหรือแน่นผิวหน้าจนเกินไปด้วยค่ะ

ทารองพื้นยังไงไม่ให้เป็นคราบ

ไม่ว่าเราจะซื้อรองพื้นมาคุณภาพดีหรือราคาแพงขนาดไหน ต้องมีสักครั้งที่ประสบปัญหาลงรองพื้นแล้วเป็นคราบระหว่างวันใช่ไหมคะ วันนี้พี่อะเครุขอแชร์ทริคการลงรองพื้นง่ายๆ ให้สาวๆ ได้ทำตามและมีงานผิวที่สวยธรรมชาติ ปาดเหงื่อแล้วไม่เป็นคราบกัน

  1. ลงสกินแคร์ การลงสกินแคร์เตรียมผิวถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญมากเพื่อช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นและไม่แห้ง หากลงรองพื้นขณะผิวแห้งจะทำให้เกิดคราบทันที แต่ไม่ควรลงสกินแคร์เยอะเกินไปเนื่องจากจะทำให้รองพื้นไม่ติดทนและผิวหน้ามีความมันเพิ่มขึ้น
  2. เลือกรองพื้นที่เกลี่ยง่าย เนื้อของรองพื้นถือว่าเป็นตัวหลักที่ช่วยให้ผิวของเราสวยเนียน ถ้าหากเลือกรองพื้นที่เนื้อแห้ง แมตต์ และเกลี่ยยากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดคราบได้เช่นกัน
  3. เริ่มลงรองพื้นน้อยๆ ขั้นตอนการทารองพื้นที่จะทำให้ผิวเราสวยเป็นธรรมชาติ คือเริ่มจากการลงปริมาณน้อยๆ หรือปริมาณที่พอเหมาะไปทีละโซนค่ะ โดยอาจะเริ่มจากหน้าแก้ม หน้าผากและคางตามลำดับ หากลงเยอะตั้งแต่ขั้นตอนแรกจะทำให้ผิวเราดูหนาไปและเป็นคราบระหว่างวันได้
  4. เซตแป้งเบาๆ หลังจากที่ลงรองพื้นแล้ว พี่อะเครุแนะนำให้เซตแป้งเบาๆ ตามโดยใช้แปรงปัดลงบนใบหน้าแทนการใช้พัฟ โดยเน้นปัดเฉพาะบริเวณทีโซนหรือที่ที่มีความมันมาก หากใช้พัฟปาดแป้งแล้วอัดทั่วหน้า ระหว่างวันรับรองว่าหน้าต้องเป็นคราบแน่นอน
  5. ฉีดสเปรย์น้ำแร่ เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเราในขั้นตอนสุดท้ายด้วยสเปรย์น้ำแร่ ในขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผิวของเราไม่มีความเป็นแป้ง ออกแดดแล้วหน้าไม่เป็นคราบอีกด้วย

12 รองพื้นงานผิว ปกปิดปานกลาง ให้ผิวสวยธรรมชาติ

1. SUQQU The Liquid Foundation

มาเปิดกันที่รองพื้นจากทางฝั่งเอเชียอย่างรองพื้น SUQQU กันบ้าง ตัวนี้เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสในหมู่บิวตี้บล็อกเกอร์เลยค่ะ ด้วยความที่เป็นรองพื้นเกลี่ยง่าย เนื้อนุ่มลื่นแบบนี้ ทำให้ทาแล้วได้งานผิวแบบเบาสบายๆ แต่ติดทนดีเยี่ยม ระดับการปกปิดอยู่ที่ Meduim Coverage แต่ก็สามารถบิวท์อัพได้จนถึง Full Coverage เลยนะ

ผลิตภัณฑ์ SUQQU The Liquid Foundation
จุดเด่น● รองพื้นเนื้อนุ่ม
● เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
● ทาแล้วไม่หนักหน้า
● ปกปิดระดับปานกลาง
ราคา/ปริมาณ3,800 บาท/ 30 มล.
พิกัดcentral

Sasiprapa Laepong: โดนป้ายยาในนี้เยอะจริงๆ กับเจ้ารองพื้น suqqu The Liquid Foundation ไปสอยมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ น้องเป็นรองพื้นเกลี่ยง่ายมากกกก กไก่ล้านตัว เนื้อสัมผัสบางเบา เนียนไปกับผิวเลยย

Facebook

2. Giorgio Armani Luminous Silk Foundation

โยกย้ายกันมาที่แบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์กับ Giorgio Armani Luminous Silk Foundation รองพื้นที่พี่อะเครุยกให้เป็น Must have ที่สาวๆ ควรมีไว้ขวกหนึ่งในชีวิตเลย มาพร้อมกับสัมผัสดุจผ้าไหม ทาแล้วได้ผิวแมตต์แต่เป็นแมตต์ที่ไม่แห้ง ทาแล้วผิวไม่เป็นคราบ มีฟีลลิ่งของความเบาสบายและความเป็นผิวอยู่ เรื่องของการปกปิดพี่อะเครุยกให้เป็นการปกปิดระดับสูงสุดกลบอยู่ทุกรอยไปเลย

ผลิตภัณฑ์Giorgio Armani Luminous Silk Foundation
จุดเด่น● เนื้อแน่นแต่ให้งานผิว
● เกลี่ยง่าย
● ปกปิดค่อนข้างสูง
● คุมมันเริ่ด
ราคา/ปริมาณ2,500 บาท/ 30 มล.
พิกัดcentral

Vanida Jettanameth: สรุปความปังของ Giorgio Armani Luminous Silk Perfect Glow Flawless Foundation งานผิวสวยยืน 1 ไม่เป็นคราบ ไม่ดรอป ปกปิด คุมมัน

Facebook

3. SHU UEMURA Unlimited Fluid Foundation

รองพื้น SHU UEMURA ที่มาในขวดไซซ์น่ารักปุ๊กปิก เห็นแบบนี้แล้วก็เสิร์ฟงานผิวได้สวยเป๊ะเป็นธรรมชาติมาก เนื่องจากมีเนื้อที่บางเบาเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าน้อยๆ ไม่แน่นมาก เมื่อทารองพื้นไปสักพักจะรู้สึกได้ว่าเนื้อกลืนไปกับผิวเราเหมือนเป็นผิวจริงๆ เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์SHU UEMURA Unlimited Fluid Foundation
จุดเด่น● เนื้อบางเบา
● กลืนไปกับผิว
● เนื้อค่อนข้างแมตต์
● ปกปิดรอยดำต่างๆ ได้ปานกลาง
ราคา/ปริมาณ2,200 บาท/ 35 มล.
พิกัดcentral

Pimwimon Takenaka: รีวิวรองพื้น Shu uemura unlimited ที่โดนเพื่อนๆ ในกลุ่มนี้ป้ายยามาค่า ปกติเราใช้รองพื้นของชูรุ่น lightbulb ก็ชอบอยู่แล้ว มาลองตัวนี้ก็ชอบพอๆ กันเลยค่า

Facebook

4. KANEBO Lively Skin Wear

รองพื้น KANEBO Lively Skin Wear ตัวนี้มาในแพ็กเกจจิ้งที่ใหม่มากคือมาในตลับ เนื้อสัมผัสแรกที่ทาคือได้รับรู้ถึงความนุ่มที่คล้ายๆ เจลลี่แต่ยังคงเป็นเมคอัพอยู่ หลังจากที่ได้ทาลงบนผิวแล้วผิวจะโกลว์ฉ่ำขั้นสุด ได้ลุค Glass skin แบบสาวเกาหลี สาวๆ คนไหนที่ผิวแห้งถึงแห้งมากและต้องเมคอัพงานผิวที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน ตลับนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์KANEBO Lively Skin Wear
จุดเด่น● เนื้อฉ่ำวาว
● เหมาะสำหรับผิวแห้งถึงแห้งมาก
● ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง
● ปกปิดได้ดี
ราคา/ปริมาณ3,800 บาท/ 35 มล.
พิกัดcentral

PiinkSo รีวิวรัว: ที่มาของคำว่าผิวใสงานผิวกระจก ผิวสวยแบบคนสำลักความสุขจนล้นออกปาก ที่สุดของงานผิวลัคชู งานผิวใสกิ๊งแบบนี้จริงๆเสกได้ด้วยมือเราค่ะซิส

Facebook

5. CLÉ DE PEAU BEAUTÉ
Radiant Fluid Foundation Natural

รองพื้นผิวแพงอีกหนึ่งตัวจากแบรนด์ CLÉ DE PEAU BEAUTÉ ตัวนี้ทาแล้วเหมือนกับเปิดไฟใส่ฟิลเตอร์ให้ผิวสมกับชื่อรุ่น ผิวของเราจะดูมีออร่าบางอย่างที่ทำให้คนมองแล้วรู็สึกว่าผิวสวยจริงๆ ค่ะ เนื้อสัมผัสเป็นเนื้อกึ่งแมตต์กึ่งโกลว์แต่ก็ไม่มีความฉ่ำหรือมันเยิ้มเกินไปหลังทา ความปกปิดอยู่ที่ระดับปานกลาง ใครไม่ซีเรียสเรื่องรอยดำต่างๆ ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้เลย

ผลิตภัณฑ์CLÉ DE PEAU BEAUTÉ
Radiant Fluid Foundation Natural
จุดเด่น● เนื้อกึ่งแมตต์
● ทาแล้วผิวกระจ่างมีออร่า
● ติดทน 24 ชั่วโมง
● ปกปิดปานกลาง
ราคา/ปริมาณ4,300 บาท/ 35 มล.
พิกัดcentral

Natthanun Rungrojkonjanard: นางไม่มีดรอปลงเลย ผ่องยังไง ยังงั้น ดังนั้นคำเคลมว่า “Radiant” คือ ยกให้เลย เพราะทำได้จริง ที่ราคาโดดกว่าเคาเตอร์แบรนด์อื่นๆ ก้อเห็นว่าจะเพราะ Performance ในด้านนี้แหละ

Facebook

6. Hourglass Ambient Soft Glow Foundation

รองพื้น Hourglass รุ่นใหม่อย่าง Ambient Soft Glow Foundation ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งรองพื้นงานผิวที่ให้ผิวสวยแบบธรรมชาติ มีความโกลว์ในแบบที่พอดี เนื้อกึ่งแมตต์นิดๆ เหมาะกับอากาศเมืองไทย ทาแล้วไม่เยิ้มหรือทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น จึงเป็นข้อดีที่ทำให้ผิวเราไม่มีคราบความมันเกาะที่บริเวณทีโซนระหว่างวันนั่นเอง แอบบอกว่าความติดทนตัวนี้ก็เริ่ดอยู่นะ

ผลิตภัณฑ์Hourglass Ambient Soft Glow Foundation
จุดเด่น● เนื้อกึ่งแมตต์กึ่งโกลว์
● เกลี่ยง่าย
● ไม่เป็นคราบระหว่างวัน
● ปกปิดปานกลางถึงมาก
ราคา/ปริมาณ2,350 บาท/ 30 มล.
พิกัดSephora

Chananya Chanachaiporn: รองพื้นตัวนี้เกิดปัญหานี้น้อยมากค่ะ แทบไม่ตกร่องเลย ติดทนนาน ผิวสวย รองพื้นในฟินิชที่แมท แต่มีการเล่นแสงสมกับชื่อ soft glow เลย

Facebook

7. Dior Forever Skin Glow

Dior Forever Skin Glow รองพื้น Dior รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อจากรุ่นเนื้อแมตต์ สำหรับใครที่รู้สึกว่ารุ่น Foever Skin แมตต์จนเกินไปก็ต้องหันมาลองรุ่นนี้เลยค่ะ เนื้อจะมีความลื่น เกลี่ยง่าย แต่พอทาลงบนผิวแล้วเนื้อจะเซตตัวประหนึ่งกับเป็นรองพื้นเนื้อแมตต์แต่พอมองดูผิวแบบใกล้ๆ แล้ว ผิวของเราจะดูอิ่มน้ำมาก เหมือนกับเราทาสกินแคร์บำรุงมาเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า Dior ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

ผลิตภัณฑ์Dior Forever Skin Glow
จุดเด่น● เนื้อโกลว์
● ทาแล้วผิวโกลว์อิ่มน้ำ
● ผิวชุ่มชื้น 24 ชั่วโมง
● ไม่อุดตันผิว
ราคา/ปริมาณ2,750 บาท/ 30 มล.
พิกัดDior

OnnBaby – Beauty, Lifestyle & Fine-Dining:ตัวนี้เนื้อเค้าบางเบา ทาบางๆก็ได้ลุคงานผิว หรือถ้า Build Layer เพิ่มนิด ก็ได้ความกริบที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ดูหนา ที่สำคัญตัวนี้ใช้ตั้งแต่เช้ายันเย็น ยันค่ำ ยันดึก

Facebook

8. Bobbi Brown Intensive Serum Foundation
SPF 40 PA++++

ใครอยากได้รองพื้นที่มี SPF ช่วยกันแดดต้องหันมาลองรองพื้น Bobbi Brown Intensive Serum Foundation เนื้อของรองพื้นตัวนี้จะมีความเหลวคล้ายกับเซรั่มตามชื่อรุ่นเลย ทาลงบนผิวหน้าแล้วต้องอาศัยความเร็วในการเกลี่ยนิดหน่อย แต่ข้อดีคือเมื่อเนื้อเหลวแล้วทำให้การเบลนด์รองพื้นง่ายขึ้นไปอีกระดับและเนื้อรองพื้นซึมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับผิวเราได้ดีเลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์Bobbi Brown Intensive Serum Foundation SPF 40 PA++++
จุดเด่น● รองพื้นเนื้อเซรั่ม
● เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย
● ปกปิดปานกลาง
● มี SPF 40 PA++++
ราคา/ปริมาณ2,850 บาท/ 30 มล.
พิกัดBobbi Brown

สำหรับรองพื้นตัวนี้นะคะ เบลว่าปกปิดระดับปานกลาง บิ้วได้นิดหน่อย ในรูปคือเบลทาแบบบางๆเลย แล้วเซตแป้งฝุ่นแค่บริเวณที่มันง่ายๆนะคะ เพราะเบลผิวค่อนไปทางแห้ง พอเซตประมาณนี้ผิวคือออกกกมาแบบสวยเลย

Facebook

9. NARS Light Reflecting Foundation

มาถึงรองพื้นแบรนด์ Must have ที่สาวๆ ควรมีไว้อีกหนึ่งกับ NARS Light Reflecting Foundation รุ่นนี้จะไม่เหมือนกับรุ่น Sheer Glow นะคะ เพราะว่าเนื้อสัมผัสจะไม่มีความฉ่ำแต่เมื่อทาแล้วรองพื้นจะเล่นแสงได้ดี ยิ่งตอนออกงานโดนแสงไฟคือจึ้งมากแม่ ทริคแนะนำของพี่อะเครุคือใช้ตัวนี้คู่กับแป้ง Light Refelcting สีรุ้งของเค้าคือบอกเลยว่าผิวสวยแบบฟ้าประทาน

See Also

ผลิตภัณฑ์NARS Light Reflecting Foundation
จุดเด่น● รองพื้นเนื้อแมตต์
● เล่นแสงสวย
● ปกปิดปานกลางถึงมาก
● เกลี่ยง่าย ติดทนนาน
ราคา/ปริมาณ2,200 บาท/ 30 มล.
พิกัดNARS

Kae Suparat: ชอบของ NARS ค่ะ ผิวสวย ยิ่งปัดกะแป้งนางฟ้าถ่ายรูปออกมาสวยเว้อ

Facebook

10. TOM FORD Shade And Illuminate Soft Radiant Foundation
SPF 50/PA++++

รองพื้น TOM FORD รุ่นนี้จะเป็นเนื้อสัมผัสที่ทาแล้วให้ฟินิชชิ่งผิวที่มีความกระจ่างและมีออร่าระยิบระยับเล็กน้อยถึงแม้ว่าจะไม่มีกลิตเตอร์ผสมอยู่ก็ตาม ความดีงามคือมี SPF 50 PA++++ ซึ่งถือว่าเทียบเท่าครีมกันแดดเลย เนื้อรองพื้นเล่นแสงสวย ยิ่งออกแดดแล้วยิ่งมีออร่า และที่สำคัญก็ไม่ต้องกลัวหน้าดำอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์TOMFORD Shade And Illuminate Soft Radiant Foundation
SPF 50/PA++++
จุดเด่น● เนื้อกึ่งแมตต์กึ่งโกลว์
● เกลี่ยง่าย
● ปกปิดปานกลาง
● ติดทนปานกลาง
ราคา/ปริมาณ5,200 บาท/ 30 มล.
พิกัดSephora

สุกฤตา รติธรรมานนท์:ใช้แล้วผิวสวยมากกกกกกกกก เป็นธรรมชาติ ติดทนพอสมควร ปกปิดดีเลย ไม่หนา ไม่เป็นคราบ ต้องซื้ออีกแน่นอน ถึงราคาสูงแต่ได้ฟินิชลุดสวย แต่งออกงานก็สวยมาก

Sephora

11. SHISEIDO Syncro Skin Self-refreshing Foundation

รองพื้น SHISEIDO Syncro Skin Self-refreshing Foundation ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรองพื้นงานผิวจากทางฝั่งเอเชียที่ทาแล้วผิวดูเนียนเป๊ะ รุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่ทำให้เราทาแล้วรู้สึกเบา มีอากาศผ่านผิวได้ดี ไม่แน่นหรือหนักจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ปกปิดรอยต่างๆ ได้ดีและสามารถเพิ่มเลเยอร์การปกปิดได้ถึงขั้นสุดและยังเป็นรองพื้นที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังอีกด้วยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ SHISEIDO Syncro Skin Self-refreshing Foundation
จุดเด่น● เนื้อเบาไม่หนักหน้า
● กลืนเป็นส่วนหนึ่งกับผิวได้ดี
● ปกปิดปานกลาง
● ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง
ราคา/ปริมาณ2,000 บาท/ 30 มล.
พิกัดSHISEIDO

Sp Saypan: เนื้อเบาบาง ปกปิดกลางๆค่ะ ต้องใช้ concealer ช่วย เป็น Medium นะ ไม่ full เท่าไหร่
แต่เนื้อเบาสบายผิว ไม่เหนียว ไม่หนัก ติดทนดีค่ะ

Facebook

12. LANCOME Tient Idole Ultra Wear Foundation

ถ้าพูดถึงรองพื้นที่คุมมันเริ่ดพี่อะเครุขอยกให้ตัวนี้เลยค่ะ LANCOME Tient Idole Ultra Wear Foundation สาวหน้ามันที่ต้องทัชอัพหน้าหรืออัดแป้งเยอะๆ เพื่อควบคุมความมันต้องหันมาลองใช้รองพื้นตัวนี้ดู รับรองว่าไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซับหน้าทุกครึ่งชั่วโมง ถึงจะคุมมันได้ดีข้ามวันแต่ก็ไม่ให้ลุคผิวหน้าที่ดูเป็นรองพื้นหนาๆ เลยค่ะ ยังมีความเป็นผิวอยู่นะ

ผลิตภัณฑ์LANCOME Tient Idole Ultra Wear Foundation
จุดเด่น● เนื้อบางเบา
● ได้ลุคผิวแมตต์
● คุมมันได้ดี
● ติดทนปานกลาง
ราคา/ปริมาณ2,300 บาท/ 30 มล.
พิกัดLANCOME

Leena Bml: Lancome เนื้อบาง เกลี่ยง่าย ผิวแมทค่ะ คุมมันดีมาก *เป็นคนผิวผสมค่ะ

Facebook

ลงรองพื้นด้วยแปรงหรือฟองน้ำดีกว่ากัน?

นับว่าเป็นประเด็นดีเบตที่เป็นกระแสทุกยุคทุกสมัยของสาวๆ เลยก็ว่าได้ “ลงรองพื้นด้วยแปรงหรือฟองน้ำดีกว่ากัน?” จริงๆ แล้วการลงรองพื้นด้วยอุปกรณ์สองอย่างนี้ก็ดีด้วยกันทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับวิธีการลงของแต่ละคนค่ะ แต่เรียกง่ายๆ ว่าให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันดีกว่า ซึ่งฟองน้ำกับแปรงก็มีข้อดีต่างกันตามนี้

  • ข้อดีของการลงรองพื้นด้วยแปรง คือสามารถลงได้รวดเร็วในพื้นที่เยอะ เนื่องจากเราสามารถปาดเป็นแนวกว้างในผิวหน้าเราได้ ลงแล้วผิวจะเรียบเนียน แน่น และกริบกว่า
  • ข้อดีของการลงรองพื้นด้วยฟองน้ำ คือเมื่อลงเสร็จแล้วผิวของเราจะดูสวยเป็นธรรมชาติ เนื่องจากการลงด้วยฟองน้ำนั้นจะต้องใช้การแท็บไปที่ผิว มากกว่าด้วยการเกลี่ยหรือปาดรองพื้นออกไปเรื่อยๆ ทำให้เนื้อรองพื้นกลืนไปกับผิวเราได้ดี

ถ้าหากสาวๆ ชอบวิธีไหนก็อย่าลืมไปลองทำตามและสังเกตผลลัพธ์บนผิวหน้าของเราดูนะคะ

เรียกได้ว่าวันนี้จัดเต็มแบบเน้นๆ กันกับงานผิวอีกแล้ว การมีรองพื้นที่ดีก็เหมือนมีมิตรคู่ใจที่ช่วยกันซัพพอร์ตความสวยยิ่งขึ้น อ่านแล้วอย่าลืมจดลิสต์หรือแชร์เก็บไว้กันด้วยน้า จะได้ไปตำถูกตัว ครั้งหน้าจะมาชี้เป้าไอเทมเด็ดอะไรอีก ติดตามกันได้เลย

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top