Now Reading
บุคคล 5 ประเภทที่ไม่ควรทาน ‘เมล็ดเจีย’ รู้ไว้ก่อนเกิดผลร้ายต่อสุขภาพ!

บุคคล 5 ประเภทที่ไม่ควรทาน ‘เมล็ดเจีย’ รู้ไว้ก่อนเกิดผลร้ายต่อสุขภาพ!

สำหรับคนรักสุขภาพที่เลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นประจำ คงไม่มีใครไม่รู้จักเมล็ดเจีย (Chia Seed) หนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หน้าตาคล้ายเม็ดแมงลัก หลายคนนิยมนำมาทานเพื่อลดน้ำหนักซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก แต่การทานเมล็ดเจียก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคน ในทางกลับกันอาจส่งผลร้ายแรงทำลายสุขภาพได้ โดยเฉพาะคนบางกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพบางประการ วันนี้เราจึงนำข้อมูลมาบอกต่อกันค่ะว่าใครที่ไม่ควรทานเมล็ดเจียบ้าง? มาดูถึงอันตรายและข้อเสียที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพกันค่ะ

เมล็ดเจียส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร

เมล็ดเจียทุกๆ 100 กรัมอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินบี แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส และสังกะสี ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก อย่างไรก็ตามสารอาหารมากมายในเมล็ดเจียสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงในผู้ป่วยบางรายได้ ดังนั้นควรระวังและเช็กสุขภาพตัวเองทุกครั้งก่อนที่จะรับประทาน

บุคคลที่ไม่ควรทานเมล็ดเจีย

1. คนที่มีปัญหาภาวะเลือดแข็งตัวช้า

เนื่องจากเมล็ดเจียอุดมไปด้วย Omega-3 (กรดไขมัน) ที่มีผลทำให้ความเข้มข้นของเลือดเจือจาง ส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ คนที่ต้องเข้ารับการศัลยกรรม หรือมีประวัติการใช้ยาแอสไพรินจึงไม่ควรทานเมล็ดเจีย เพราะจะยิ่งทำให้หลอดเลือดบางลง ซึ่งอาจมีผลต่อการเกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า เลือดไหลไม่หยุด ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานผิดปกติ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดเจีย

 

2. ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ

รายงานจากโรงพยาบาลเซนต์ไมเคิลในแคนาดาชี้ให้เห็นว่าเมล็ดเจียมีผลต่อการลดความดันโลหิต ทำให้ความดันลดลง ดังนั้นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำจึงไม่ควรบริโภคเมล็ดเจีย เพราะมีผลต่อแรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว อาจก่อให้เกิดอาการช็อกหรือหมดสติได้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิต ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตจะต้องระมัดระวังในการรับประทานเมล็ดเจียและพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเมล็ดเจียเป็นส่วนประกอบด้วย

3. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

เมล็ดเจียเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง ซึ่งประมาณ 1/4 สามารถละลายน้ำได้และ 3/4 ไม่สามารถละลายน้ำ เส้นใยที่ละลายน้ำสามารถให้พลังงานที่ช่วยให้จุลินทรีย์โปรไบโอติกในลำไส้ทำงานได้ดี และเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำสามารถช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ใหญ่ได้ แต่สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ทั้งกระเพาะและลำไส้ทำงานไม่ปกติ หากทานเมล็ดเจียเส้นใยจากเมล็ดเจียจะขยายตัวในกระเพาะอาหาร และไปกระตุ้นให้ตับอ่อนเร่งสร้างน้ำย่อยออกมา ทำให้เกิดกรดแน่นในช่องท้อง มีแก๊สในกระเพาะอาหาร รู้สึกแสบร้อนกลางอก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการรับกากใยอาหารที่มากและเร็วไป ทำให้ไม่สบายท้อง รู้สึกอึดอัดแน่นท้องอยู่ตลอดเวลา

See Also

4. คนที่แพ้ถั่วและธัญพืช

เมล็ดเจียเป็นธัชพืชที่อุดมไปด้วยโปรตีน หากใครมีปัญหาแพ้เมล็ดงา สะระแหน่ มัสตาร์ด หรือโรคแพ้โปรตีนในธัญพืชก็ไม่ควรทานเมล็ดเจียด้วยเช่นกัน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นพืชสมุนไพรในตระกูลเดียวกัน เมื่อแพ้ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการบวมของลิ้น และเกิดอาการแพ้อื่นๆ ตามมา หากมีอาการแพ้ถั่ว ธัญพืช หรือมัสตาร์ดเป็นทุนเดิมก็ควรหลีกเลี่ยงการทานเมล็ดเจียนะคะ

5. ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก

เนื่องจากเมล็ด Chia มีกรด alpha-linolenic จากการศึกษาได้ชี้ให้เห็นว่ากรด alpha-linolenic อาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่างเช่น คุณผู้ชายทั้งหลายหรือกลุ่มคนที่คนครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดเจียในปริมาณมากๆ กันด้วยนะ

เมนูสุขภาพที่คนอื่นนิยมกันอาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับเราเสมอไป เช็กสภาพร่างกายตัวเองกันสักนิด ก่อนจะทานอะไรตามคนอื่นด้วยนะคะ ทั้งนี้ไม่ว่าจะทานอะไรก็ควรทานอย่างระมัดระวัง อาหารทุกอย่างมีทั้งให้ประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับการเลือกบริโภคให้เหมาะสมในปริมาณที่พอดี เพียงเท่านี้ก็ช่วยสร้างสุขภาพที่ดีได้แล้วล่ะค่ะ

ที่มา: sundaymore
ที่มาภาพ: flaviapandoramadogkaerlighedsteptohealthgesundnewdaywellness1boonwattpadbemy1insolvelykimnahee,weheartit.1weheartit.2i.pinimg
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top