Now Reading
รู้ลึก!! การออกเดทและการแต่งงานในญี่ปุ่น

รู้ลึก!! การออกเดทและการแต่งงานในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นและอเมริกามีมุมมองเรื่องการออกเดทและการแต่งงานที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย การแต่งงานในประเทศญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งขึ้นอยู่กับบทบาททางเพศที่เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากจากมุมมองของขงจื๊อ อันที่จริงแล้วเราเองก็ยังไม่ค่อยเขาใจในมุมมองนี้เท่าไหร่ แต่หากคุณผู้อ่านสนใจก็สามารถลองหาข้อมูลเรื่องนี้เพิ่มได้

วัฒนธรรมการออกเดทของญี่ปุ่น

Women pray for good relationships or good luck in love during "Tanabata", or the Star festival, at Jishu shrine in Kyoto, western Japan July 7, 2007. The shrine is dedicated to the god of love and matchmaking, and the festival is to celebrate the meeting of Vega and Alter, which happens once a year on the seventh day of the seventh lunar month of the lunisolar calendar over the Milky Way, based on a Chinese legend. REUTERS/Kiyoshi Ota (JAPAN)

ผู้หญิงจะมาอธิษฐานขอพรเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีและโชคดีเรื่องความรักในเทศกาลทานาบาตะ (Tanabata) หรือเทศกาลแห่งดวงดาวที่ศาลเจ้าจิชุ (Jishu Shrine) ในเกียวโต ที่มา: Reuters

จุดประสงค์ของการเดทก็คือเพื่อทำความรู้จักกับใครบางคน แม้ว่ากฎของการออกเดท การจีบ จะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเทศ แต่อย่างไรจุดประสงค์ของมันก็ยังคงเหมือนเดิม มีไม่กี่หลักความคิดของการเดทในญี่ปุ่นและอเมริกาที่เป็นแบบเดียวกัน ความคิดเหล่านี้เป็น คำแนะนำที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหาการพัฒนามิตรภาพและความสัมพันธ์ที่โรแมนติก เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

  1. แสดงออกถึงความสนใจในคนๆ นั้น อยากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเขาหรือเธอมากขึ้นอย่างจริงจัง
  2. ฟังคนๆ นั้น อย่าเพียงแค่ได้ยิน
  3. อย่าจู่โจมทางกายภาพมากเกินไป เพราะมันจะทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงได้

ความใกล้ชิดทางกายภาพ – Sex

large (1)

source: weheartit

เราจะมาขยายความจากข้อ 3 ด้านบนกัน สิ่งนี้เป็นหนึ่งจุดที่แตกต่างกันระหว่างประเพณีการเดทของคนญี่ปุ่นและคนอเมริกัน งานวิจัยหลายชิ้นได้พบความสัมพันธ์กันของระยะเวลาที่คู่รักรอคอยที่จะมีเพศสัมพันธ์กับลักษณะความสัมพันธ์ของพวกเขา คู่ที่รอคอยจนถึงวันแต่งงานได้ถูกบันทึกว่ามีความพึงพอใจสูงสุดและมีคุณภาพที่ดีกว่า

            การศึกษานี้พบว่า คู่รักที่รอคอยมานานขณะที่ออกเดท โดยที่ไม่มีเรื่องทางเพศมาเกี่ยวข้อง ทำให้ความสัมพันธ์หลังแต่งงานของพวกเขาที่ดีกว่าเดิม ในความจริงแล้วคู่ที่มีการรอคอยจนถึงแต่งงานเพื่อที่จะมีเพศสัมพันธ์เมื่อเปรียบเทียบกับคู่ที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงเริ่มต้นของความสัมพันพันธ์พบว่า จะมีความพอใจในการแต่งงานมากกว่า, รูปแบบการสื่อสารที่ดีกว่า, มีอัตราการหย่าร้างที่น้อยกว่า และคุณภาพในทางเพศก็ดีกว่าด้วย

และนั่นจึงนำไปสู่จุดที่แตกต่างกันระหว่างการเดทของคนญี่ปุ่นและคนอเมริกัน ความใกล้ชิดทางกายภาพเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน ทั้งการจูบ จับมือ และเพศสัมพันธ์จะยังไม่เกิดขึ้นจนกระทั่งมีการ kokuhaku หรือการสารภาพผ่านไปแล้ว แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นกับคู่รักหลายคู่ที่ความใกล้ชิดทางกายภาพพัฒนาไปอย่างช้าๆ

การแสดงออกถึงความใกล้ชิดทางกายภาพในที่สาธารณะเป็นข้อห้าม สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาที่ล่าช้า (ในสายตาคนอเมริกัน) ด้านทางกายภาพของการเดท ในอเมริกา มันเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงออกถึงความสนใจใครสักคนผ่านการสัมผัส, การจูบ, การจับมือ, และอื่นๆ แต่สิ่งมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ในญี่ปุ่นนะ อย่างไรก็ตาม ความคิดเรื่อง Uchi-soto ยังมีความสำคัญอย่างมากกับคนญี่ปุ่น

Uchi-soto

moedate5-415x260

source: www.tokyo-foreigners.com

นี่เป็นแนวคิดที่แสดงพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นในที่สาธารณะ สังคมญี่ปุ่นกดดันให้คนมีความเคารพและนึกถึงผู้อื่น แม้แต่ค่าใช้จ่ายเรื่องความต้องการของคุณเอง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการแสดงออกเรื่องความรักในที่สาธารณะถึงเป็นข้อห้าม ความคิดเรื่องความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาของคนตะวันตกถูกมองเป็นว่าเป็นทั้งเรื่องน่าสนใจและเป็นปัญหา สิ่งนี้เรียกว่า amae อะมะเอะ (Amae : 甘え) เป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงความปรารถนาที่จะได้รับความรักหรือเอาใจใส่ของคุณ มันเกี่ยวข้องกับการที่ผู้คนที่พยายามอ่านความรู้สึกซึ่งกันและกัน

ผู้ชายญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะมีความซับซ้อนและอ้อมค้อมเมื่อเข้าหาผู้หญิง เพราะบรรทัดฐานทางสังคมเหล่านี้ พวกผู้ชายได้รับการกระตุ้นจากโลกของวงการธุรกิจที่มีความซับซ้อน, มีไหวพริบ, และการคำนึงถึงคนอื่นอย่างมาก นั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อเข้าใกล้ผู้หญิง นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความแตกต่างของวิธีการเดทของคนญี่ปุ่น การออกเดทที่ตามแนวทางที่แตกต่างกว่าเมื่อเทียบกับมาตราฐานตะวันตก และอีกครั้งยังมีข้อยกเว้น

ครั้งแรกมาจากเพื่อน

Gokon4

source: jpninfo.com

ก่อนการออกเดทมีสิ่งที่เรียกว่า gokon หรือการนัดบอดแบบหมู่ กลุ่มเพื่อนได้มารวมกันและพบปะกัน ทำให้แต่ละกลุ่มได้ใช้เวลาร่วมกัน การยินยอมของเพื่อนเวลาออกเดทมักจะเป็นสิ่งที่สำคัญ หลังจากการนัดบอดหลายๆครั้ง มักจะอย่ราวๆครั้งที่ 5 หรือ 6 ก็จะเริ่มมีคนจับคู่กัน แล้วแยกออกไปดื่มกาแฟ ดูหนัง และกิจกรรมทั่วไปเวลาออกเดทอื่นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วจะทำในที่สาธารณะ ทั้งคู่ก็ยังคงไม่ได้ถูกจัดให้เป็นการออกเดท พวกเขาเพียงแค่พยายามค้นหาซึ่งกันและกัน แทนที่จะมีความรู้สึกต่อกันและกัน

ต่อมาเป็นความรัก

large (23)

source: weheartit

kokuhaku หรือการสารภาพ เป็นขั้นต่อไปสำหรับคนที่สนใจซึ่งกันและกัน สิ่งนี้เป็นขั้นตอนของ “การเดท” อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นวิธีที่แปลกในสายตาคนตะวันตก อย่างหนึ่งที่ถูกพูดถึงก็คือทำให้ชาวตะวันตกรู้สึกอึดอัด

kokuhaku คือการสารภาพรักที่เราจะเห็นได้บ่อยๆ ในอะนิเมะ ประโยคว่า “ฉันรักคุณ” หรือ “I love you” เป็นแนวคิดที่แข็งแกร่งในตะวันตก มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะบอกกับใครสักคนที่เราเพิ่งเริ่มต้นเดทด้วย อย่างไรก็ตามในญี่ปุ่น ประโยคนี้ใช้เป็นคำเริ่มต้นการสารภาพสำหรับการเดท ชาวตะวันตกมักจะใช้คำว่า “ฉันชอบคุณ” หรือ “I like you” เพื่อให้อิสระในการตัดสินใจ แต่อย่างไรในภาษาญี่ปุ่นมีคำอยู่ 3 คำที่แปลว่ารัก (好き suki, 大好き daisuki, 愛知てる ai shitteru) ต่างกันแค่การเพิ่มระดับของคำ

ผู้ชายจะถูกคาดหวังให้ทำการสารภาพรัก แต่มันก็ไม่ได้ผิดปกติสำหรับผู้หญิงที่จะทำเช่นกัน

หลังจาก kokuhaku การเดทก็เป็นไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดมากขึ้น อย่างการพบพ่อแม่ และเดทแบบส่วนตัว ส่วนความใกล้ชิดทางกายภาพนั้นจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคู่

แล้วก็มาถึงการแต่งงาน

japanese_wedding_1

source: reddragonflyakatombo.blogspot.com

พิธีกรรมแต่งงานจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการคาดหวังของครอบครัว สิ่งนี้จะไม่แตกต่างจากที่อเมริกามากนัก ต่อไปนี้แทนที่จะพูดถึงสภาพที่เป็นจริงของการแต่งงานในญี่ปุ่น เราจะพูดถึงเทรนและความคิดที่อยู่เบื้องหลังการแต่งงาน

เหมือนกับสังคมส่วนมาก การแต่งงานในญี่ปุ่นถูกจัดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์ของพวกเขา โดยจุดประสงค์ของการแต่งงานคือการสืบทอดเชื้อสาย ผู้หญิงถูกยกให้เป็น “ภรรยาที่ดี หรือ แม่ที่ชาญฉลาด” และเสียสละตัวเองเพื่อประโยชน์ของครอบครัวและประเทศชาติ บทบาททางเพศแบบดั้งเดิมนี้ยังคงมีอยู่ ผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานแล้วรู้สึกว่างานบ้านนั้นไม่เป็นธรรม และในปัจจุบันนี้ผู้ชายญี่ปุ่นมักจะมีส่วนร่วมในการทำงานบ้านด้วย เพราะมุมมองนี้ ทำให้ผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านมักไม่ค่อยถูกมองว่าเป็นผู้รับผิดชอบสมาชิกในบ้าน

ความคิดของคนญี่ปุ่นที่ใกล้เคียงกับหญิงพรหมจรรย์ของคนตะวันตกก็คือ otome (สาวบริสุทธิ์) ความคิดของชาวตะวันตกเรื่องความเป็นหญิงพรหมจารีในการแต่งงานก็คือ ผู้หญิงควรจะรักษาความบริสุทธิ์ไว้สำหรับสามีของเธอ ความคิดนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า การที่ผู้หญิงจะมีเพศสัมพันธ์มันเป็นเรื่องที่ดี ในระหว่างยุคของโทะกุงะวะ (Tokugawa) ทั้งชายและหญิงจะได้รับการพิจารณาเมื่อเป็นผู้ทำผิดประเวณี ผู้หญิงแต่งงานแล้วไม่เหมือนกับผู้ชาย พวกเธอจะถูกลงโทษทัณฑ์ เพราะผู้หญิงถือเป็นทรัพย์สมบัติของสามีและพ่อ การมีชู้เป็นข้อพิพาทด้านทรัพย์สิน ที่การตัดสินใจจะถูกทิ้งไว้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการลงโทษอาจเป็นไปได้ทุกอย่างตั้งแต่โทษปรับไปจนถึงความตาย

เทรนการแต่งงานในญี่ปุ่นสมัยใหม่

weddinghappinessmay3-775x437

source: www.japanbullet.com

See Also

 

เด็กจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพียงอย่างเดียวกับการแต่งงานในญี่ปุ่น โดยทั่วไปการไม่แต่งงานหมายถึงไม่มีเด็ก อย่างที่รู้กันดีว่า ประชากรชาวญี่ปุ่นนั้นได้ลดลง

การลดลงของประชากรมีความเชื่อมโยงกับการแต่งงานที่ลดลง ซึ่งการแต่งงานลดน้อยลงนั้นก็ด้วยเหตุผลที่หลากหลายดังนี้

  1. ผู้ชายที่มีการศึกษาชอบแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า และผู้หญิงที่มีการศึกษาน้อย ส่วนผู้หญิงที่มีการศึกษาก็ไม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายที่มีการศึกษาน้อย อีกทั้งผู้หญิงที่มีการศึกษาก็ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย
  2. ผู้หญิงไม่ชอบความไม่เท่าเทียมกันในการแต่งงาน
  3. ผู้ชายญี่ปุ่นไม่อยากเเต่งงานกับผู้หญิงที่ต้องการแบ่งงานบ้านให้เท่าๆกัน

เพราะปัญหาเหล่านี้ ทำให้มีแนวโน้มที่หลากหลายเพิ่มขึ้น

  1. ผู้หญิงกำลังมีแต่งงานที่ช้ามากขึ้น
  2. มีความสนใจเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานกับผู้ชายตะวันตก
  3. การลดลงของอัตราการแต่งงาน เท่ากับ การลดลงของประชากร

ผู้หญิงกำลังประสบปัญหากับการหาผู้ชายญี่ปุ่นที่เหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าจำนวนของผู้ฆยิงที่มีการศึกษาเพิ่มขึ้น และพวกเธอไม่ชอบบทบาทดั้งเดิมของผู้หญิงในการแต่งงาน ผู้ชายญี่ปุ่นจำนวนมากยังไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของพวกเขาได้

การออกเดทซบเซา

m010100

พวกผู้หญิงญี่ปุ่นสนใจแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้หญิงต่างชาติที่พบว่ามันยากต่ออุปสรรคกับการมีแฟนชาวญี่ปุ่น เพราะว่าปัญหาเดียวกันกับสิ่งที่ผู้หญิงญี่ปุ่นพบเจอ พวกปัญหาเกี่ยวกับการเดทกับชาวต่างชาติ ปัญหาทางด้านอุปสรรคและความแตกต่างด้านวัฒนธรรมเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

ผู้ชายก็มีโอกาสที่จะหา “แฟนสาวชาวญี่ปุ่นฮอตๆ”แต่ว่าควรจำวัฒนธรรมที่แตกต่างและประเพณีการออกเดทให้ขึ้นใจ ตามด้านบนของบทความที่บอกไว้ ส่วนผู้หญิงเองก็สามารถหาผู้ชายญี่ปุ่นน่ารักๆได้เหมือนกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้มองจากภายนอกดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่อย่างไรก็ตามภาษาและวัฒนธรรมก็เป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่าทำไมการแต่งงานกำลังลดลง ก็เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากที่ผู้คนในทุกๆที่เจอ มันยากที่จะมีความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มันต้องใช้ทั้งความอดทน ความเข้าใจ และความตรงไปตรงมา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจคนอื่นได้อย่างเต็มที่ โดยเธอหรือเขาคนนั้นจะรบกวนและทำให้คุณประหลาดใจอยู่เสมอ

แม้จะมีความแตกต่างกันของวัฒนธรรมในการเดท แต่ผู้คนทั่วทุกที่ต่างต้องการหาใครบางคนที่เชื่อใจและร่วมแบ่งปันชีวิตของพวกเขาด้วยกัน มีบางสิ่งที่เกี่ยวกับสังคมสมัยใหม่ที่ทำให้เป็นเรื่องยากขึ้น สำหรับคนสองคนที่จะสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน ด้านกายภาพของความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่มันอาจถูกเน้นย้ำได้ อารมณ์ความรู้สึกที่สื่อถึงกันก็มีความสำคัญไม่น้อยต่อการใช้ชีวิตคู่ที่มีความสุข เป็นสิ่งที่คงเหลืออยู่ตลอดชีวิต ตามการวิจัยที่แสดงให้เห็นด้านบน มันเป็นเรื่องดีในการเก็บรักษาเพศสัมพันธ์ให้ออกห่างจากความสัมพันธ์ที่กำลังผลิบาน สภาพของอารมณ์เองก็มีความสำคัญในด้านของกายภาพต่อการเชื่อมโยงกับคนอื่น มันเป็นผลที่เกิดขึ้นของการรักคนที่พวกเขาชอบมากกว่าที่จะปล่อยไปตามการตัดสินใจของฮอร์โมน

การออกเดทและการแต่งงานที่ญี่ปุ่นประสบปัญหาที่คล้ายคลึงกันกับอเมริกาก็คือ มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อใจคนอื่น และวางความต้องการของเขาหรือเธอไว้เหนือความต้องการของคุณเอง

large (22)

source: weheartit

บทความนี้เป็นหลักการทั่วไปที่อยู่บนพื้นฐานของวัฒนธรรมและงานวิจัย สิ่งเหล่านี้มีข้อยกเว้นอยู่เสมอ การเดทและการแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัวและกิจกรรมที่มีความสนิทสนม ทุกคนล้วนต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือการไม่มีอคติหรือความคิดล่วงหน้ากี่ยวกับคนๆนั้น ภาษาและวัฒนธรรมเป็นอุปสรรคสำหรับการเดทระหว่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม มันมีความเป็นไปได้ที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ด้วยการตรงไปตรงมา, ความเข้าใจ, และแบ่งปันความสนใจ, ใส่ใจในความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน การออกเดทไม่ได้เป็นเพียงแค่การตามหาใครสักคนเพื่อทำให้คุณสมบูรณ์ แต่การออกเดทนั้นเกี่ยวกับคนที่สมบูรณ์ออกตามหาคนที่สมบูรณ์อีกคนเพื่อร่วมใช้ชีวิตร่วมกัน

ที่มา: japanpowered

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top