ไขความลับ!! ทำไมลิปสติกบางตัวทาแล้วปากแห้ง?

เวลาที่เราทาลิปสติกเซลล์ผิวหนังบนริมฝีปากบางส่วน จะแห้งและหลุดลอกออกไปพร้อมกับเนื้อลิปสติกที่เราเช็ดออกเมื่อลบเมคอัพ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ปากของเราแห้งแตก และหลุดลอกออกมานี้ ก็มักจะเกิดขึ้นจากส่วนผสมในเนื้อลิปสติกค่ะ และเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าส่วนผสมในลิปสติกตัวนั้น ส่งผลเสียกับปากของเรา จนกว่าจะได้ลองใช้มันจริงๆ ทำให้บางครั้งต้องทิ้งลิปแท่งนั้นไป ทั้งๆที่ทาไม่กี่ครั้ง น่าเสียดายสุดๆค่ะ

atacora

เพื่อทำให้สาวๆไม่ต้องเสียเงินในกระเป๋าทิ้งไปเปล่าๆ และไม่เสี่ยงกับการสร้างผลเสียให้กับริมฝีปาก เราจึงได้รวบรวมส่วนผสมในเนื้อลิปสติกมาบอกเอาไว้ เพื่อสาวๆจะได้ใช้เป็นหลักในการเลือกลิปสติกที่เหมาะกับผิวและสภาพปากของเรา โดยไม่ทำให้ปากแห้งเสีย นอกจากนี้เรายังมีเทคนิคการดูแลริมฝีปากให้นุ่มสวยมาบอกกันด้วยนะคะ

i.pinimg

ส่วนผสมหลักๆในเนื้อลิปสติกมีอะไรบ้าง?

rodinoliolusso

1. สารให้สี

เรียกว่า ทาร์ ทำขึ้นจากสาร เนฟทาร์ เป็นสารสกัดที่ได้จากการขั้นตอนการผลิตปิโตรเลียม นิยมนำมาใช้เป็นเป็นสารให้สีในเนื้อลิปสติกจำนวนมาก ทาร์ ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพของเรา ทาร์ทั้ง 12 สีที่ผลิตได้นั้น สามารถใช้เป็นสวนประกอบในสีผสมอาหารได้ ยกเว้นทาร์บางชนิด อย่างเช่น สีฟ้า02 และสีเหลือง04 ที่ส่งผลเสียต่อผิวหนังของเรา การใช้น้ำมันทาร์ในลิปสติกแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน และผิวของคนเราก็มีความบอบบาง มีความแพ้แตกต่างกัน ดังนั้น เราควรอ่านสวนผสมที่นำมาทำเป็นสารให้สีในลิปสติกก่อนซื้อ ถ้าเราแพ้สารตัวไหนก็อย่าใช้เด็ดขาด และควรหลีกเลี่ยงลิปสติกที่ใช้ทาร์สีฟ้า02 กับสีเหลือง04 ด้วยค่ะ

2.สารลดแรงตึงผิว

ในเนื้อลิปสติกทุกชนิดจะมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำ และสารจำพวกไขมัน หรือน้ำมันที่ช่วยทำให้ลิปสติกคงรูปอยู่ได้ และช่วยป้องกันความชื้น การที่จะทำให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้ น้ำ กับ น้ำมัน ทำให้มันผสมเข้ากันได้ ต้องใช้สารตัวช่วย นั้นก็คือ สารลดแรงตึงผิว ซึ่งสารตัวนี้ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสงผลเสียต่อผิวหนังของเรา ถึงจะไม่ได้รุนแรงมาก แต่มันจะทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื่น โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณริมฝีปากที่บอบบางกว่าบริเวณอื่นๆ ถ้าสัมผัสกับสารชนิดนี้ไปนานๆ ก็จะส่งผลทำให้ปากของเราแห้ง แตกได้ง่าย แถมทำให้ปากดำคล้ำลงด้วย ดังนั้น สาวๆควรเลือกลิปสติกที่ไม่ใส่สารลดแรงตึงผิว โดยเฉพาะสารที่เป็นสารสังเคาระห์ เน้นลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติดีกว่ามากค่ะ

3.สารกันบูด

ลิปสติกนั้นหมดอายุได้ค่ะ ดังนั้นผู้ผลิตเครื่องสำอางหลายรายจึงคิดค้นวิธีการนำสารกันบูด กันเสีย มาใส่ในเครื่องสำอาง อย่างเช่น สารพาราเบนส์ ที่ทำให้เกิดความระคายเคื่องต่อผิวหนังได้ถ้าใช้ติดต่อกันไปเป็นเวลานาน ซึ่งสารตัวนี้ส่งผลเสียต่อผิวหนังของคนเรา สารพาราเบนส์จะทำร้ายเซลล์ผิวหนังบางส่วน บนริมฝีปากของเราไป ทำให้เกิดริ้วร้อยขึ้นได้ ถึงแม้สารกันบูดในเครื่องสำอางจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อคนเรา แต่สาวๆที่แพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีสวนประกอบนี้ไปเลยค่ะ

drpopham

4.สารโพลิเมอร์

โพลิเมอร์เป็นสารจำพวกพลาสติกค่ะ จะถูกนำมาใช้ในการผลิตลิปสติก เพื่อทำให้เนื้อลิปสติกติดทนนาน ยึดเกาะอยู่บนริมฝีปากได้นาน และยังช่วยเพิ่มความเงางามให้เนื้อลิปสติกได้ด้วย ถึงแม้ตัวสารโพลิเมอร์จะไม่ได้มีอันตรายต่อผิวหนังโดยตรง แต่การที่ใช้ลิปสติกที่มีสวนผสมเป็นโพลิเมอร์ จะติดทนนาน เวลาเราลบเครื่องสำอาง ก็ต้องใช้รีมูฟเวอร์เช็ดและถูออก ซึ่งทำให้ปากเราแห้งแตกได้ง่ายค่ะ

technologyed

เทคนิคการทาปากให้เนียนสวย ปากไม่แห้ง ลิปสติกไม่ตกร่อง!!

ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ประคบเบาๆที่ริมฝีปากเป็นประจำทุกเช้า จากนั้นก็ทาลิปปาล์มเพื่อบำรุงให้ปากชุ่มชื่นก่อนทาลิปสติก เวลาที่จะลบลิปสติกก็ควรใช้พวกออยล์ หรือน้ำมันทาผิวลบ แทนการใช้รีมูฟเวอร์ลบเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ที่มีความเป็นกรด กัดผิวที่บอบบางบนริมฝีปากของเรา เมื่อลบลิปสติกออกหมดแล้ว ก็ควรจะทาลิปปาล์ม หรือครีมบำรุงปากทับไว้อีกรอบหนึ่งค่ะ

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้ปากของเราไม่แห้งเสียเวลาทาลิปสติก ก็คือ ให้สาวๆลองใช้วาสลีนทาผสมไปกับลิปสติกค่ะ เพราะวาสลีน เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยให้ความชุ่มชื่นคุณภาพเยี่ยม เมื่อทาผสมกับเนื้อลิปสติก ก็จะช่วยทำให้ลิปสติกดูนุ่มเนียนไปกับริมฝีปาก เคล็ดลับนี้จะช่วยให้ลิปสติกไม่แห้งเป็นคราบ ทาแล้วไม่ตกร่อง

makeupinindia

ส่วนผสมในเครื่องสำอางเป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆควรรู้ค่ะ เพราะเครื่องสำอางคือสิ่งที่อยู่คู่กับผิวหน้าของเรา ลองสังเกตตัวเองดูนะคะ ถ้าทาลิปสติกตัวไหนแล้วปากแห้งมาก หรือมีอาการแพ้ ต้องอ่านส่วนผสมที่มีอยู่ในเนื้อลิปสติกตัวนั้น แล้วหลีกเลี่ยงไม่ใช้อีก หรือเลือกใช้ลิปสติกที่มีสวนผสมจากธรรมชาติ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาริมฝีปากของเราให้สวย นุ่มเนียนต่อไปได้อีกนานค่ะ เคล็ดลับดีๆแบบนี้พี่อะเครุจะมีมาบอกกันอีกแน่นอน รอติดตามด้วยนะคะ